“ฝีดาษลิง” แพทย์เผย 8 เหตุผล ไทยยังไม่ต้องวิตกกังวล

ฝีดาษลิง,​โรคฝีดาษลิง, ไข้ทรพิษ, ฝีดาษคน, หมอเฉลิมชัย

"ฝีดาษลิง" แพทย์เผย 8 เหตุผลชัด ๆ ที่ทำให้คนไทยยังไม่ต้องวิตกกังวลเรื่องการแพร่ระบาด

“ฝีดาษลิง” หมอเฉลิมชัย เผย 8 เหตุผล ย้ำเตือนคนไทยอย่าเพิ่งวิตกกังวลเรื่องการแพร่ระบาด หลังมีกระแสข่าวลือว่าพบ ฝีดาษลิงในไทย ที่เกาะช้าง จังหวัดตราด ติดตามต่อได้ที่นี่ TOP News

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมธิการสาธารณสุข วุฒิสภา เผยเหตุผลที่ทำให้คนไทยอย่าเพิ่งกังวลจนเกินไปเกี่ยวกับโรคนี้ โดยระบุว่า 8 เหตุผล ที่ทำให้พอจะเบาใจเรื่องฝีดาษ ลิงได้
ตามที่มีรายงานการระบาดของฝีดาษ ลิงทั่วโลก นับเฉพาะนอกทวีปแอฟริกา พบผู้ติดเชื้อแล้ว 22 ประเทศ จำนวนมากกว่า 300 คนนั้น มีข้อมูลที่น่าสนใจ ซึ่งเป็นประเด็นพอจะทำให้เบาใจได้ ดังนี้

1. การติดต่อ 

  • ติดต่อได้ไม่ง่ายนัก มักจะติดต่อโดยการสัมผัสโดยตรงต่อสัตว์นำโรค ทานเนื้อสัตว์ดิบ หรือสัมผัสผู้ติดเชื้อโดยตรง
  • ยังไม่มีการยืนยันทางวิชาการว่าสามารถติดต่อผ่านทางอากาศได้เช่นเดียวกับโควิด-19
2. ความรุนแรง 
  • ฝีดาษ ลิงมีความรุนแรงน้อยกว่าฝีดาษคนหรือไข้ทรพิษมาก ประมาณ 3-30 เท่า
  • คือ มีอัตราการเสียชีวิตที่ 1-10% ในขณะที่ฝีดาษคนเสียชีวิตมากถึง 30%

 

 

3. การตรวจพบผู้ติดเชื้อ
  • สามารถตรวจพบได้ง่าย เพราะ มีอาการที่ชัดเจน
  • ตุ่มน้ำใสหรือตุ่มหนองปรากฏขึ้นที่ผิวหนัง ทั้งบริเวณใบหน้าและแขนขา
  • ทำให้สามารถหลีกเลี่ยงไม่สัมผัสผู้ติดเชื้อได้ง่ายกว่าโควิด

 

4. ชุดตรวจหาการติดเชื้อ
  • ขณะนี้มีการพัฒนาชุดตรวจหาไวรัสสำเร็จแล้วในหลายประเทศ
  • รวมทั้งประเทศไทยก็มีการพัฒนาชุดตรวจไวรัสดังกล่าวสำเร็จแล้วเช่นกัน

 

5. วัคซีนที่ใช้ป้องกันโรค :
  • พบว่า วัคซีนป้องกันฝีดาษคนหรือที่เรียกว่า ปลูกฝี สามารถป้องกันฝีดาษ ลิงได้ด้วยในระดับอย่างน้อย 85%
  • นอกจากนั้น ขณะนี้ก็มีวัคซีนใหม่ที่ได้พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ป้องกันทั้งฝีดาษคนและฝีดาษ ลิงแล้ว
  • นอกจากนี้ ภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการปลูกฝีเดิม แม้ผ่านไปหลาย 10 ปี ก็ยังอยู่ในระดับสูงมากพอที่จะป้องกันได้
  • และด้วยระยะฟักตัวของเชื้อที่นานถึง 21 วัน ทำให้ในกรณีที่ไปสัมผัสไวรัสมา ถ้าฉีดวัคซีนในช่วง 4 วันแรก ก็ยังสามารถป้องกันได้ทัน

 

6. ยารักษา

  • ขณะนี้มียารักษาที่ออกฤทธิ์ต่อต้านไวรัสในกลุ่มของฝีดาษคนและฝีดาษ ลิง ที่ใช้อยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
7. การกลายพันธุ์
  • ไวรัสก่อโรคฝีดาษ ลิงกลายพันธุ์ยากกว่าโควิดมาก
  • ตลอด 60 ปีที่ผ่านมา ไวรัสก่อโรคฝีดาษ ลิงก็ยังเป็นสายพันธุ์เดิม
  • เนื่องจาก เป็นไวรัสสารพันธุกรรมคู่หรือดีเอ็นเอ (DNA) กลายพันธุ์ยากกว่าไวรัสโควิดที่เป็นสารพันธุกรรมเดี่ยวหรืออาร์เอ็นเอ (RNA)

 

8. ผู้ติดเชื้อ
  • ในประเทศไทย ณ ปัจจุบัน ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ
  • และได้มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจ เพื่อดูแลเรื่องโรคนี้ รวมทั้งมีการคัดกรองที่สนามบินแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม แม้จะสามารถเบาใจได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ควรจะประมาท เพราะ โรคติดต่อจากไวรัส ไม่ว่าจะเป็นโรคใดก็ตาม มีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติ ที่มนุษย์พึงจะต้องระมัดระวังตัวอยู่เสมอ

 

ข้อมูล : Chalermchai Boonyaleepun

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น