พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ. หรือ สมช. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศปก.ศบค.)ระบุ วันนี้ที่ประชุมครม.จะมีการหารือมาตราการเยียวยาแรงงานและผู้ประกอบการเมื่อวานนี้(28มิ.ย.)รวมไปถึงมาตราการบางอย่างที่ออกไปแล้วเพื่อผ่อนคลายอย่างแคมป์ก่อสร้างที่หยุดการดำเนินการแล้วอาจจะมีอันตรายในเชิงวิศวะหรือประเด็นสถานพยาบาลที่มีการเร่งรัดก่อสร้างอยู่ เพราะเกรงว่าจะทำให้สถานพยายามที่กำลังเร่งรัดอยู่ล่าช้าออกไป จึงจำเป็นต้องออกมาตรการผ่อนคลายให้ ขณะที่การเยียวยาร้านอาหารได้มีการหารือเป็นที่เรียบร้อยแล้วและมีมาตราการดูแลแล้วเช่นกัน แต่อาจจะยังไม่ครบตามที่เสนอมา แต่เท่าที่ประชุมศบศ.มาครั้งนี้ดูแลได้ครอบคลุมกว่าทุกครั้งโดยมาตราการเยียวยาจะอยู่ในความรับผิดชอบของ ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ หรือ ศบศ. ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน
ส่วนขณะนี้ที่เชื้อโควิด-19กระจายไปในพื้นที่ต่างจังหวัด ทางศบค.ยอมรับว่ามีความกังวล แต่อย่างไรก็ตามทางกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุขได้คำยืนยันในที่ประชุมว่า กระทรวงมหาดไทยจะให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกำกับ เน้นย้ำ ควบคุม ให้ผู้ที่เดินทางไปจากพื้นที่กรุงเทพมหานครเข้ารับการกักกันหรือการคุมไว้สังเกตตามความเหมาะสมซึ่งกระทรวงสาธารณสุขก็จะช่วยการแพร่ระบาดในพื้นที่ด้วย อีกทั้งจะเป็นผู้ประเมิน สถานการณ์ทุก 15 วัน และจะมีการผ่อนคลายมาตราการต่อไป
ขณะที่โรงพยาบาลในพื้นที่ต่างจังหวัดมีการร้องขอความช่วยเหลือจากบุคลากรหลังจากมีการกระจายเชื้อในพื้นที่หรือไม่ ยืนยันว่าไม่มีการร้องขอแต่อย่างใด เนื่องจากมีการเตรียมความพร้อมอยู่แล้ว ร้านมีการแจ้งเตือนไปยังบุคลากรทางการแพทย์ตั้งแต่เมื่อวันเสาร์(26 มิ.ย.)ที่ผ่านมา
ส่วน ศบค. มีการพูดคุยถึงกรณีการรวมตัวยื่นหนังสือเรียกร้องจากผลกระทบต่างๆ ถือเป็นการรวมกลุ่มกันหรือไม่ เลขา สมช. ระบุตนยังไม่ทราบ แต่เพิ่งได้ข่าวและทุกครั้งที่มาก็มีการรับหนังสือไว้ตลอด ทั้งพนักงานนวดแผนโบราณ กลุ่มศิลปะการบันเทิง คือคณะใดที่เข้ามาก็พร้อมรับทั้งหมดยืนยันว่ารับฟังมาโดยตลอด อะไรที่สามารถผ่อนคลายได้ก็ดำเนินการ หากดูแลเยียวยาได้ก็จะให้ ศบศ เป็นผู้พิจารณาเนื่องจากตนนี้นอยู่ทั้งศบค.และศบศ โดยจะพยายามดูแลทั้ง 2 มิติ
พลเอกณัฐพล ยอมรับว่าขณะที่การรักษาตนเองแบบ Home Isolation มีความคิดที่จะดำเนินการ และมีการพิจารณากันบ้างในที่ประชุมของกระทรวงสาธารณสุข แต่แนวทางของทั้ง สธและ ศบค. คือพยายามดำเนินการคือตั้งโรงบาลสนาม โดยระบุว่าสถานที่และอุปกรณ์มีเพียงพอแต่สิ่งที่ไม่พอคือบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งการที่ตะดึงบุคลากรทางการแพทย์จากต่างจังหวัดมาจะทำให้ต่างจังหวัดขาดความพร้อมจึงเป็นที่มาของมาตราการ Home Isolation แต่ย้ำว่าต้องมีมาตรการที่รอบครอบ เนื่องจากหากรักษาตัวที่บ้านอาจมีอาการหนักขึ้น ซึ่งในประชุมสธ.โดย สปสช. ได้ประกาศหลักเกณฑ์ออกมาแล้วเกินครึ่งแต่ต้องพิจารณาระบบรองรับให้รอบคอบและเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเนื่องจากทุกมาตราการที่ออกมาจะต้องคิดให้รอบคอบ อย่างการประชุมศบศ. เมื่อวันศุกร์ (25/6/64)ที่ผ่านมา ก็ได้มีการประชุมเพื่อร่างระเบียบ คำสั่งที่ 25 ต่อในวันเสาร์และให้นายกรัฐมนตรีลงนามในเวลา 21.00น. ณรงค์ราชกฤษฎีกาเพื่อประกาศในเวลา 01.00 น ของวันถัดไป ที่จึงเป็นสาเหตุที่ทำไมจึงออกคำสั่งในเวลากลางคืนเนื่องจากมีการทำงานกันตลอดเวลา เพื่อให้คำสั่งออกได้เร็วที่สุด และเมื่อพูดถึงปัญญาของผู้ประกอบการร้านอาหาร ศบค. ก็จะถูกตำหนิว่าทำไมถึออกคำสั่งช้า ทำให้จัดการสินค้าไม่ทัน
ส่วนกรณีของแรงงานก่อสร้างก็ถูกตำหนิว่าออกคำสั่งเร็วเกินไปจึงต้องมองหลายๆมุม จึงพยายามออกคำสั่งในเวลาที่เหมาะสม และ การออกคำสั่งต้องออกในเวลาที่เหมาะสม พร้อมขอให้ย้อนดูคำสั่งประกาศที่25 ที่มีรายละเอียดที่ค่อนข้างรัดกุม เนื่องจากมีการหารือจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจึงรีบไม่ได้
ขณะเดียวกันโซเชียลมีการโจมตีของผู้ประกอบการ ยืนยันว่ามี การหารือกับผู้ประกอบการก่อสร้างมาโดยตลอดและได้ทำการชี้แจงไปแล้ว และทางสมาคมได้รับทราบเป็นส่วนใหญ่ แต่อาจมีการสื่อสารที่ไม่ถูก เช่นเดียวกับได้ชี้แจงกับร้านอาหารเป็นที่เรียบร้อยแล้วและทางสมาคมร้านอาหารก็ได้ชี้แจงไปกับกลุ่มผู้ประกอบไปตั้งแต่เมื่อวันศุกร์แล้ว ซึ่งตนก็ขออภัยด้วย ในความที่ทำให้เกิดความเดือดร้อนไปบ้าง แต่ก็ต้องขอความร่วมมือเหมือนกัน แต่ในเมื่อคณาจารย์แพทย์แนวหน้าของประเทศออกมาเสนอแนะ ศบค. ก็ต้องรับฟัง และปรับตามที่เสนอ แต่ยอมรับว่าห่วงว่าจะทำให้ประชาชนเดือดร้อนแต่ตนจะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ทั้งนี้พลเอกณัฐพลระบุถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ศบค.ได้อนุญาตไว้แล้วและไม่ได้มีการยกเลิกการประชุม ส่วนจะมีการประชุมหรือไม่ขึ้นอยู่กับทางสภาไม่เกี่ยวกับศบค.