"ปวดหลังเรื้อรัง" กรมการแพทย์ เตือน ภัยใกล้ตัวชาวออฟฟิศ เผย 4 สัญญาณร้ายของโรคข้อกระดูกสันหลังอักเสบชนิดติดยึด เปิดสาเหตุชัด ๆ เกิดจากอะไร รักษาได้ไหม?
ข่าวที่น่าสนใจ
4 สัญญาณเตือน โรคกระดูกสันหลังอักเสบชนิดยึดติด
- “ปวดหลังเรื้อรัง”
- หลังยึดติด เคลื่อนไหวลำบาก
- ปวดหลังมาก โดยเฉพาะช่วงเช้าหรือหลังพักผ่อน
- อาการอักเสบของข้อกระดูสันหลังข้อต่อตามร่างกาย
กรมการแพทย์ โดยสถาบันประสาทวิทยา เผยสาเหตุเกิดจาก
- การอักเสบของกระดูกสันหลังเรื้อรังร่วมกับข้ออักเสบเป็นเวลานาน
- ทำให้กระดูกสันหลังติดกันเคลื่อนไหวไม่ได้
- รักษาไม่หายแต่สามารถคุมอาการและชะลอการรุนแรงโรคได้
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เผยว่า เป็นโรคหลักในกลุ่มโรคข้อและกระดูกสันหลังอักเสบเรื้อรัง ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักมีอาการแสดงของโรคคล้ายกัน คือ การอักเสบของข้อกระดูกสันหลัง ข้อต่อตามร่างกาย การอักเสบที่กระดูกบริเวณที่เส้นเอ็นยึดเกาะ การอักเสบของม่านตาและลำไส้
ลักษณะอาการในระยะแรก
- ผู้ป่วยอาจมาพบแพทย์ด้วยอาการปวดหลังส่วนล่าง หรือปวดสะโพกเรื้อรังโดยเฉพาะช่วงเช้าหรือหลังพักผ่อน
- อาการหลังติดยึด ทำให้เคลื่อนไหวลำบาก
- ทำงานไม่ได้ จนเกิดภาวะหลังคด ทรงตัวลำบากและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
ปัจจุบัน ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดของโรคได้ แต่คาดว่าโรคนี้อาจเกิดขึ้นจากปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เช่น
- พันธุกรรม ตรวจพบโปรตีน HLA-B27 ผู้ป่วยโรคนี้มักมีญาติเป็นโรคเช่นเดียวกัน
- อายุจะเริ่มแสดงอาการในผู้ป่วยอายุน้อย ระหว่าง 20-30 ปี
- พบเพศชายมากกว่าเพศหญิง
- ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาบรรเทาอาการ เพราะ หากปล่อยให้อาการรุนแรงมากขึ้น อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้
นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ป่วยแต่ละรายอาจ มีอาการที่แตกต่างกันไปตามระดับความรุนแรงของโรค ปัจจุบันใช้ Modified New York Criteria โดยให้การวินิจฉัย และการรักษาผู้ป่วยได้ตั้งแต่ระยะแรก และติดตามการเปลี่ยนแปลงผลการรักษาของผู้ป่วยอย่างเป็นระบบ ติดตามการดำเนินโรคได้อย่างถูกต้อง และปรับให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย โดยอายุรแพทย์ทั่วไป อายุรแพทย์ทางด้านโรคข้อและ รูมาติสซั่ม และแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู วินิจฉัยโดยการตรวจร่างกายและตรวจทางห้องปฏิบัติการณ์ เพื่อยืนยันการวินิจฉัยและแยกโรคร่วมหรือการอักเสบชนิดอื่น ๆ
การรักษา
- การให้ความรู้แก่ผู้ป่วยในการสังเกตตัวเองและเข้าใจตัวโรค ว่ายังไม่มีวิธีป้องกันหรือรักษาให้หายขาด
- แต่สามารถควบคุมและชะลอการดำเนินโรคได้
- การรักษาจำเป็นต้องให้ยา เพื่อคุมการอักเสบเรื้อรังและอาการปวดแบบต่าง ๆ
- ควรบริหารร่างกายเพื่อยืดหยุ่นข้อต่อและกล้ามเนื้อ จะช่วยให้ผู้ป่วยเคลื่อนไหวได้สะดวกใกล้เคียงปกติและป้องกันข้อติดยึด
- อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยได้รับการรักษาในระยะท้ายของโรค การรักษาด้วยยาและกายภาพอาจไม่เพียงพอ ต้องทำการผ่าตัด เพื่อแก้ไขโครงสร้างและมีการดูแลแบบสหวิชาชีพต่อไป
ข้อมูล : กรมการแพทย์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง