ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 เวลา 17.30 น. ขณะที่ ร.ต.ท.ณัฐวัตร ละดาวัลย์ รอง สว สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทองว่า มีเหตุคนร้ายเป็นชาย 1 คน อายุประมาณ 30-35 ปี รูปร่างผอมสูง ผิวสีดำแดง ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 110 ไอ สีแดงดำ ไม่ติดแผ่นป้าย สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สีดำ นุ่งกางเกงขายาวสีดำ สวมเสื้อแขนยาวสีเขียว รองเท้าผ้าใบก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้บังคับพนักงานขับรถส่งสินค้าบริษัทมีชื่อแห่งหนึ่งในตัวเมืองอุดรธานี ก่อนใช้อาวุธปืนพกแบบแม็กกาซีน สีดำ ไม่ทราบว่าเป็นอาวุธปืนจริงหรือปลอม ทุบศีรษะบริเวณเหนือคิ้วซ้ายผู้เสียหาย 1 ครั้ง จนปูดบวม ก่อนชิงเงินสดไป 14,000 บาท และขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางสามแยกบ้านดอนหาด ต.สามพร้าว อ.เมืองอุดรธานี ไม่ทราบว่าคนร้ายจะเลี้ยวซ้ายไปทาง ต.สร้างแป้น อ.เพ็ญ หรือเลี้ยวขวาไปทาง ต.สามพร้าว อ.เมืองอุดรธานี
หลังรับแจ้งจึงรุดออกไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ต.วิเชียร คล้อยดี สว.สส.ภ.จ.อุดรธานี, ร.ต.อ.สมพร จันทร์ลอย รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี, ร.ต.อ.วงศ์วริศ ธรรมโกลัง รอง สว.ป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังตำรวจป้องดันและปราบปราม และตำรวจสืบสวน ภ.จ.อุดรธานี ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี และตำรวจชุมชนตำบลสามพร้าว
ที่เกิดเหตุพบนายชัยยุทธ์ มอญชื่น อายุ 32 ปี บ้านเลขที่ 113/5 ม.12 ต.ท้ายดง อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ผู้เสียหายรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ริมถนน ระหว่างบ้านดอนหาด-บ้านนาหยาด ต.สามพร้าว ด้วยสีหน้าตื่นตระหนก ข้างรถกระบะส่งสินค้าติดหลังคาตู้เหล็ก ยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรทรัน สีขาว ทะเบียน บธ 4216 หนองบัวลำภู ซึ่งบริเวณที่เกิดเหตุห่างจากหมู่บ้านและเป็นทางเปลี่ยว ไม่มีบ้านเรือนของชาวบ้าน และเป็นป่าละเมาะสองข้างทาง
จากการสอบสวน นายนายชัยยุทธ์ มอญชื่น ผู้เสียหาย ให้การว่า ตนมีภรรยาเป็นชาว อ.หนองแสง จ.อุดรธานี และทำงานส่งสินค้ามา 4-5 ปี ที่กรุงเทพมหานคร ก่อนกลับมาทำงานอยู่ที่ จ.อุดรธานี อยู่กับภรรยาที่บ้าน โดยรถคันนี้เป็นรถของตนที่เข้าร่วมส่งสินค้ากับทางบริษัท และเพิ่งทำงานที่อุดรธานีได้เพียง 2 เดือน และรับผิดชอบส่งสินค้าในพื้นที่เกิดเหตุ ก่อนเกิดเหตุตนกำลังไปส่งสินค้าที่บ้านนาหยาด และเห็นคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์สวนทางมา และคนร้ายได้เลี้ยวรถจักรยานยนต์กลับมาตามหลังรถของตน พร้อมกับบีบแตรเหมือนส่งสัญญาณให้จอด เพื่อรับสินค้าเหมือนกับลูกค้าที่เคยทำ เพราะจำรถของตนได้ จึงจอดรถและคนร้ายเดินมาบอกให้ตนลงจากรถ
”ขณะตนเปิดประตูลงจากรถ คนร้ายได้ดันตัวของตนไปชิดกับตัวรถ และคนร้ายพยามดึงกระเป๋าสะพายสีดำที่ตนเก็บเงินไว้ และคนร้ายได้ใช้มือด้านขวาล้วงเอาอาวุธปืนแบบแม็กกาซีน สีดำ ออกมาทุบที่ศีรษะของตน 1 ครั้ง ก่อนจะบอกว่าให้ตนส่งเงินมาทั้งหมด ด้วยความกลัวและได้รับอันตราย ตนจึงเปิดกระเป๋าให้คนร้ายหยิบเงินเอาไปทั้งหมด จำนวน 14,000 บาท ก่อนคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ตนจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือ พร้อมกับแจ้งไปทางหัวหน้าพนักงานบริษัทส่งของที่ตนทำงานอยู่ให้รับทราบ และขอให้ตำรวจติดตามคนร้ายให้ได้โดยเร็ว”
หลังจากนั้นตำรวจได้วิทยุแจ้งตำหนิรูปพรรณคนร้าย และยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุ ตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้หลบหนี แต่ก็ไร้วี่แวว อย่างไรก็ตามตำรวจสืบสวน จะได้แกะรอยคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว กฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.อุดรธานี