นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าพบตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. เพื่อกล่าวโทษกับ พลตำรวจตรีวสันต์ เตชะอัครเกษม ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 และพวก ในความผิด ตามมาตรา 157 ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และ มาตรา 184 ช่วยเหลือผู้อื่นให้ผลผิดหรือรับโทษน้อยลง
ข่าวที่น่าสนใจ
จากกรณี ที่ร่วมกันสร้างพยานหลักฐานเท็จในการแถลงข่าวสรุปสำนวนการสอบสวนคดีการเสียชีวิตของ นางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม นิดา เมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา โดยมีการแก้ไขเวลาคลิปกล้องวงจรปิด นาทีที่ 22.18 ซึ่งได้นำพยานหลักฐานเป็นคลิป ในการแถลงข่าว ของเจ้าหน้าที่ และ คลิป ที่ได้มาส่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า การแถลงข่าวของชุดสืบสวนในคดีนี้ มีการแก้ไขเวลาจากกล้องวงจรปิดช่วงเวลาการตกเรือของแตงโม ทำให้เวลาจริงคลาดเคลื่อนมีการเปลี่ยนแปลงส่งผลทางคดี โดยตำรวจจะยึดเวลาจากกล้องวงจรปิดของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต แต่ทางชมรมมีหลักฐานจากกูเกิ้ลแมพ ซึ่งพบว่าระยะทางจุดตกคลาดเคลื่อนไปกว่า 1,600 เมตร ส่วนกรณีที่ผู้กำกับการสภ.เมืองนนทบุรี ที่แจ้งความดำเนินคดีตัวเอง ฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานนั้น วันนี้ก็ได้มาแจ้งความกลับ เนื่องจากเห็นว่ากลั่นแกล้งให้รับโทษทางอาญา ซึ่งได้นำหลักฐานการแถลงข่าวมาเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี
นายอัจฉริยะ ยังบอกว่า ขณะนี้นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม ได้ติดต่อให้เป็นที่ปรึกษาทางด้านคดีความแล้ว โดยมีหน้าที่ดูแลด้านกฎหมายและหากทีมทนายช่วยว่าความให้แม่ โดยในรายชื่อทีมทนายไม่มีชื่อ ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย เนื่องจากแม่แตงโม ได้เห็นหลักฐานที่เชื่อได้ว่าแตงโมเสียชีวิตจากการฆาตกรรม ไม่ใช่เป็นการประมาท นอกจากนั้นยังมีทีมทนายความมาช่วยเหลือทางด้านคดีความ และมีนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ เป็นผู้ร่วมดูแลแม่แตงโม หลังจากที่นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความได้ขอถอนตัวออกจากการทำคดีหลังจากนี้
นายอัจฉริยะ บอกว่า สาเหตุที่แม่แตงโมให้ทำคดีแทนเนื่องจาก ความเห็นทางคดีไม่ตรงกับทนายเดชา เพราะแม่มีข้อสงสัยหลังจากส่งโทรศัพท์มือถือให้ตำรวจตรวจสอบแล้วพบว่ามีภาพในโทรศัพท์ถูกลบไป 550 ภาพ และคลิปวิดีโอ 2 คลิป ทำให้มีข้อสงสัยว่าเป็นภาพเกี่ยวข้องกับอะไร จึงส่งไปให้บังแจ๊คกู้ภาพ และบังแจ๊คบอกว่าสามารถกู้ภาพได้แล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นภาพเกี่ยวกับอะไร
ขณะที่การดำเนินคดีหลังจากนี้เชื่อว่าจะสามารถดำเนินคดีความผิดฐานฆาตกรรมได้ และจะพาแม่แตงโมไปพบกับพยานที่สามารถระบุได้ว่าแตงโมถูกฆาตกรรม และในวันที่ 2 มิถุนายน นี้ ก็จะพาแม่แตงโมไปพบกับพลตำรวจตรีกรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. พร้อมเชื่อว่า แม่แตงโมไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดร่วมกับบังแจ๊ค ในข้อหาสนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำผิด เนื่องจากการส่งโทรศัพท์มือถือไปนั้น มีความประสงค์ให้บังแจ๊คตรวจสอบภาพในเครื่องเท่านั้น แต่บังแจ๊คนำไปทำผิดวัตถุประสงค์เอง
และยังขอร้องสื่ออย่ามากดดันตนให้นำหลักฐานพยานชิ้นเด็ดที่บ่งบอกว่าแตงโมถูกฆาตกรรมมาเปิดเผย เนื่องจากตอนนี้ต้องมีการปรับแผนดู ผลการแถลงของอัยการและและต้องหาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารองรับ หากไม่มีหน่วยงานใดมารองรับท้ายสุดตน อาจถูกฟ้องดำเนินคดี ได้
อย่างไรก็ตาม จะไม่มีการฟ้องร้องนายตำรวจ หรือสื่อมวลชน รวมทั้งบุคคลใดที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ทางคดีจนทำให้เสียหาย เนื่องจากตั้งใจจะทำคดีของแตงโมอย่างเดียว ส่วนการเรียกร้องค่าเสียหายคดีแพ่งจะขอให้จบคดีอาญาก่อน ส่วนที่ ส.ส.เต้ บอกว่าจะเรียกค่าเสียหาย 200 ล้านบาทนั้น ก็บอกว่าเป็นเพียงการพูดเล่น
ส่วนการเปลี่ยนทนายความของแม่แตงโมมาแล้ว 2 ครั้ง นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ไม่มีความกังวลเนื่องจากเรื่องนี้อยู่ที่การปรึกษาหารือทางคดีระหว่างลูกความ เพราะที่ผ่านมาทนายความคนแรกก็ขาดประสบการณ์ ส่วนคนที่สองก็ไม่ร่วมตรวจสอบประเด็นสงสัยของลูกความ เพียงแต่บอกให้เชื่อการทำงานของตำรวจเท่านั้น โดยช่วงบ่ายวันนี้จะเปิดตัวทีมงานที่ดูแลทางคดีทั้งหมด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
