ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายนิติธร ล้ำเหลือ แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) ยื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้ยุบพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากกระทำการอันขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน กรณีเมื่อวันมี่ 18 มิ.ย.ที่ประชุมพรรคพลังประชารัฐมีมติเลือกร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรและสหกรณ์ เป็นเลขาธิการพรรค ซึ่งถือได้ว่าเป็นบุคคลที่ขาดคุณสมบัติด้านจริยธรรมตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ในมาตรา 219 ที่กำนหดให้ ส.ส.ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม และขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 21 และ มาตรา 45
อีกทั้งยังขัดต่อข้อบังคับของพรรคพลังประชารัฐ ที่กำหนดว่าต้องถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าผลประโยชน์ส่วนตัน ยึดมั่นหลักนิติธรรม และประพฤติตนในกรอบศีลธรรมอันดีของประชาชน เนื่องจาก รอ.ธรรมนัส เคยต้องคำพิพากษาจำคุกในคดียาเสพติดของศาลประเทศออสเตรเลีย ดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นสาระสำคัญของรัฐธรรมที่ประสงค์ให้บุคคลที่มีความซื่อสัตย์ มีคุณธรรมจริยธรรมที่ดีเข้ามาบริหารกิจการบ้านเมือง ซึ่งปรากฏอยู่ในคำปรารภของรัฐธรรมนูญ แต่การกระทำดังกล่าวของพรรคพลังประชารัฐ กลับไม่ได้คำนึงถึงเรื่องนี้ แสดงให้เห็นถึงการไม่เคารพต่อกฎหมาย ไม่นำพาต่อการพัฒนาการด้านคุณธรรมจริยธรรม จึงเป็นเหตุให้มายื่นยุบพรรคพลังประชารัฐในวันนี้
“คราวที่แล้วศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้พูดเรื่องจริยธรรม แต่พูดเรื่องคุณสมบัติ เพราะในคำร้องเน้นไปที่ประเด็นคุณสมบัติ แต่คราวนี้เป็นเรื่องจริยธรรม ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงซึ่งไม่ได้พิสูจน์ ในคำพิพากษาก็ระบุว่าเป็นสารเสพติด และยังปรากฏคำรับสารภาพ รวมถึงการพูดในสภาของ รอ.ธรรมนัสเองก็ขัดข้อเท็จจริง ประเทสไทยมาถึงขนาดนี้แล้วไม่จำเป็นต้องให้ประชาชนมาตรวจสอบเรียกร้อง หากผู้บริหารประเทศมีจิตสำนึก มีคุณธรรมเรื่องแบบนี้ก็ไม่เกิด”นายนิติธร กล่าว
นายนิติธร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้กลุ่มประชาชนคนไทย จะมีการยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ให้สอบจริยธรรมนักการเมือง 3 ราย คือ 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะเป็นผู้แต่งตั้ง รอ.ธรรมนัส เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ 2.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค มีส่วนให้ รอ.ธรรมนัส เป็นเลขาธิการพรรค และ3.ร.อ.ธรรมนัส
เมื่อถามถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มประชาชนคนไทยหลังจากนี้ นายนิติธร กล่าวว่า วันนี้จะไปที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อนำแถลงการณ์ยื่นให้นายกฯ ซึ่งคงไม่เรียกร้องให้เสียสละแล้ว เพราะไม่ได้รับการตอบรับ และเพิกเฉย ส่วนกิจกรรมการเคลื่อนไหวยังเป็นเรื่องการปราศรัยขับเคลื่อนให้ประชาชนได้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น และทำให้เห็นว่าประชาชนสามารถรวมกันเปลี่ยนแปลงประเทศโดยก้าวข้ามนักการเมืองได้