หลังจากที่มีอุบัติเหตุกรณี นายนายบุญเกิด พรมวัฒน์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 บ.โคกครุฑ ต.ลำดวน อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ โดนสายสื่อสารเกี่ยวคอ ทำให้รถจักรยานยนต์ล้มกะโหลกร้าวอาการสาหัส ที่หน้าโรงพยาบาลลำดวน อำเภอลำดวน จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น ของคืนวันที่ 29 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ที่เกิดเหตุบนถนนทางหลวงหมายเลข 2077 แล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งผู้ตายเป็นหัวหน้าครอบครัว และต้องดูแลแม่ ภรรยา และลูกๆอีก 3 คน ที่ต้องไร้ที่พึ่ง ก่อนที่จะได้มีพิธีฌาปณกิจศพ เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา ที่วัดสุวรรณรัตน์โพธิยาราม ต.ลำดวน อ.ลำดวน จ.สุรินทร์
หลังจากฌาปนกิจศพเสร็จช่วงตอนกลางคืนประมาณ 01:00 น มีชาวบ้านอยู่เป็นจำนวนมากได้เห็นรถจักรยานยนต์มีแต่แสงไฟไม่เห็นตัวคนวิ่งเข้าไปดับหน้าประตูบ้าน ทั้งๆที่ทางเข้าบ้านมีแต่โคลนเละเทะไปหมดไม่สามารถที่จะขี่เร็วได้ถึงขนาดนั้นชาวบ้านที่อยู่ในงานต่างๆออกมาดูว่าเป็นรถของใครแต่ก็ไม่เห็น ชาวบ้านที่อยู่ในงานจึงได้ขนลุกกันทั่ว เพราะทุกคนที่อยู่ในงานต่างก็เห็นกันหมดทุกคน ทั้งได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์และเห็นแสงไฟของรถจักรยานยนต์ ทุกคนต่างก็มองหน้ากันแบบเหมือนกับรู้ว่าอะไรคืออะไร และทุกวันนี้ชาวบ้านหลายคนก็ยังบอกว่ายังเห็นรถจักรยานยนต์วิ่งเข้าไปที่บ้านของผู้ที่เสียชีวิตแล้วก็หายไปตรงประตูทางเข้าบ้าน แถวบ้านก็ได้แต่พูดว่าน่าจะเป็นวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตที่เสียชีวิตโดยไม่รู้ แล้วก็ไม่ได้เชิญวิญญาณที่รถจักรยานยนต์คู่ใจที่ผู้ตายใช้ขับขี่เป็นประจำแล้วเกิดอุบัติเหตุ พร้อมกับ 2 งวดที่ผ่านมาชาวบ้านถูกเลขกันถ้วนหน้า รถจักรยานยนต์คู่ใจของผู้เสียชีวิตที่เกิดอุบัติเหตุสายสื่อเกี่ยวคอล้มไปพร้อมกับผู้เสียชีวิตยี่ห้อ Honda Super Cub หมายเลขทะเบียน 1 กฒ 609 สุรินทร์ ตอนนี้รถยังอยู่ที่โรงพัก สภ.ลำดวน
ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 29 พฤษภาคม 2565 ซึ่งเป็นวันพระ นายประทุม ฮ้อยไทยสงค์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท อยู่ที่บ้านเลขที่ 404 หมู่ที่ 3 ตำบลลำดวน อำเภอลำดวน จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านผู้เสียชีวิต วันนั้นได้นั่งกินข้าวบริเวณหน้าบ้าน ปกติตอนมีชีวิตก็จะเรียกผู้ตายมากินข้าวเป็นประจำและไปมาหาสู่กันเป็นประจำ แม้กระทั่งเสียชีวิตไปแล้วทุกครั้งก็จะนึกถึงผู้เสียชีวิตก็จะเรียกกินข้าวเป็นประจำแต่วันนั้นลืมเรียกตกกลางคืนเห็นเป็นรูปคนยืนหันหลังร้องไห้อยู่หน้าบ้านทำให้เพื่อนคนสนิทขนลุกไปทั้งตัว เลยคิดว่าเขาน่าจะยังมีห่วงและยังไม่ไปไหนเพื่อนๆหลายคนก็ยังเห็นขี่รถจักรยานยนต์คู่ใจเป็นประจำ และยังเห็นนั่งอยู่ข้างรถตู้ที่เขาเคยขับ
นายประทุม ฮ้อยไทยสงค์ เพื่อนสนิท เล่าให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่า ปกติจะเรียกแกกินข้าวทุกครั้ง เพราะว่าเป็นเพื่อนเที่ยวเพื่อนดื่มเพื่อนกินด้วยกัน วันนั้นเป็นวันพระด้วย ลืมเรียกกินข้าวแต่ทุกครั้งก็จะเรียกกินข้าวเป็นประจำ ตกดึกตอนกลางคืน มายืนร้องไห้ ยืนหันหลังให้แล้วร้องไห้ ก็เลยนึกได้ว่าเป็นวันพระด้วยลืมเรียกแกกินข้าว ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็จะเรียกแกกินข้าวเป็นประจำ แล้วเป็นเพื่อนกินเพื่อนเที่ยวเพื่อนดื่มด้วยกัน ถึงแม้จะเสียไปแล้วก็จะเรียกตลอด ปัจจุบันเพื่อนก็ยังเห็นผู้ตายนั่งอยู่ข้างรถตู้ ก็เลยคิดว่าเขาไม่น่าจะยังไม่ได้ไปไหน ทุกวันนี้ก็ยังได้ยินเป็นเสียงรถจักรยานยนต์บ้างเป็นเสียงเรียกบ้าง
ส่วนความคืบหน้าคดี ทางบริษัทสายสื่อสาร ซึ่งให้บริการอินเทอร์เน็ตชื่อดังต้นเหตุ ดังกล่าว ได้ประสานเพื่อแสดงความรับผิดชอบกับครอบครัวผู้เสียชีวิตแล้ว อยู่ระหว่างพิจารณาจ่ายค่าชดเชยเยียวยาให้กับครอบครัวผู้ตาย ส่วนมารดาของผู้ตายที่เสียสติจากสาเหตุที่ลูกชายตายโดยไม่ทันตั้งตัว เดินไกลกว่า 50 กิโลเมตร ขณะนี้ได้รักษาตัวจนอาการหายดีและกลับมาอยู่บ้านแล้ว แต่ก็ยังทำใจและรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่.
ภาพ/ข่าว กฤษดากร กีรติธำรงค์เจริญ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์