ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีภาพเหตุการณ์ที่ชาวบ้านเขต ต.จานแสนไชย อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ พากันลุกฮือเข้าไปขับไล่เจ้าหน้าที่ ตร.และฝ่ายปกครอง อ.ห้วยทับทัน ขณะที่กำลังเข้าไปทำการตรวจสอบจับกุมผู้จัดงานประเพณีบุญบั้งไฟในพื้นที่เขต ต.จานแสนไชย อ.ห้วยทับทัน หลังจากที่มีการแอบลักลอบนำบั้งไฟขนาดใหญ่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดมาจุด โดยชาวบ้านจำนวนมากได้พากันกรูเข้าไปล้อมกรอบเจ้าหน้าที่และได้พากันขว้างเศษสิ่งของดินหินเข้าไปใส่เจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบจับกุมบั้งไฟเถื่อน ซึ่งนั้นชาวบ้านได้มีการนำเอาบั้งไฟขนาด 5 นิ้ว ขึ้นไปบนฐานจุดบั้งไฟแล้ว แต่ว่าเจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้จุดบั้งไฟ เนื่องจากว่า ขนาดบั้งไฟใหญ่เกินกว่า 3 นิ้ว ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนประกาศคำสั่ง จ.ศรีสะเกษ มีการร้องตะโกนบอกให้ชาวบ้านใจเย็น ๆ แต่ว่าชาวบ้านไม่ยอมฟัง ยังคงถือท่อนไม้วิ่งฮือกันเข้าไปและขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ เหตุการณ์เป็นไปอย่างโกลาหลชุลมุนวุ่นวาย สุดท้ายชาวบ้านได้ยอมให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงใกล้ค่ำของวันที่ 28 พ.ค. 2565 ที่ผ่านมา ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 30 พ.ค. 2565 ที่ห้องประชุมโรงแรมศรีลำดวน อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ ได้กล่าวถึงกรณีการลักลอบจุดบั้งไฟเถื่อนและชาวบ้านจานแสนไชยล้อมกรอบเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปจับกุมการจุดบั้งไฟขนาดที่เกินกว่ากฎหมายกำหนดว่า ตนได้มีการกำชับใน 2 เรื่องใหญ่ ๆ คือ ประการแรกคือ การจุดบั้งไฟจะต้องเป็นไปตามประกาศของ จ.ศรีสะเกษ คือจะต้องผ่านกระบวนการของการขออนุญาตผ่านทางวัฒนธรรมและส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องขึ้นมา โดยจะต้องมีผู้รับผิดชอบทั้งทางแพ่งและทางอาญา มีรูปลักษณะโครงการจัดงานประเพณีประการที่ 2 คือ ขนาดของบั้งไฟก็จะต้องอยู่ภายใต้กรอบที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ส่วนในอนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเป็นอะไรต่างๆ ก็คงจะต้องมีการประชุมปรึกษาหารือกันเพื่อจะได้ทำประกาศจังหวัดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เพราะฉะนั้นก็ถือว่าเป็นประกาศที่เราใช้แต่เดิมมาซึ่งในฤดูกาลประเพณีบุญบั้งไฟปีนี้ก็จะสิ้นสุดในวันที่ 30 พ.ค.65 นี้แล้ว ส่วนหนึ่งประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งปีนี้ตนก็ได้ผ่อนคลายให้จัดงานประเพณีบุญบั้งไฟได้ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ แต่ไม่ยอมให้กรณีที่ไม่ได้รับอนุญาตไปลักลอบจุดบั้งไฟ ตนได้ให้ทีมปกครองจังหวัดและเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ไปตรวจสอบและได้ทำการจับกุมรวมทั้งกรณีการจุดบั้งไฟเกินขนาดด้วย
นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีที่ชาวบ้าน ต.จานแสนไชย อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ ได้พากันลุกฮือขึ้นมาขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่ห้ามไม่ให้มีการจุดบั้งไฟที่มีขนาดเกินกว่าที่ประกาศ จ.ศรีสะเกษกำหนดไว้นั้น เรื่องนี้ตนได้สั่งการให้ทำการตรวจสอบว่าเป็นไปอย่างเหมาะสมหรือไม่ เนื่องจากว่าเจ้าหน้าที่ไปปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้บังคับบัญชาได้สั่งการตามเงื่อนไขที่ได้วางกติกากันเอาไว้ก่อนแล้ว เพราะอย่างนั้นพี่น้องประชาชนก็จะต้องเข้าใจว่าการปฏิบัติหน้าที่นั้นจะต้องเป็นไปตามระเบียบแบบแผนที่กำหนดไว้ เราไม่ได้ไปกลั่นแกล้งใครโดยทุกอำเภอก็จะต้องปฏิบัติตามประกาศ จ.ศรีสะเกษนี้ ซึ่งตนได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงไปแล้ว ทั้งกรณีที่การลักลอบจุดบั้งไฟและการที่มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น รวมทั้งให้มีการตรวจสอบไปถึงว่า การที่มีการลักลอบจุดไฟนั้น มีข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือใครต่างๆ เข้าไปมีส่วนรู้เห็นอะไรต่างๆ หรือไม่ ซึ่งตนได้เร่งรัดให้เร่งดำเนินการตรวจสอบและรายงานให้ทราบ โดยตนได้มอบให้ทางอำเภอที่เกิดเหตุได้ทำการตรวจสอบ หากผลการตรวจสอบแล้วพบว่าไม่เหมาะสมหรือข้อเท็จจริงไม่เป็นที่สมบูรณ์ ตนก็จะดำเนินการสั่งให้ตรวจสอบใหม่อีกครั้งอย่างต่อเนื่องต่อไป.
ภาพ/ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ