จากกรณีที่เพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 3 ได้ออกมาโพสต์คลิปคลิปหนึ่ง พร้อมข้อความ “อีกหนึ่งคลิปสั้นๆ..แต่สื่อความหมายจากภาพในคลิปได้ดี ร.ร.อะไรหว่า ครูใช้เท้าแบบนี้อ่ออ ยังไงค๊าาาาาาาาา #โรงเรียนรั้วแสด-ขาว ใน อ.พนา จ. อำนาจเจริญ” และเป็นกระแสวิพากย์วิจารณ์ถึงการกระทำของครูคนดังกล่าว
ข่าวที่น่าสนใจ
ล่าสุดวันนี้ (26 พ.ค. 2565) ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่โรงเรียนดังกล่าวเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในคลิป โดยนายอชิระ วิริยสุขหทัย ผอ.รร.พนาศึกษา เปิดเผยกับทีมข่าวว่า หลังจากทราบข่าวทางโรงเรียนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด ได้มีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแล้ว ส่วนสาเหตุการกระทำของครูดังกล่าวก็อยู่ในระหว่างการสอบสวน และยืนยันว่าทางโรงเรียนไม่ได้มีครูท่านอื่นที่มีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงกับนักเรียนแต่อย่างใด เพราะทุกครั้งที่มีการประชุมจะมีการเน้นย้ำกับครูทุกคนเสมอ
จากนั้นทีมข่าวได้สอบถามนักเรียนเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว นักชายชั้น ม.3 คนหนึ่ง เปิดเผยกับทีมข่าวว่า เท่าที่เคยเรียนกับครูคนนี้มา ก็ไม่เคยเห็นครูกระทำแบบในคลิป ที่ครูทำไปอาจจะเป็นเพราะด้วยความโมโหก็เป็นได้ และเท่าที่เรียนมาก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ถือว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรก
ด้านนักเรียนหญิงชั้น ม.3 เปิดเผยว่า ก็พอจะได้ยินข่าวเรื่องดังกล่าวมาและพอทราบจากรุ่นพี่มาบ้าง ครูคนดังกล่าวเป็นคนที่มีอารมณ์ร้อน เหตุน่าจะเกิดที่เด็กคนดังกล่าวเคยหลบเรียนวิชาของครูคนนั้น และครูคนนั้นเกิดความไม่พอใจจึงได้มีการเตะนักเรียนคนดังกล่าวตามในคลิป และเท่าที่เคยได้ยินจากรุ่นพี่มาก็เหมือนกับว่าครูคนนั้นจะทำแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งตนมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม หากแค่เด็กหลบเรียน
ขณะที่นักเรียนหญิงเจ้าของคลิป เปิดเผยว่า เด็กที่โดนครูเตะนั้น เนื่องจากเขาหลบเรียน ตอนเกิดเหตุตนแค่จะถ่ายให้เพื่อนดูว่าแฟนของเขาหลบเรียนและโดนทำโทษ แต่ไม่รู้ว่าจะมีการแชร์คลิปดังกล่าวออกไปจนเป็นข่าว ส่วนตนเองมองว่าครูอาจจะไม่ได้ตั้งใจ และมันก็ดูไม่เป็นไร ไม่รุนแรงเท่าไหร่ และมันเป็นเหตุสมควรที่จะโดนทำโทษเพราะหลบเรียน
ต่อมาช่วงบ่ายวันนี้ (26 พ.ค.65) ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของเด็กนักเรียนที่อยู่ในคลิป เพื่อสอบถามผู้ปกครอง ขณะเดียวกันคุณครูสาวที่อยู่ในคลิปดังกล่าว ก็ได้เดินทางมาที่บ้านเด็กเพื่อขอโทษเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้ปกครองด้วย โดยได้ยกมือไหว้ผู้ปกครองที่กระทำการไม่เหมาะสม ซึ่งผู้ปกครองก็ให้อภัยครู และขอให้คุณสัญญาว่าจะไม่ทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมแบบนี้อีก
นางปะลิพัน ราชวงศ์ อายุ 32 ปี ป้าของเด็กนักเรียนคนดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนคิดว่าการที่ครูใช้เท้าเตะนักเรียนนั่นเป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสมอย่างมาก ทำให้แม่ของเด็กไม่พอใจ ตนซึ่งเป็นป้าเองก็รู้สึกไม่พอใจ เพราะหากลูกหลานตนผิดจริงก็ควรทำโทษด้วยวิธีอื่นที่ไม่ใช่การเตะ และอยากฝากให้ถึงท่านผู้อำนวยการโรงเรียน ให้มีการดำเนินการจัดการเรื่องดังกล่าว เพราะตนเองก็เกรงว่าลูกหลานของตนจะไม่ได้รับความปลอดภัย กลัวจะมีปัญหาในเรื่องการเรียน รวมไปถึงคนที่นำคลิปมาเผยแพร่ก็เกรงว่านักเรียนคนนั่นก็จะไม่ปลอดภัยด้วยเช่น และหากถามความรู้สึกว่าตอนนนี้ที่คุณครูมาขอโทษนั่นตนก็พร้อมให้อภัย ส่วนเรื่องการตั้งกรรมการสอบสวนครูนั่นก็ให้ทางโรงเรียนเป็นคนดำเนินจัดการตามระเบียบ
จากนั่นคุณครูได้เดินทางไปบ้านของเด็กอีกคนที่โดนเตะเหมือนกัน พร้อมกับก้มกราบคุณยายของเด็กคนดังกล่าว ซึ่งคุณยาย กาวี แก้วผาลัย ยายของเด็กคนเด็กคนดังกล่าวก็ได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่าตนเองก็ไม่ได้ติดใจอะไรที่คุณครูเตะหลานตน เชื่อว่าที่คุณครูทำไปคงเพราะมีเหตุผล แลไม่ได้มีเจตนาไม่ดีอย่างแน่นอน
ด้านคุณครูสาว (ไม่ขอเปิดเผยชื่อสกุล) กล่าวว่า ตนยอมรับว่าที่ได้กระทำลงไปเพราะความโมโหชั่ววูบ เนื่องจากตอนเกิดเหตุนั่นเป็นคาบเรียนของตน เด็กไม่ยอมขึ้นมาเรียน ตนจึงได้ลงไปตามเด็กทั้ง 3 คน พอเด็กทั้ง 3 คนเห็นก็วิ่งหนีไปอีกทางหนึ่ง และขึ้นมาบนห้อง พอมาเจอเด็กบนห้อง ด้วยสาเหตุที่ด้วยความที่เด็กเพิ่งขึ้น ม.1 ทำไมต้องมาโดดเรียน ตนจึงได้ถามเด็กไปด้วยเชิงดุเสียงดัง เด็กคนหนึ่งไม่ตอบ แต่เด็กอีกคนตอบว่าขี้เกียจครับ ซึ่งมันเหมือนการยั่วโทสะ จึงได้กระทำพฤติกรรมดังกล่าวไป ซึ่งตนขอยอมรับผิดทุกอย่าง แต่ไม่ได้ทำรุนแรงตามที่เป็นกระแสข่าว เสียงที่ดังมันเกิดมาจากรองเท้าที่โดนกระเบื้องเลยฟังดูเสียงดัง และที่ตนทำไปก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำรุนแรง หรือไม่ดีแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากเลิกคาบเรียนตนก็ได้เรียกเด็กเข้ามาพบและพูดคุยปรับความเข้าใจว่า ที่ทำไปเพราะทำไปด้วยความเป็นห่วงอยากให้เด็กตั้งใจเรียน
ขณะที่เด็กนักเรียนที่อยู่ในคลิป เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตนและเพื่อนได้นั่งเล่นอยู่ข้างล่างไม่ยอมขึ้นห้องเพราะตั้งใจโดดเรียน และครูก็ได้ลงมาตามขึ้นไปเรียน พอเห็นครูมาตามตนก็รีบวิ่งขึ้นไปบนห้อง และที่ครูเตะตนนั่นก็ไม่ได้รุนแรงเพราะถูกแค่ปลายรองเท้า ที่ตนสะดุ้งเพราะตกใจเสียงที่ดัง ซึ่งตอนนี้ตนก็ไม่ได้โกรธครู เพราะก่อนหน้านี้ตนเคยโดนหนักมากกว่าตอนที่เรียนอยู่ชั้นประถม ซึ่งหลังจากเกิดเหตุก็ได้มีการพูดคุยกับคุณครู คุณครูก็บอกให้พวกตนปรับตัวใหม่ให้ตั้งใจเรียน และพวกตนเองก็ไม่ได้โกรธครูแต่อย่างใด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
