ยังเป็นกระแสอต่อเนื่อง กรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งให้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง 4 นายตำรวจที่คลี่คลายคดีแตงโม หลังจากนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือร้องเรียนให้ตรวจสอบ
ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวมาจากทางฝั่งของนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของแม่แตงโม แสดงความเห็น กรณี 4 นายตำรวจใหญ่ถูกตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นไปตามขั้นตอนในการตรวจสอบ ตำรวจรับเรื่องที่นายอัจฉริยะ มาร้องไว้ พรุ่งนี้ต้องไปให้ข้อมูลกับจเรตำรวจ สอบสวนว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่
ข่าวที่น่าสนใจ
ทั้งนี้อยากบอกว่าคดีแตงโม เสร็จสิ้นหน้าที่ของตำรวจแล้ว ขั้นตอนจากนี้คือ อัยการและศาล การร้องเรียนต่างๆ ไม่มีผลต่อการสอบสวนหรือความเชื่อมั่นของตำรวจ ถ้าอยากจะเรียกร้องควรไปร้องอัยการ หรือมีพยานหลักฐานอะไร ก็สามารถส่งมาที่ตนเองได้ ส่วนกรณีที่นายอัจฉริยะ นำพยานหลักฐานที่อ้างว่าเป็นพยานหลักฐานใหม่ไปให้กับดีเอสไอ ตนเองยังไม่เห็นหลักฐานใหม่ ซึ่งหลักฐานใหม่ที่นายอัจฉริยะกล่าวหาตำรวจก็มีหมดแล้ว ส่วนตัวมองว่านายอัจฉริยะ ไม่มีความรู้ทางกฎหมายเพียงพอ
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่าแม่แตงโมทราบเรื่องตำรวจถูกร้องเรียนแล้วมีความคิดเห็นอย่างไร ทนายเดชาบอกว่า ยังไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ แต่แม่แตงโมมีข้อสงสัยในประเด็นที่อยู่ในโซเชียล ซึ่งตนเองพร้อมจะนำไปส่งต่อให้อัยการ จากนี้เตรียมจะทำหนังสือเพื่อขอนำศพไปประกอบพิธีทางศาสนาในวันที่ 24 พฤษภาคมนี้ ส่วนทุกประเด็นที่นายอัจฉริยะตั้งข้อสังเกต เช่น เชื่อว่าแตงโมถูกฆาตกรรม บางประเด็นบางเรื่อง ตนเองไม่สามารถนำมาบอกกับสื่อได้เพราะอาจจะกระทบกับสำนวน หากการร้องเรียนของนายอัจฉริยะ ท้ายที่สุดไม่เป็นความจริง ก็อาจต้องถูกฟ้องร้องกลับ ซึ่งเท่าที่ทราบมาก็มีการฟ้องร้องในหลายคดีแล้ว เพียงแต่ตำรวจไม่ออกมาบอกกับสื่อมวลชนเท่านั้นเอง
ทนายเดชาบอกอีกว่า ณ เวลานี้มีศาลอยู่ 2 ศาล คือศาลโซเชี่ยล กับศาลยุติธรรม จึงขอให้ประชาชนเชื่อมั่นและตัดสินเองว่าควรจะเชื่อศาลไหน
ทนายเดชา ยังได้ฝากไปถึงนายอัจฉริยะรวมไปถึงผู้คนในสังคมที่ติดตามข่าวสารผ่านทางโซเชียลว่า ขอให้ยอมรับกับการวิพากษ์วิจารณ์ อย่าทำเหมือนเป็นเรื่องบันเทิง เพราะหลังจากนั้นโทษหมิ่นประมาทอาจจะตามมา หากมีพฤติกรรมด่าไปทั่วโดยไม่มีหลักฐานก็ดำเนินคดีได้ ต้องยอมรับการถูกดำเนินคดีย้อนหลังด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
