DES คิดอะไรมอบรางวัล สร้างภาพนายกฯเป็นพรีเซ็นเตอร์ “บิทคับ”

DES คิดอะไรมอบรางวัล สร้างภาพนายกฯเป็นพรีเซ็นเตอร์ "บิทคับ"

กลายเป็นประเด็นใหญ่ จากกรณีเมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2565 มีภาพและข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ร่วมเยี่ยมชมกิจกรรมนำเสนอ ผลการขับเคลื่อนให้เกิดการใช้ประโยชน์จาก “ข้อมูล” หรือ d – DATA โดยมี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วย นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล , นางสาวธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ , นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด และนายสรณะ นุชอนงค์ กรรมการผู้จัดการบริษัท วิสัย เอไอ จำกัด ร่วมกันนำเสนอผลการขับเคลื่อนให้เกิดการใช้ประโยชน์จาก “ข้อมูล” หรือ d – DATA ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้า กรณีของ บริษัทบิทคับฯ มีประเด็นถูกวิพากษ์วิจารณืในหลายแง่มุม

ยิ่งกว่านั้น เมื่อตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ในเพจเฟซบุ๊ก ของนายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ในการโพสต์เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2565 ระบุข้อความว่า บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป ได้รับรางวัล “Prime Minister’s Digital Awards” ในสาขา Digital Startup of the year 2021 ซึ่งจัดขึ้นโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จาก นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

พร้อมแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับความสำคัญของบล็อกเชนต่อเศรษฐกิจในอนาคต ซึ่งบล็อกเชนเป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่ประเทศชาติจำเป็นต้องมี และเศรษฐกิจ ธุรกิจที่จะเกิดใหม่ด้วยบล็อกเชนจะเป็นการสร้างโอกาสแก่ประชาชน

แต่นอกเหนือจากลักษณะการสื่อสารในเชิงโปรโมท ผ่านภาพคู่ พล.อ.ประยุทธ์ แล้ว ยังมีการโพสต์ประโยคที่เป็นไฮไลต์ ว่า บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป ขอขอบคุณผู้จัดงาน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน…ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของบิทคับ บิทคับ ว่า พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย ด้วยความรู้และเทคโนโลยี เราจะมุ่งมั่นพัฒนาระบบของเราให้ดียิ่งขึ้น เพื่อเป็นโครงสร้างและสะพานที่แข็งแรงให้กับผู้คนในประเทศไทย

แน่นอนว่าสิ่งที่ “ผู้บริหาร บิทคับ” สื่อสาร แทบไม่ต่างกับกรณีที่สื่อหลายสำนัก วิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นการนำพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับธุรกิจการลงทุนที่เรียกว่า “บิทคับ” นั่นเอง

และเป็นประเด็นที่ถูกตั้งคำถามถึงความเหมาะสม เพราะเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2565 “นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล” เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยการประชุมคณะกรรมการ ก.ล.ต. ครั้งที่ 5/2565 เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2565 เกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์การโฆษณาของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล

ระบุชัดเจนว่า จากการที่ ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ไข หลักเกณฑ์การโฆษณาของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ผู้ประกอบธุรกิจ) ไปเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม 2565 และได้นำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้เกี่ยวข้องและผู้สนใจมาพิจารณาประกอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์แล้วนั้น คณะกรรมการ ก.ล.ต. ได้มีมติเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าว

คณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติให้เพิ่มเรื่องให้ผู้ประกอบธุรกิจ แจ้ง ก.ล.ต. เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการจัดทำโฆษณา เพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลของ ก.ล.ต. รวมทั้งเน้นย้ำเรื่องการห้ามโฆษณาคริปโทเคอร์เรนซีในพื้นที่สาธารณะ โดยให้โฆษณาเฉพาะในช่องทางทางการของผู้ประกอบธุรกิจ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการส่งเสริมให้ผู้ลงทุนมีการซื้อขายในลักษณะเร่งการตัดสินใจ (impulsive buying)

พร้อมย้ำ หลักเกณฑ์การโฆษณาอื่น ต้องเป็นไปตามหลักการเดิม เช่น
(1) ต้องไม่เป็นเท็จ ไม่เกินความจริง ไม่บิดเบือน ไม่ปิดบัง หรือทำให้สำคัญผิดในสาระสำคัญ
(2) ต้องระบุคำเตือนเรื่องความเสี่ยงตามที่ ก.ล.ต. กำหนดอย่างชัดเจนและสังเกตได้ง่าย
(3) ห้ามโฆษณาเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีในพื้นที่สาธารณะ ขณะที่การโฆษณาเกี่ยวกับการให้บริการยังคงสามารถทำได้ในพื้นที่สาธารณะและช่องทางอื่น ๆ
(4) ต้องควบคุมดูแลการโฆษณาของบริษัท บริษัทในกลุ่มที่อยู่นอกเหนือการกำกับดูแลของ ก.ล.ต. และบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกิจการ รวมถึงผู้ทำโฆษณาและผู้ที่มีผลต่อการตัดสินใจต่อผู้ใช้บริการในสังคมออนไลน์ (influencer) ให้เป็นตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
(5) ยกเลิกการจัดให้มีผู้แนะนำรายชื่อลูกค้าให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจคริปโทเคอร์เรนซี

และ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้ความคุ้มครองผู้ซื้อขาย รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแล ซึ่งสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแลในต่างประเทศ ก.ล.ต. จะจัดทำร่างประกาศตามหลักการข้างต้นและดำเนินการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ก่อนนำออกใช้บังคับโดยเร็วต่อไป

แต่ประเด็นที่เห็นตรงข้าม ก็คือ “บิทคับ” ให้ความสำคัญกับการ ทุ่มงบประชาสัมพันธ์อย่างหนรัก โดยเฉพาะการเผยแพร่ป้ายโฆษณา “บิทคับ” โดยมีภาพ “ท๊อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา” ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด เป็นพรีเซ็นเตอร์ กระจายอยู่ทั่วไปในกทม.

ในมุมกลับ คำถามก็คือ ทำไมก.ล.ต.ต้องออกมาตรการ ควบคุม การประชาสัมพันธ์ในเชิงการตลาดของ “คริปโท” หรือ สินทรัพย์ดิจิทัล ประเภทหนึ่ง ก็คือ เป็นการลงทุนที่มีความเสี่่ยงสูง และรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ มีคำเตือนกรณีนี้มาโดยตลอด จากปัญหาที่รับฟังเรื่อง ภาวะการขาดทุน และความเสี่ยงที่่เกิดขึ้น อาทิ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

วันที่ 23 ตุลาคม 2564 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงนักลงทุนในการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน คนรุ่นใหม่วัยทำงาน หลังพบว่า มีเข้ามาลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ด้วยเหตุเพราะเข้าถึงได้ง่าย ใช้ระยะเวลาสั้นแต่ได้รับผลตอบแทนที่รวดเร็ว

จึงฝากเตือนให้นักลงทุน พิจารณาถึงความเสี่ยงจากการลงทุนประเภทนี้ให้มาก เนื่องจากคริปโตเคอเรนซีไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ เป็นการเก็งกำไรและมีความผันผวนสูง

ส่วนผู้ปกครองที่เปิดบัญชีให้เยาวชน ต้องมีความระมัดระวังในการลงทุนและดูแลอย่างใกล้ชิด จึงขอให้ผู้สนใจที่จะลงทุนทำความเข้าใจในลักษณะความเสี่ยง ต้องแน่ใจว่าสามารถยอมรับการสูญเสียเกือบทั้งจำนวนได้ หาข้อมูลและพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ และที่สำคัญ อย่าหลงเชื่อคำโฆษณา ต้องเลือกผู้ให้บริการที่ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

จากนั้น เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้มอบหมายกระทรวงการคลัง ให้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และภาคเอกชนในการศึกษาความเหมาะสมในเชิงนโยบาย โดยข้อมูลล่าสุดก็ได้เห็นพัฒนาการของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลว่าเริ่มเป็นที่นิยม แต่ก็ยังยอมรับกันในวงจำกัด หากเร่งให้การสนับสนุนโดยไม่พิจารณาอย่างรอบด้าน อาจเกิดวิกฤตคริปโตฯ เช่นเดียวแบบเดียวกับวิกฤตการเงินได้

“รัฐบาลไม่ปฏิเสธการพัฒนาตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล นโยบายของท่านนายกรัฐมนตรี คือต้องให้ผู้ลงทุนมีความเข้าใจ รู้เท่าทันในระดับที่มากและกว้างขวางพอ วางเกณฑ์การกำกับที่ดีและมีนโยบายการสนับสนุนด้านต่าง ๆ รวมถึงเรื่องของภาษีไปพร้อมกัน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจสูงสุด และท่านก็ได้ฝากความห่วงใยถึงผู้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลทุกคน ว่าขอให้ทำความเข้าใจตลาดอย่างรอบด้านก่อนตัดสินใจลงทุนด้วย”

ระยะหลัง มีผู้ลงทุน หรืออาจจะเรียกว่า แมงเม่า เข้ามาเล่าความทุกข์ร้อนในสื่อออนไลน์ หลังขาดทุนจากการลงทุนในคริปโตกันถ้วนหน้า พร้อมตั้งคำถามว่า ทำไมรัฐบาลไม่มีมาตรการช่วยเหลือผู้ลงทุนในคริปโต จนมีการออกมาตอกกลับว่า มีประเทศไหนในโลกบ้าง ที่ชดเชยเงินให้ผู้ลงทุนที่เป็นแมงเม่า

ในโลกความเป็นจริงนั้น มีการเตือนเรื่องการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล มาโดยตลอด ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานก.ล.ต. กระทรวงการคลัง ไม่เว้นแม้แต่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อย่างนายกรณ์ จาติกวณิช ที่ออกมาแชร์ 6 หลักคิดลงทุน เตือนใจนักเล่นคริปโต

โดยธปท. ยังได้ออกมาระบุว่า การนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการ (Means of Payment: MOP) จะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อประชาชน และส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินและระบบเศรษฐกิจอย่างไร ทำไมสินทรัพย์ดิจิทัล ถึงไม่เหมาะนำมาใช้เป็นเงิน เพื่อซื้อขายสินค้าและบริการ

อีกประเด็นที่ถูกจับตามอง คือ แผนการเข้าซื้อหุ้นบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด หรือ Bitkub ในสัดส่วน 51% มูลค่ากว่า 1.78 หมื่นล้านบาท จากบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด โดยมีผู้ก่อตั้งคือ “ท๊อป” จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา หรือ “ซุปเปอร์ดีล” ที่ยังไม่ได้รับการคลี่คลายหรือคำตอบที่ชัดเจนของผู้บริหารของธนาคารไทยพาณิชย์

ขณะที่ ธปท. ยังไม่ได้รับแผนดังกล่าว อย่างเป็นทางการ ด้านนักวิเคราะห์ ออกมาประเมินดีลต้องอาจเลือนออกไปหลังไตรมาส 2 คาดต่อรองราคาใหม่ต่ำกว่า 1.78 หมื่นล้านบาท หลังวอลุ่มเทรดลดฮวบ

จากกรณีที่เกิดขึ้น จึงต้องพิจารณาว่า เหมาะสมหรือไม่ไม่ กรณีที่หน่วยงานสำคัญอย่าง ดีอีเอส จัดกิจกรรม ดังกล่าว เสมือนเป็นการเปิดโอกาส ให้ “บิทคับ” นำกรณีไปใช้เป็นแผนโปรโมทองค์กรไปโดยปริยาย ท่ามกลางสารพัดปัญหาที่เป็นอยู่ของ “บิทคับ” และ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ย้ำนักย้ำหนา ในคำเตือนเรื่องความเสี่ยง การลงทุนทรัพย์สินดิจิทัล ซึ่งกำลังสร้างปัญหาให้กับนักลงทุนทั่วโลกเวลานี้

 

 

 

 

ล่าสุด วันนี้ (20 พ.ค.65) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตี ออกมากล่าวถึงกรณีดังกล่าว วอนอย่าตีความเกินภาพถ่ายกรณี “ท๊อป จิรายุส” ผู้บริหาร “บิทคับ” มีภาพถ่ายรูปร่วมกับพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ ทำเนียบรัฐบาล ระหว่างเยี่ยมชมนิทรรศการการใช้ประโยชน์จากข้อมูล หรือ d-DATA ให้เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน

และผู้บริหาร “บิทคับ” ได้ร่วมนำเสนอถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน ร่วมกับ หน่วยงานด้านการใช้บิ๊กดาต้าของประเทศ ภาพถ่ายดังกล่าว ผู้บริหาร “บิทคับ” ได้มีการนำรางวัล “Prime Minister’s Digital Awards 2564 ทำให้ทาง บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ได้รับรางวัลใน สาขา Digital Startup of the Year แสดงถึง Startup ที่มีการวิจัยและพัฒนา หรือการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการพัฒนาบริการรูปแบบใหม่ และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในระดับชาติ/นานาชาติ

ซึ่งการมอบรางวัลในลักษณะนั้น ขอยืนยันว่าไม่มีนัยสำคัญ และไม่ใช่เป็นการส่งสัญญาณด้านการลงทุนอย่างใด เพราะที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำเตือนมาตลอดว่าการลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง ดังนั้น ผู้ลงทุนต้องระมัดระวัง รอบครอบ ศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ก่อนการตัดสินใจทุกครั้ง

นายธนกร ยังกล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายในการสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยพัฒนาระบบการเงิน เพื่อให้ผู้ใช้บริการทางการเงินมีความสะดวกและมีคุณภาพ ไทยยังเป็นประเทศแรก ๆ ที่มีกฎหมายรองรับการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล คือ พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรียังได้เน้นย้ำการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น บล็อกเชน และปัญญาประดิษฐ์ ต้องให้เกิดประโยชน์สูงสุด สานต่อการดำเนินงานระหว่างภาครัฐและเอกชนในการพัฒนาประเทศและเทคโนโลยี ด้วยความร่วมมือทั้งจากคนรุ่นใหม่ และคนรุ่นเก่าด้วย

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“อนุทิน” มอง “ปทุมธานี” เป็นเมืองต้นแบบกระจายอำนาจ ยินดี “บิ๊กแจ๊ส” นั่งนายกฯอบจ.
สุดเศร้า ลูกเศร้า กลับจากโรงเรียนเจอพ่อผูกคอดับ ขณะแม่ได้ข้อความขอโทษจากลูกชาย แต่ไม่ได้เอะใจ
จังหวัดฉะเชิงเทรา จัดงานนมัสการหลวงพ่อโสธรและงานประจำปีจังหวัดฉะเชิงเทรา พ.ศ. 2567 ครั้งที่ 134 ระหว่างวันที่ 12 - 24 พฤศจิกายน 2567 ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา
‘ทนายไพศาล’ ยืนยันไม่ได้เป็นทนายให้ ‘ซินแสดัง’ขออีกฝ่ายอย่าเอารูปถ่ายคู่กันไปแอบอ้าง
งาน CIIE ครั้งที่ 7 เปิดฉากแล้วที่จีน
ตร.เมืองชล ตั้งด่านป้องปรามอาชญากรรม-ยาเสพติดกลางดึก หนุ่มขนยาบ้า 3 แสนเม็ด ขับผ่านด่านแต่ไม่รอด สารภาพรับจ้างขนยา 3 หมื่น ยังไม่ได้รับค่าจ้าง ถูกจับเสียก่อน
เลือกตั้งสหรัฐเปิดฉากขึ้นแล้ว
ศรชล.ภาค1 ร่วมกิจกรรมดำน้ำเก็บขยะในทะเลและชายหาดกับนักดำน้ำ เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมใต้ทะเล (นพอ.) ณ เกาะยอ สัตหีบ
สว.จร.พัทยา วางแผนจัดทัพรับมืองานพลุนานาชาติ เตรียมที่จอดรถกว่า 30,000 คัน ไว้รองรับนักท่องเที่ยว พร้อมออกมาตรการวินผีฟันค่าโดยสารราคาเกินจริง
ฉาว "ชาวบ้าน" ยันเห็น "หลวงตา" ล็อคห้องอยู่กับสีกา สองต่อสอง อ้างชวนไปนับขวด ก่อนเผ่นหนีไปอยู่อีกวัด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น