วันนี้ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตแกนนำ กปปส. กล่าวว่า ครบรอบเกิดรัฐประหาร 8 ปีที่ผ่านมา เหตุการณ์นั้นมีความซับซ้อนและถูกบิดเบือนกันหลายเรื่อง เช่น ที่ตนเองติดตามผู้ที่ออกมาพูดถึง 8 ปี รัฐประหาร อย่างที่คุณยิ่งลักษณ์ออกมาโพสต์เฟสบุ๊ก หรือกลุ่มเสื้อแดงเก่าแก่บางส่วน หรือกลุ่มที่พยายามจะบิดเบือนให้ร้ายหัวหน้าประชาชน กปปส.ที่ออกมาต่อสู้กับกฎหมายนิรโทษกรรมในช่วงนั้น ตนเองมองว่าเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจ คุณยิ่งลักษณ์บอกว่าเป็นการขับไล่รัฐบาลผ่านการชัตดาวส์กรุงเทพ ซึ่งตนเองถือว่าเป็นคำพูดที่บิดเบือน เหตุผลของการลุกขึ้นมาต่อสู้กับหัวหน้าประชาชนกับการรัฐประหารเป็นคนละเรื่องกัน การลุกขึ้นมาสู้ของมวลมหาประชาชนคือสู้กับกฎหมายนิรโทษกรรมล้างผิดคนโกง
เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ปิดหีบเลือกตั้งแล้ว พบผู้กระทำผิดทำลายบัตรลงคะแนน4 จุด
ข่าวที่น่าสนใจ
นายสาทิตย์ มองว่าคนที่มีด้วยจิตวิญญาณของการต่อสู้เพื่อการเรียกร้องให้ความเป็นธรรมกับประเทศไทย และไม่ต้องการเห็นการล้างผิดให้คนโกงออกมาต่อสู้ด้วยสติ จะยืนยันได้ว่าการต่อสู้ครั้งนั้นเป็นการต่อสู้ที่ถูกต้อง แต่ขบวนการการต่อสู้ 204 วัน มันมีกลุ่มคนชั่ว กลุ่มคนเสื้อดำและโยงไปกลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วนออกมาใช้อาวุธเข่นฆ่าประชาชนผู้ชุมชน โดยใช้ M 79 ใช้ระเบิด ใช้ปืน จนเป็นเหตุให้เด็กต้องเสียชีวิตที่ราชดำเนิน มีคนเสียชีวิต มีคนบาดเจ็บกว่า1,000 คน นี่เป็นข้อเท็จจริงที่บิดเบือนไม่ได้ การต่อสู้ได้บรรลุวัตถุประสงค์ในแง่ว่ากฎหมายนิรโทษกรรมไม่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่การต่อสู้นั้นบานปลายไปสู่เรื่องการขับไล่รัฐบาล ซึ่งเป็นคนของระบอบทักษิณและรัฐบาลชุดนั้นไม่ยอมที่จะเอากฎหมายนิรโทษกรรมออกไปจากระบบรัฐสภา แต่การรัฐประหารถูกบิดเบือนว่า กลุ่มผู้ชุมนุมไปกวักมือเรียก ซึ่งความจริงแล้วมันไม่ใช่ คนที่กวักมือเรียกทหารเข้ามาปฏิวัติ คือ กลุ่มติดอาวุธที่ไปยิงไปเข่นฆ่าประชาชนซึ่งมาต่อสู้ด้วยมือเปล่า ที่เป็นคนสร้างเงื่อนไขให้ทหารเข้ามาปฏิวัติได้ เหตุปฏิวัติเกิดขึ้นเพราะกลุ่มคนชั่วเอาอาวุธมาเข่นฆ่าประชาชน คนเจ็บ คนตาย ทหารเห็นว่านี่เป็นสถานการณ์ความมั่นคง จึงออกมารัฐประหาร ซึ่งถ้าเข้าใจประเด็นเหล่านี้แล้ว มันก็สามารถแยกได้ระหว่างเจตนารมณ์ของการต่อสู้ ซึ่งตนเองมองว่าเจตนารมณ์นี้เป็นเจตนารมณ์ที่ถูกต้อง
อดีตแกนนำกปปส. ยืนยันถ้าให้ออกมาต่อสู้ต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรมตนก็ทำ ก็สู้ ส่วนคนที่ออกมาเที่ยวขอโทษว่าเคยชุมนุม ตนมองว่าเป็นคนดัดจริต เพราะตอนที่คุณออกไปต่อสู้คุณต้องไปด้วยสติสามัญสำนึกว่าคุณทำเพื่ออะไร และถ้าคุณออกมาด้วยสติคุณไปด้วยสามัญสำนึกของการต่อสู้ คุณจะรู้ว่าคุณทำเพื่อบ้านเมือง เพราะเป็นการต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรมล้างผิดคนโกง การมาพูดที่หลังเป็นการขายตัว ขายจิตวิญญาณ แล้วโยนบาป โยนความผิดให้ กปปส. มาถึงจุดนี้ตนว่าต้องคิดกลับไปด้วยว่าเงื่อนไขออกกฎนิรโทษกรรมคือใคร คุณยิ่งลักษณ์ก็มีส่วน คุณทักษิณก็มีส่วน คนเสื้อแดงก็มีส่วน พรรคเพื่อไทยก็มีส่วน อย่าโยนความผิดให้รัฐประหารอย่างเดียว ตัวเองก็มีส่วนที่ทำให้เกิดขึ้นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มคนเสื้อดำที่ติดอาวุธ ในรายงานของคณะกรรมการอิสระเพื่อค้นหาความจริงชุดอาจารย์คณิต ณ นคร ก็ระบุคนกลุ่มเสื้อดำมีอาวุธชัดเจนมีภาพปรากฏชัด นั่นก็เป็นเงื่อนไขหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-