“จตุพร” ไม่ขวาง “อุ๊งอิ๊ง” นั่งแคนดิเดตนายกฯ

จตุพร จัดงานรำลึกครบรอบ 12 ปี การสลายการชุมนุมปี 53 ระบุ ไม่ขวางทาง “อุ๊งอิ๊ง” นั่งเคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่ม นปช. พร้อมคณะ จัดงานรำลึกเหตุการณ์ครบรอบ 12 ปี เหตุสลายการชุมนุม ปี 53 โดยมีการพิธีสงฆ์ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับวีรชนผู้เสียชีวิตจากการดังกล่าว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายจตุพร เปิดเผยว่า การจัดงานเพื่อรำลึกถึงการต่อสู้ของพี่น้องชาวเสื้อแดงมากว่า 12 ปี หลายคนเสียชีวิตจากหลายเหตุการณ์ทางการเมือง เป็นเหตุการณ์ที่ผู้ฆ่าไม่เคยถูกดำเนินคดี แต่ฝ่ายที่ถูกฆ่าเสียชีวิต บางรายถูกดำเนินคดีตั้งแต่ประชาชนจนถึงแกนนำ ดังนั้นความผูกพันของพี่น้องชาวเสื้อแดงจึงเป็นความผูกพันที่มีมายาวนานในการร่วมเป็นร่วมตาย ทุกคนไม่มีวันลืมการต่อสู้ที่ผ่านมาและยังคงต้องมีการทวงคืนความยุติธรรมอยู่ตลอดเวลา ในช่วง 12 ปีที่ผ่านมานี้ไม่มีอะไรที่ชาวเสื้อแดงจะไม่ได้กระทำเพื่อทวงความยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการร้องไปยังศาลอาญาระหว่างประเทศ แม้ว่าไทยจะไม่ยอมรับเขตอำนาจก็ตามจึงไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับความยุติธรรม ขอเพียงแค่หยุดเหยียบย่ำกล่าวหาว่าคนที่ตายเป็นพวกก่อการร้าย จะเห็นว่าทีาผ่านมาคนเสื้อแดงเป็นกลุ่มที่ได้รับความอยุติธรรมมากที่สุด แต่เราก็เคารพสิทธิเสรีภาพระหว่างกัน ใครจะตัดสินใจอย่างไรก็เป็นเรื่องของเขา แต่ความทรงจำที่ได้ร่วมเป็นร่วมตายกันมาก็จะไม่ลืม วันนี้จึงถือเป็นการทำบุญให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว

โดยทางกลุ่ม นปช. ก็จะทำพิธีกันที่นี่แล้วก็จะมีพิธีสงฆ์ ส่วนในช่วงบ่าย นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตแกนนำกลุ่ม นปช. มีการจัดงานรำลึกที่วัดเสมียนนารี และช่วงค่ำนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ ยก.ลายจุดก็จะจัดกิจกรรมที่แยกราชประสงค์

ส่วนประเด็นที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ้งอิ้ง มีการชวนกลุ่มคนเสื้อแดงกลับบ้านนั้น เป็นสิทธิเสรีภาพไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามสามารถที่จะกล่าวเชิญชวนได้ทั้งนั้น แต่ทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับกลุ่มคนเสื้อแดงว่าจะได้ตัดสินใจอย่างไร เราเคารพในสิทธิเสรีภาพซึ่งกันและกันจึงไม่เป็นปัญหาเมื่อเรายึดมั่นในแนวทาวประชาธิปไตย เราต้องยอมรับเราจะไปบงการชีวิตใครไม่มีทางที่จะทำได้

 

ขณะที่กรณี น.ส.แพรทองธาร ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แล้วมีกระแสข่าวที่จะขึ้นมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีนั้น มองว่าเป็นเรื่องปกติเพราะตามรัฐธรรมนูญไทยปี 60 ระบุว่า บุคคลที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไปสามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ก็ถือว่ามีสิทธิ์เหมือนเช่นคนอื่นตามคุณสมบัติที่รัฐธรรมนูญกำหนด ตนเองไม่ได้มีความกังวลใดๆว่าเป็นแล้วจะต้องเกิดอะไร เพราะฉะนั้นเมื่อรัฐธรรมนูญเปิด ทุกคนก็มีสิทธิ์ บางคนอาจมองว่าได้เป็นนายกแล้วจะต้องถูกยึดอำนาจ ตนมองว่าไม่มีใครถูกไม่มีใครผิด แต่ว่าบทเรียนมีขึ้นแล้ว การแข่งขันทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับประชาชนในการตัดสินใจ

ขณะเดียวกัน ยังมีกระแสข่าวว่า หาก น.ส.แพรทองธาร ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วจะเหมือนกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ ตนเองก็เห็นว่าทุกเหตุการณ์ย่อมมีบทเรียนเสมอบทเรียนจะเป็นการอธิบายอย่างชัดเจนทำอย่างไรจะนำไปสู่สถานการณ์ไหนดำเนินการอย่างไรจะไปติดกับดักหรือติดบ่วงบทเรียนถึง 2 ครั้งใหญ่ตนเองเชื่อว่าประวัติศาสตร์จะอธิบายสถานการณ์ปัจจุบันได้เป็นอย่างดีว่าเราจะต้องป้องกันอย่างไรตนเองไม่ต้องการปรามาสใคร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"กัน จอมพลัง" พา "คุณป้า" คู่กรณีพีช นั่งรถวีลแชร์ ร้องยธ. คุ้มครองพยาน-ยื่นรับเงินเยียวยาจากรัฐ พร้อมอัปเดตอาการคุณลุง
"สมยศ"รอด! ศาลอาญาฯ สั่งจำคุก "เนตร" 3 ปี "ชัยณรงค์ " 2 ปี ร่วมช่วยเหลือคดี "บอส อยู่วิทยา"
คุมตัว "3 คนไทย" ในฐานะผู้ถือหุ้น "บริษัทไชน่า เรลเวย์" ฝากขังศาล ยังให้การปฏิเสธ
น้อมนำแนวพระราชดำริ 'สร้างความมั่นคงทางอาหาร' 37 ปี โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน
"นฤมล" ยันไม่มีสัญญาณปรับครม. พรรคกล้าธรรมไม่คิดย้ายกระทรวง
"ทวี" แจงเพจ "ประชาชาติ" โพสต์ค้านร่างกม.เอนเตอร์เทนเมนต์ฯ" ชี้เป็นความเห็นส่วนตัวสส. ยังไม่ใช่จุดยืนพรรค
“ภูมิธรรม” ย้ำยังไม่ได้รับสัญญาณปรับครม.จากนายกฯ ลั่นความสัมพันธ์ยังเหมือนเดิมกับภูมิใจไทย
"ราคาทองคำ" เช้านี้พุ่งแรง 1,550 บาท ทำนิวไฮ ดัน “รูปพรรณ” ขายออก 55,550
"ภูมิธรรม" เรียกถก "รอง ปลัดมท.-แม่ทัพภาค 4-ผบช.ภ.9" ปรับแผนแก้ไฟใต้ หลังคนร้ายลอบยิงสามเณรเสียชีวิต
“วรพล-วิชิตา”ซิวแชมป์คลาสเอ สวิงเยาวชนภาคเหนือที่ รอยัลเชียงใหม่

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น