นายกฯ ตบอกซ้าย หลังถูกถาม หวั่นไหวหรือไม่โดนม็อบขับไล่?

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตบอกซ้าย หลังถูกถาม หวั่นไหวหรือไม่โดนม็อบขับไล่?

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึง กรณีการหยุดงานจากเหตุสุดวิสัยจะได้รับเงินเยียวยา 50 เปอร์เซ็นต์ แต่ต้องอยู่ในพื้นที่6จังหวัด โดยที่รัฐบาลจะเข้าไปสมทบให้ ส่วนโครงการคนละครึ่งที่มีข่าวว่าจะเลื่อนนั้น ยืนยันว่าไม่เลื่อน ยังเป็นไปตามกำหนด รวมถึงโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ไม่ได้มีเลื่อนอะไรทั้งสิ้น ขณะที่ผู้ประกอบการที่ถูกคำสั่งไม่ให้นั่งกินในร้านจากคำสั่งล่าสุดรับผลกระทบหนักนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เดี๋ยวจะไปดู ต้องขอเวลาดูก่อน แต่รัฐบาลก็สมทบเงินเยียวยาให้อยู่แล้วในช่วง 1 เดือนนี้ได้หมด ถึงบอกว่าขอดู 1 เดือน และในระยะเวลา 1 เดือน ก็จะดูในช่วงเวลา 15 วันด้วย โดยจะต้องประมาณการณ์ว่าหากดีขึ้นจะทำอย่างไร อย่างวันนี้สถานประกอบการที่มีคนก่อสร้างเขาก็เดือดร้อน ซึ่งต้องพิจารณาเป็นกรณีไป กรณีไหนที่สามารถหยุดได้ชั่วคราวก็ขอให้หยุดไปก่อน แต่กรณีไหนที่ต้องทำงานต่อทางด้านเทคนิค เช่น การทำอุโมงค์หรือก่อสร้างที่ได้ขึ้นชั้นไปแล้ว ซึ่งต้องมีเวลาการเซ็ตตัวอะไรประมาณนี้ ก็ต้องขออนุมัติขึ้นมา ศบค.กำลังพิจารณาอยู่ ก็รู้ถึงความเดือดร้อน และก็เดือดร้อนไปทั้งหมด พวกเราก็เดือดร้อนไปไม่น้อยกว่า เพราะต้องคิดว่าทำอย่างไรจะให้คนสามารถดำรงชีวิตได้ในช่วงนี้ และอยากฝากว่าหลายประเทศเขาเดือดร้อนยิ่งกว่าเรา

ส่วนจะมีการประเมินหรือไม่ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันที่สูงขึ้นจะเบาลงได้ในช่วงเวลาไหน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตัวเลขที่ขึ้นต้องยอมรับในหลักการ ถ้าไม่ค้นหาเชิงรุกตัวเลขก็ไม่ขึ้น คำแนะนำของหมอให้ค้นหาเชิงรุก ซึ่งก็ต้องเจอ และหลายคนติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ บางส่วนแข็งแรงแต่เชื้อไปแพร่คนอื่น ฉะนั้นเมื่อมีการตรวจค้นเชิงรุกเราต้องยอมรับตัวเลขที่เพิ่มขึ้น แต่เมื่อเพิ่มขึ้นมาแล้วก็ต้องดูในส่วนของผู้ที่รักษาหายรายวันว่ามีด้วย ต้องไปบริหารจัดการว่าทำอย่างไร และพื้นที่ไหนที่มีการแพร่ระบาดก็ต้องมีการพิจารณาเรื่องวัคซีน ได้ปรับตัวเลขอย่างนี้มาตลอดเวลา ไม่ได้ทำงานรายวัน แต่คิดกันเป็นระบบ และต้องรู้ว่าการทำงานประกอบด้วยหลายส่วนงาน หากคิดคนเดียวความคิดเห็นท่านอาจจะถูก แต่บางครั้งมันทำไม่ได้ ถูกต้องหรือไม่ ตรงนี้ต้องเห็นใจ

“รัฐบาลนี้ผมขอยืนยันดูแลเต็มที่ และรับฟังความเห็นของทุกคน ชอบไม่ชอบผมก็ฟังและนำมาดูทั้งหมด ซึ่งต้องดูว่าอันไหนที่ทำได้ผมก็รับมา แต่ถ้าไม่เป็นประโยชน์ผมก็ไม่อยากจะดู ถ้าในเชิงสร้างความเกลียดชังความขัดแย้งมากๆมันไม่เกิดประโยชน์ เวลานี้บ้านเมืองมันต้องเป็นอย่างนี้ ผมไม่รังเกลียดใครเลย เพราะผมถือว่าทุกคนเป็นคนไทย หลายๆอย่างผมก็เสียใจอยู่เหมือนกัน ที่หลายๆคนก็ใช้วาจากิริยาไม่สุภาพ มันควรหรือไม่ประเทศไทยในวันนี้ ผมก็ไม่อยากจะพูดหรอก และผมก็อดทนอยู่แล้ว”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

สำหรับการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ลงไปดูเรียบร้อยดี ไม่มีปัญหาอะไร ยืนยันวันที่ 1 ก.ค.เปิดรับนักท่องเที่ยว นายกฯจะลงไปในพื้นที่วันที่ 1 ก.ค.ตามกำหนดการเดิม เรื่องนี้ทุกคนต้องช่วยกัน ต่อให้นายกฯประกาศอะไรไปถ้าทุกคนไม่ร่วมมือก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ถ้าทุกคนไอ้นั้นก็ไม่ได้ไอ้นี่ก็ไม่ได้ ไอ้นี่จะเอา ไอ้นี่ไม่เอา แล้วมันจะทำอะไรได้ มันต้องหามาตรการที่เหมาะสมแล้วเดินหน้าไปให้ได้ วันนี้ตนต้องเชื่อฟังทางคุณหมอ ระบบสาธารณสุข เขายืนยันว่าถ้าเราฉีดวัคซีนในพื้นที่ภูเก็ต และคนที่เข้ามาได้รับวัคซีน 2 เข็ม และอยู่ในพื้นที่ๆเป็นเกาะเราก็คอนโทรลได้ เมื่อทำเกาะนั้นได้ก็ทำเกาะอื่นต่อไป จากนั้นก็มาดูพื้นที่ที่เป็นแผ่นดินใหญ่ มันต้องทยอยอย่างนั้น ถ้าทำพรึบเลยทีเดียวก็เกิดปัญหา ที่ผ่านมาเห็นว่าทุกคนเดือดร้อน ขอผ่อนคลายตนก็ผ่อนคลายให้ เมื่อผ่อนคลายแล้วเกิดปัญหาก็ต้องมาร่วมมือแล้วแก้ปัญหาใช่หรือไม่ เช่นร้านอาหารขอเปิดตนก็ให้ 25 เปอร์เซ็นต์ตนก็ให้ 50 เปอร์เซ็นต์ตนก็ให้ แต่ถ้าเกิดปัญหาจะให้ตนทำอย่างไร วันนี้จะเห็นได้ว่าตำรวจทหารไปตรวจทุกที่ จับกุมได้ทุกวัน เพราะยังมีคนที่ไม่ค่อยร่วมมืออยู่ นี่แหละสำคัญ ซึ่งจะทำให้คนอื่นเดือดร้อน

ส่วนเรื่องเตียงสนามที่ยังเป็นปัญหาไม่เพียงพอต่อผู้ป่วย ผู้ป่วยต้องรอเตียงหลายวัน นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้กำลังดำเนินการอยู่ ต้องคลี่คลายตรงนี้ไปตรงโน้น ตรงโน้นไปตรงนี้ วันนี้เร่งเพิ่มสีแดง และวันนี้ก็เห็นมีข่าวหนีไปต่างจังหวัด เขากักไว้อย่างนั้น เป็นการย้ายคนไปที่โน่นที่นี่ แต่ท้ายที่สุดก็ต้องเตรียมการ เพราะเรารู้อยู่แล้ววว่ามาตรฐานด้านสาธารณสุขเรารับคนได้เท่าไหร่ในสถานการณ์ปกติ นี่เมื่อมีสถานการณ์โควิดก็หลักพัน ยอดสะสมมีอีกเท่าไหร่ และกลับบ้านไปอีกแล้วเท่าไหร่ ซึ่งตอนนี้เหลือประมาณ 40,000 รายที่อยู่ในระบบรักษา ซึ่งรัฐบาลก็รองรับตรงนี้อยู่ และสั่งการให้เตรียมรับสีแดงให้มากขึ้น ปัญหาสำคัญนอกจากมีสถานที่และเครื่องมือแล้วจะต้องมีบุคคลากรทางการแพทย์ ซึ่งทางคุณหมอบอกว่าจะนำหมอที่จบใหม่หรือหมอที่กำลังจะจบเข้ามาช่วย สิ่งสำคัญอยู่ที่แพทย์ พยาบาล ที่ต้องมีความรู้ในเรื่องการดูแล ทั้งสีแดง เหลือง เขียว ที่ต้องคิดซ้ำซ้อนหลายอัน อาจจะถูกใจบ้าง ไม่ถูกใจบ้าง แต่ขอให้รู้ว่าเราฟังความคิดเห็นทุกคน เมื่อฟังประชาชนมาแล้วก็ต้องนำมาปรึกษา ทำอย่างไรให้ดีที่สุด

“เห็นใจซึ่งกันและกัน มันจะไปได้หมด แต่ถ้าไม่เห็นใจซึ่งกันและกันมันจะไปไม่ได้ และจะทำให้ความขัดแย้งสูงขึ้น การเมืองก็ขอไว้เถอะอย่าเพิ่งเลย”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถาม นายกฯหวั่นไหวหรือไม่กับการชุมนุมที่มีขึ้นด้วยในขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวพร้อมเอามือตบไปที่หน้าอกว่า “ผมจะหวั่นไหวอะไร ผมยืนอยู่ตรงนี้ ผมไม่เคยหวั่นไหวอะไรทั้งสิ้น ผมเคยบอกแล้วว่าผมจะทำของผมให้ดีที่สุด ตราบใดที่ผมยังทำได้ก็แค่นั้น ผมรักประชาชน รักอย่างเจตนารมณ์อันบริสุทธิ์ ผมไม่ต้องการอะไรจากเขา มีอะไรให้ผมดูแลให้เขาได้มากที่สุด ผมก็จะร่วมมือกับทุกท่าน ทุกคนช่วยกันหมด ณ ตอนนี้ วันนี้รัฐบาลช่วยกัน รัฐบาลเป็นหนึ่งเดียว เรื่องอื่น เรื่องสภา อะไรก็ว่ากันไป รัฐบาลเป็นหนึ่งเดียวในการดูแลประชาชนตรงนี้ ซึ่งต้องมาดูผลงานที่ครม.เขาทำมา เข้าใจหรือไม่”

ส่วนการชดเชยจะรวมย้อนหลังสถานบันเทิงที่ปิดไปก่อนหน้านี้ด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลดูแล บางอันได้ตอนนี้ แต่บางอันได้หลังจากนี้ ขอให้เข้าใจด้วย ตนได้ย้ำแล้ววันนี้เป็นการแก้ไขความเดือดร้อนจากประกาศฉบับที่ 25 เมื่อถามอีกว่า สถานบันเทิงบอกว่าเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับผลกระทบ นายกฯ กล่าวย้ำว่า ก็เยียวยา กระทรวงแรงงานดูแลอยู่แล้ว ทั้งเจ้าของกิจการ ลูกจ้าง ต้องขอบคุณทุกคนที่ยืนอยู่ขณะแถลงข่าวนี้ด้วย ทุกท่านก็เต็มที่

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ศาลนนทบุรี สั่งจำคุกหนุ่มใหญ่ 6 ปี 36 เดือน ผิดคดี 112 โพสต์ข้อความหมิ่นเบื้องสูง
ตร.ปคบ.หอบสำนวน 7000 หน้า ส่งฟ้องคดีหลอกขายทอง “แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์” ให้กับอัยการแล้ว
10 บริษัทโฆษณา ชั้นนำในไทย ที่เชี่ยวชาญด้าน Digital Marketing
"รองผู้การกองปราบฯ" กางกม.เอาผิด "ซินแสชื่อดัง" จ่อโดนคดีฟอกเงิน หลังตุ๋นเหยื่อหลายราย สูญเงินกว่า 70 ล้าน
“สัณหพจน์” เปิดนโยบายแก้เศรษฐกิจปากท้อง ฟื้นฟูท่องเที่ยวเมืองนครศรีธรรมราช เล็งนำช้างแคระคืนถิ่นป่าพรุควนเคร็ง อะเมซอนเมืองไทย
“เจพาร์ค ศรีราชา” จัดพิธีอัญเชิญเทพเจ้าโอคุนินุชิ ประทับในศาลเจ้าโอคุนิ ศาลเจ้าชินโตแห่งที่สามของประเทศไทย
ก้าวสู่ปีที่ 5 Future Food Leader Summit 2025 ชวนสร้างไอเดีย บนแนวคิด “อาหารฟื้นฟูเพื่ออนาคต” เปิดตัว Future Food AI ครั้งแรกในเอเชีย
TIPH คว้าอันดับเครดิตองค์กรสูงสุดของกลุ่มโฮลดิ้งส์ ตอกย้ำศักยภาพผ่านการประเมินจากทริสเรทติ้ง
"บิ๊กเต่า" เตรียมส่งทีมสอบ "บอสพอล" ปมเส้นเงิน 8 แสน โยงแม่นักการเมือง ส.
"วราวุธ" ขออย่านำ "เกาะกูด" เป็นประเด็นการเมืองระหว่างประเทศ ชี้ MOU 44 ไม่เกี่ยวข้อกังวลทุกฝ่าย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น