ย้อนผิดอาญา ม. 112   เตือนสติเหลาปัญญา…..ชัชชาติ

ล้อมขบวนเสด็จ “พระราชินี-พระองค์ที” ตะโกนด่าใช้วาจาหยาบคาย   ประกาศ 10 บัญญัติปฏิรูปสถาบันแท้จริงทุกข้อล้วนล้มล้าง ปลุกม็อบบุกสถานทูตเยอรมันกล่าวหาด้อยค่าในหลวง  จุดไฟเผาพระบรมฉายาลักษณ์   ขึ้นเวทีปราศรัยด่าชั่วช้า โพสต์ข้อมูลกล่าวหาหยาบโลน สร้างคอนเทนต์ล้อเลียนคนพิการหวังกระทบพระบรมวงศานุงวงศ์  เรื่องจริงที่ชัชชาติไม่เคยเอามาพูดไม่เคยสนใจ   กฎหมายปกป้องประมุขคุ้มครองสถาบันทุกประเทศล้วนมี  เอาใจคนผิดสนับสนุนคนชั่วแบบส่งเดช   พูดเอามันส์ระวังพังตั้งแต่ยังไม่เริ่มงาน    

กลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองขึ้นมาทันที  หลังวานนี้ 29 พ.ค. 2565  ช่วงเย็น ชัชชาติ สิทธิพันธุ์  ว่าที่ผู้ว่าฯกทม. ไปแสดงความคิดเห็นเรื่องการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112  ในเวทีเสวนา  “TALK TALK เรื่องเล่า หลังกรงขัง”  ณ สวนครูองุ่น ทองหล่อ ซอย  3  ระหว่างการจัดกิจกรรมตลาด(นัด)ราษฎร​  ที่งานนี้มีแกนนำกลุ่มล้มเจ้าไปรวมงานหลายคน หนึ่งในนั้นคือ  “รุ้ง” ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่นอกจากไปร่วมกิจกรรมแล้ว งานนี้รุ้งยังได้ถือโอกาสสอบถามความเห็นของชัชชาติถึงการยกเลิก ม. 112   ที่คำตอบของว่าที่ผู้ว่าฯกทม.นี้แหละที่ทำให้กลายเป็นประเด็นร้อนในตอนนี้   โดยชัชชาติตอบคำถามของรุ้งว่า

“ พูดเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับ 112 นะ  แต่ผมคิดว่าอย่าเอามาตรา 112 มาเป็นเครื่องมือในการสร้างความแตกแยก จริง ๆ แล้วมันมีมานานแล้ว ผมมองในแง่ผู้บริหาร การบริหารมันต้องมีความละมุนละม่อมในระดับนึง มันต้องมีวิธีการในการค่อย ๆ ปรับ ถ้าเราบอกว่าจะยกเลิก มาตรา 112  มันจะไปอีกขั้วนึง ฉะนั้นเริ่มจากการไม่เอา มาตรา 112 มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง เริ่มตรงนี้ก่อน แล้วเดี๋ยวมันจะค่อย ๆ พัฒนาไป เราเป็นผู้บริหารมันต้องมีวิธีในการสื่อสาร  อย่างผมก็อดทนมา 8 ปี ตั้งแต่ปฏิวัติมา แต่เราต้องมี strategy  มียุทธศาสตร์ในการเดิน อันนี้อาจไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้นะ ภาษาอังกฤษว่า The revenge is best when served cold การแก้แค้นหรือแก้ปัญหามันจะดีที่สุดเมื่อตอนมันเย็นแล้ว อย่าไปเอาความโกรธความแค้นมาทำ การกำหนด strategy ในการเดิน  มียุทธศาสตร์ในการเดิน แล้วเวลาก็อยู่ข้างพวกเราแล้ว ผมว่าเรื่อง 112 นาทีนี้คุณบอกให้ยกเลิก ในความเป็นจริงไม่ง่าย แต่ขออย่าเอามาเป็นเครื่องมือทางการเมือง เริ่มประเด็นนี้ก่อนดีมั้ย แล้วเดี๋ยวมันก็เป็นสเต็ปต่อไปโอเคนะ ” ชัชชาติกล่าว

เท่านั้นแหละเลยกลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองขึ้นมาทันที อย่าลืมว่าชัชชาติเพิ่งชนะการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ด้วยคะแนนเสียงถล่มทลายสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์การเลือกตั้งกรุงเทพฯ ด้วยคะแนน 1,386,215 คะแนน  แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างรอคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) รับรอง  อย่างไรก็ตามสิ่งที่ชัชชาติแสดงความเห็นเรื่อง 112 ออกไปต้องบอกว่าสุ่มเสี่ยงมาก  โดยเฉพาะประโยคที่ระบุว่า  “การไม่เอา ม. 112 มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง” คนไทยหัวใจชาติคนไทยที่เทิดทูนสถาบัน  ได้ยินเรื่องนี้จากปากชัชชาติแล้วรู้สึกตะหงิด อยากถามกลับชัชชาติจริงๆว่า “ใคร” เอากฎหมายตัวนี้ไปเป็นเครื่องมือทางการเมือง สถาบัน พล.อ.ประยุทธ์ รัฐบาล ทหาร หรือตำรวจ ชัชชาติต้องพูดเรื่องนี้ให้ชัด อย่าพูดเอาหล่ออย่าพูดเอามันส์ อย่าแวะไปพูดกับเด็กอย่าไปเรียกเรตติ้งกับพวกกลุ่มคนล้มเจ้าด้วยประโยคลอยๆ ตีกินหาเสียงเอาใจเด็กไปเรื่อยแบบนี้  อย่าลืมว่า 1.38 ล้านเสียงที่เลือกคุณไปเป็นผู้ว่าฯกทม.บริหารเสาชิงช้า ผลสำรวจส่วนใหญ่เขาชอบที่คุณประกาศตัวอิสระเขาชื่นชมที่คุณไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด จู่ๆพอชนะการเลือกตั้งเสร็จแล้วคุณไปพูดแบบนี้ไปแสดงความคิดเห็นทำนองนี้  ถามว่าคนที่เลือกคุณแต่เขารักสถาบันเขาไม่อยากให้คุณไปหมกมุ่นกับพวกสุดโต่งแบบนี้เขาจะรู้สึกอย่างไร  ถ้าคุณอยากพูดเรื่องนี้จริงๆอยากแสดงความคิดเห็นพรรค์นี้จริงๆ ทำไมไม่แสดงออกให้ชัดๆก่อนการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ก่อนเข้าคูหากากบาทวันวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมาให้ชัดๆไปเลย ว่าคิดแบบนี้อยากทำแบบนี้  คนกรุงฯจะได้รู้เช่นเห็นชาติก่อนตัดสินใจลงคะแนน

การสื่อสารของชัชชาติมันชัดเจนว่าให้ท้ายพวกล้มเจ้าเอาใจพวกล้มล้างสถาบัน  ไม่ว่าจะด้วยเพราะพวกนี้เป็นกลุ่มที่สนับสนุนตัวเองหรือเพราะลึกๆในใจเห็นด้วยกับเรื่องนี้  แต่เวลานี้ชัชชาติกำลังจะเป็นผู้ว่าฯของคนกทม.ราวๆ 4.5 ล้านคน   ไม่รู้หรือว่าเรื่องการยกเลิก ม.112 มันอ่อนไหว มันเป็นเรื่องชี้เป็นชี้ตายในการปกป้องสถาบันเอาผิดคนก้าวล่วงเจ้านาย  ที่ผ่านมาการลงโทษเอาผิดคนที่ละเมิดสถาบันด้วย ม.112 พวกที่ถูกตั้งข้อหานี้ก็ล้วนแต่กระทำความผิดต่อเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน  หนักหน่วงรุนแรงเกินกว่าจะปล่อยไว้  ชนิดที่คนไทยเกิดจากท้องพ่อท้องแม่ก็ไม่เคยพบเห็น ยุคไหนสมัยใดที่คนก้าวล่วงหลบหลู่พระเจ้าอยู่หัว พระราชินี รัชทายาท รวมถึงบรรดาพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูงด้วยคำพูดและวิธีการใจบาปหยาบช้าเลวชาติถึงเพียงนี้  ชัชชาติอาจกำลังอินกับการเป็นผู้ว่าฯกทม.ประวัติศาสตร์  อาจกำลังหลงระเริงกับการเป็นเซเลปเป็นคนดังเป็นคนป็อปปูล่าร์แบบชั่วข้ามคืน  แต่คะแนนเป็นล้านๆกับเรื่องนี้มันคนละเรื่องกัน  เชื่อว่าในจำนวน 1.38 ล้านคะแนนที่เลือกชัชชาติ  มีคนจำนวนมากไม่สบายใจไม่เห็นไม่ชอบที่ชัชชาติแสดงออกแบบนี้เพราะเสมือนไปรับลูกพวกล้มเจ้าไปให้ท้ายถึงเวที  ย้อนอดีตพวกที่ทำผิด ม.112 มีคดีเป็นพันๆ มีคนทำผิดหลายร้อยหรืออาจเกินนับพันคน  บอกได้เลยส่วนใหญ่ไม่มีการแกล้งไม่มีการเอากฎหมายมาเป็นเครื่องมือไม่มีการเอาเรื่องนี้มากำจัดคนเห็นต่างมองตรงข้ามกัน  ในประเทศไทยยุคนี้ตอนนี้ที่มีคนบางกลุ่มบิดเบือนล้างสมองคนรุ่นใหม่ว่า เป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนมีผู้นำเผด็จการมีรัฐบาลทหารมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย บอกได้เลยว่าแผ่นดินไทยตอนนี้พ.ศ.นี้ (แม่ง) มีประชาธิปไตยแบบสุดๆ  เลยเถิดถึงขนาดด่าในหลวงกันเอิกเกริกคิดปองร้ายราชินีลบหลู่เหยียดหยามเจ้านายชั้นสูงกันอย่างสนุกสนาน

ถ้าชัชชาติตอนนี้ยังหูตึงตาบอด  ลองย้อนอดีตเหตุการณ์สำคัญ ๆ ที่เกิดขึ้นจากความพยายามล้มล้างสถาบันของคนเหล่านี้ อาทิ   10 ส.ค. 2563 แกนนำกลุ่มล้มเจ้า ภายใต้การนำของ รุ้ง ปนัสยา “ไมค์” ภาณุพงศ์  จาดนอก และ  “ทนายอานน์” อานนท์ นำภา  ฯลฯ  ประกาศข้อเรียกร้อง 10 ข้อ ในการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ระหว่างการชุมนุม ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต  ประกาศข้อเรียกร้องทั้งหมดที่ว่าไม่มีข้อไหนเรื่องใดที่จะเป็นการเสริมพระเกรียติเหมือนที่ปากพูดมือเขียนเลยว่าจะ “ปฏิรูป” แต่มันคือการล้มล้างถอดถอนทำลายด้อยค่าสถาบันแบบต่ำช้าเลวทรามที่สุด  10 ข้อที่ว่าประกอบด้วย 1.ยกเลิก ม. 6 ของรัฐธรรมนูญ ที่ว่าผู้ใดจะกล่าวหาฟ้องร้องกษัตริย์มิได้ ให้สภาผู้แทนราษฎรสามารถพิจารณาความผิดของกษัตริย์ได้   2. ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา ม. 112  เปิดให้ประชาชนใช้เสรีภาพแสดงความคิดเห็นต่อสถาบันกษัตริย์ได้  ออกกฎหมายนิรโทษกรรมผู้ถูกดำเนินคดีเพราะวิพากษ์วิจารณ์สถาบัน   3. ยกเลิกพ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ พ.ศ.2561ให้แบ่งทรัพย์สินออกเป็นทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกระทรวงการคลัง และทรัพย์สินส่วนพระองค์ที่ของส่วนตัวของกษัตริย์อย่างชัดเจน

4. ตัดลดงบประมาณแผ่นดินที่จัดสรรให้กับสถาบันกษัตริย์ให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจของประเทศ 5. ยกเลิกส่วนราชการในพระองค์   เช่น หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ให้ย้ายไปสังกัดหน่วยงานอื่น ยกเลิกคณะองคมนตรี   6. ยกเลิกการบริจาคและรับบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศลทั้งหมด  เพื่อกำกับให้การเงินของสถาบันกษัตริย์อยู่ภายใต้การตรวจสอบทั้งหมด  7. ยกเลิกพระราชอำนาจในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองในที่สาธารณะ  8. ยกเลิกการประชาสัมพันธ์และการให้การศึกษาที่เชิดชูสถาบันกษัตริย์แต่เพียงด้านเดียวจนเกินงาม   9. สืบหาความจริงเกี่ยวกับการสังหารเข่นฆ่าราษฎร  ที่วิพากษ์วิจารณ์หรือมีความเกี่ยวข้องใดๆ เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์  และ 10. ห้ามมิให้ลงพระปรมาภิไธยรับรองการรัฐประหารครั้งใดอีก

14 ต.ค. 2563  รุ้ง ไมค์ อานนท์  และ “ไผ่ ดาวดิน” จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา แกนนำคณะราษฎร 2563  นัดชุมนุมใน08.00 น. บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ 1. พล.อ.ประยุทธ์ต้องลาออก 2.เปิดประชุมวิสามัญทันที เพื่อรับร่างแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญจากประชาชนทั้งฉบับ และ 3.ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์  ระหว่างการชุมมวลชนส่วนหนึ่งได้เดินมาที่ทำเนียบรัฐบาล  ก่อนเกิดเหตุการณ์สุดช็อกครั้งแรกในประวัติศาสตร์เหยียบย่ำหัวใจของคนไทย     เมื่อขบวนเสด็จของสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินี และ พระองค์ทีฯ   ซึ่งอยู่ระหว่างเสด็จไปถวายผ้ากฐินที่วัดราชโอรสฯและวัดอรุณฯ ขณะอยู่ระหว่างเสด็จผ่าน ถนนพิษณุโลกเพื่อข้ามสะพานชมัยมรุเชษฐ์  ด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล  ได้ถูกพวกล้มเจ้าและมวลชนจากการชุมนุมกรูเข้าล้อมขบวนเสด็จฯ มีการชู 3 นิ้ว มีการชูนิ้วกลาง และตะโกนด้วยถ้อยคำหยาบคายใส่ขบวนเสด็จ นับเป็นการกระทำอุกอาจหยาบช้าอย่างที่สุดของขบวนการล้มเจ้าชนิดที่คนไทยที่เห็นภาพเหตุการณ์ต่างรับไม่ได้

26 ต.ค. 2563 กลุ่มผู้ชุมนุมนำโดย มายด์  ภัสราวลี บุกสถานทูตเยอรมนีเรียกร้องให้รัฐบาลเยอรมนี ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับการประทับ การทรงงาน และการเสียภาษีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ  ร.10 ระหว่างบินไปพำนัก ณ  ประเทศเยอรมนี จากนั้น 28 ก.พ.2564  “แอมมี่ เดอะ บอตทอม บูลส์”  หรือ ไชยอมร แก้ววิบูลพันธุ์  แกนนำม็อบราษฎรก่อเหตุวางเพลิงเผาพระบรมฉายาลักษณ์พระเจ้าอยู่หัว หน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ที่ยกมาทั้งหมดนี้แค่หางอึ่งแค่น้ำจิ้มความชั่วช้าของคนกลุ่มนี้เท่านั้น  ความจริงมีอีกหลายเรื่องหลายเหตุการณ์ที่คนพวกนี้คิดอ่านกระทำการหมิ่นเบื้องสูงด้อยค่าสถาบัน อาทิ ไปชุมนุมระหว่างเสด็จพระราชทานปริญญาให้นิสิต นักศึกษา ตามมหาวิทยาลัยต่างๆ  แต่งตัวล้อเลียนเจ้านาย  ออกคอนเทนต์โฆษณาดูหมิ่นกระทบกระเทียบคนพิการ ฯลฯ  ความจริงยังมีอีกเป็นพันเป็นหมื่นการกระทำปราศรัยด่าบนเวที เขียนคอมเมนต์โพสต์ข้อมูลในอินเตอร์เนต แสดงความคิดเห็นผ่านสื่อ เป็นต้น เรื่องพวกนี้ชัชชาติไปอยู่ที่ไหนไปทำอะไรเคยรับรู้เคยเอามาพูดบ้างไหม

นับประสาอะไรชาวบ้านคนธรรมดาถูกด่าถูกอาฆาตมาดร้ายถูกดูหมิ่นดูแคลนยังสามารถฟ้องร้องเอาผิดกันได้  นี้ท่านเป็นถึงเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน เป็น 3 เสาหลักของประเทศ โดยคนชั่วละเมิดคนใฝ่ต่ำย่ำยีทำไมจะเอาผิดลงโทษไม่ได้    กฎหมายอาญา ม. 112  ก็เขียนระบุไว้ชัด  ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี  ถ้าไม่อคติสุดใจหรือเอียงข้างจนตกโลกก็จะรู้ดีว่าคดี ม.112 ในไทย มันชั่วช้าโคตรเลวจริงๆถึงจะถูกจับถูกดำเนินคดี จู่ๆจะเอากฎหมายตัวนี้ไปกลั่นไปแกล้งใครไม่มีใครเขาบ้าเอาไปทำ พูดตรงๆแมนๆกันหน่อยอย่าบิดจนเบี้ยวอย่าเลี้ยวจนชน    ต่างชาติประเทศพัฒนาเขาก็มีกฎหมายปกป้องดูแลประมุขสูงสุดของประเทศกันทั้งหมด  ยกตัวอย่างให้หายโง่  สเปน  หมิ่นประมากษัตริย์ ราชินี บรรพบุรุษหรือทายาท มีโทษจำคุก 2 ปี  ,  สวีเดน ละเมิดพระมหากษัตริย์ หรือพระราชินี  กรณีไม่ร้ายแรงจำคุก 4 เดือน ถ้าร้ายแรง  จำคุกสูงสุดไม่เกิน 1 ปี  , สวิตเซอร์แลนด์  หมิ่นประมาทประมุขแห่งรัฐ โทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 3 ปี  , รัสเซีย ข่าวปลอมหรือดูหมิ่นประธานาธิบดี นายกฯ และประมุขต่างประเทศ โทษจำคุกสูงสุด 15 วัน และปรับไม่เกิน 30,000 รูเบิล  , อังกฤษ ห้ามจับกุมสถาบันพระมหากษัตริย์ ห้ามจะปรับไหม หรือยึดทรัพย์ส่วนพระองค์ ห้ามนำทรัพย์สินส่วนพระองค์ขายทอดตลาด, มาเลเซีย “สมเด็จพระราชาธิบดี” จะได้รับการปกป้อง ใครจะละเมิดมิได้ และไม่มีอำนาจใดสามารถเอาผิดทางกฎหมายได้

ขณะที่บรูไน การหมิ่นสมเด็จพระราชาธิบดี ถือเป็นอาชญากรรม มีโทษจำคุก 3 ปี   ส่วนภูฏาน  พระมหากษัตริย์ จะถูกกล่าวหา ฟ้องร้องมิได้   ปิดท้ายที่สหรัฐอเมริกา  ประเทศพระบิดาพวกบูชาประชาธิปไตย   การข่มขู่ประธานาธิบดี และข่มขู่เอาชีวิตหรือทำร้ายร่างกายผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี และปรับสูงสุด 250,000 ดอลลาร์ฯ  ราว 7.5 ล้านบาท ฯลฯ  อย่าพูดเอาง่ายอย่าไปกลายเป็นควายให้พวกล้มเจ้าหลอก เรื่องพวกนี้ทุกประเทศมีระบุคุ้มครองสถาบันสูงสุดของตัวเองไว้หมด ไม่งั้นก็ด่าเจ้าล้อประมุขมุ่งร้ายประธานาธิบดีกันเพลินไปเลย  ไล่เรียงมาทั้งหมดเพื่อจะบอกชัชชาติท่านกำลังจะได้เป็นผู้ว่าฯกทม.  จากนี้ต้องดำรงค์ความเป็นกลางต้องวางตัวเป็นอิสระให้สมกับที่ท่านประกาศตัว ว่าไม่ได้เป็นหุ่นเชิดของพรรคไหน ไม่ได้เป็นคนของฝ่ายใด ไม่ได้เป็นผู้ว่าฯกทม.ของพวกล้มเจ้าล้างสถาบัน สำนึกไว้มากๆว่าท่านมีวันนี้เพราะทุนหลวง  ถึงไปได้ต่อป.โท.ป.เอกที่อเมริกา    ได้ดีเพราะพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานให้  วันนี้ความคิดเปลี่ยนไปไม่เป็นไรไม่ว่ากัน     แต่อย่าให้ท้ายคนผิดอย่าคิดสนับสนุนพวกทำร้ายสถาบัน   ได้กำลังใจจากคนกรุงเทพล้นหลามเป็นประวัติการณ์ 1.38 ล้านคะแนนแล้ว  ตั้งหลักให้ดีตั้งเป้าให้แม่น เรื่องไหนคือหน้าที่ผู้ว่าฯกทม. เรื่องไหนควรทำเรื่องไหนควรข้าม   ลำพัง 214 นโยบายของท่านไปเร่งทำให้หมดเถอะ พิสูจน์เรื่องที่รับปากหาเสียงกับคนกรุงไว้ก่อน  ทำงานให้หนักพูดให้น้อยลดการพรีเซ้นต์เฟซตัวเองลงให้มากๆ  ที่สำคัญอย่าหาเหาใส่หัวโดยไม่จำเป็น  กกต.ยังไม่ทันรับรองยังไม่รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเลย   พูดจาหาเรื่องใส่ตัวไม่เว้นแต่ละวัน  จับเรื่องร้อนๆพูดแต่เรื่องแรงๆเดินหน้าท้าชนสารพัดกลุ่ม  พูดจาเอามันส์รักษาฐานคะแนนแบบส่งเดช ให้ท้ายคนชั่วส่งเสริมคนเลวระวังมันจะกลับมาทิ่มแทงตัวเอง ต่อให้เป็นชายที่แข็งแกร่งสุดในปฐพีแต่ถ้าคิดลองดีกับเรื่องนี้รับรองพังได้ง่ายๆ

/////////////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

งานเข้า! "ตำรวจไซเบอร์" ชี้ล่าเหรียญ "Jagat" ฟันผิดกฎหมาย พบ 3 บัญชีโอนเงินผู้เล่นจริง จ่อเรียกสอบ
ฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานยังคลุมทั่ว กทม. พื้นที่สีแดง 14 เขต
บึ้มสนั่นกลางดึก ชาร์จรถ 3 ล้อไฟฟ้า เกิดไฟฟ้าลัดวงจรลามไหม้ร้านของชำ หวิดวอดทั้งหลัง
กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศหนาวในตอนเช้า อุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย เตือนภาคใต้มีฝนตกบางแห่ง
"กรมโยธาฯ" จับมือ "คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล" ลงนาม MOU ช่วยชีวิตผู้ป่วยด้วยการบริจาคโลหิต
“ไทด์” แฉลึก! ยศใหญ่โทรปิดเกม สั่งย้าย “แตงโม” เข้านิติเวช รพ.ตำรวจ
เมียไรเดอร์ เปิดใจเสียงสั่น กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังรู้ข่าว หนุ่มอินเดียซิ่งเก๋งได้ประกันตัว ลั่น ‘คนมีเงินมันยิ่งใหญ่’
นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น