เมื่อเวลา 13.40 น. วันที่ 31 พ.ค. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 4 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า คนไทยกำลังทำสงครามรบกับสงครามหนี้ จำนวน 1.4 ล้านล้านบาท ถ้าเทียบกับจีดีพี ประเทศ 16.2 ล้านล้าน รบเท่าไหร่ก็ไม่ชนะ ใน 1 วัน มี 24 ชั่วโมง คนไทยจมอยู่กับกองหนี้ เกือบ 23 ชั่วโมง ตื่นยันนอน หลอนยันฝัน สงครามหนี้มูลค่า 14 ล้านล้านนี้ ต่อให้เอาเงินงบประมาณปี 66 ทั้งเล่ม ที่มีอยู่ 3.1 ล้านล้าน มาจ่ายให้ก็จ่ายไม่หมด และก็เป็นไปไม่ได้ สงครามหนี้ มีตัวการ 3 ประการ คือ จมกองหนี้ ไม่มีทุน ขาดกระตุ้นภูมิ เรียกว่า สามเหลี่ยมวอดวาย ซึ่ง ในครอบครัวคนไทย 21 ล้านครัวเรือน ส่วนใหญ่ กว่า 1 ใน 3 ของประเทศ ทำอาชีพเกษตรกรรม และนี่คือเหตุผลว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ ได้ต่อสู้เพื่อพี่น้องเกษตรกรมาโดยตลอด ด้วยนโยบายประกันรายได้ โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ได้ผลักดันนโยบาย สำเร็จจนเงินถึงมือเกษตรกร 8 ล้านครัวเรือน จะหลุดพ้น และกำจัดไฟเศรษฐกิจ พิษจากสามเหลี่ยมวอดวาย ที่กำลังโหมไหม้บ้านของเราได้ ด้วยงบประมาณฉบับนี้ที่หวังจะให้ทำหน้าที่เป็นดัง ถังดับเพลิงก่อนจะสายเกินไป เมื่อเจาะรายละเอียด วิเคราะห์โดยนำเทคโนโลยีเศรษฐกิจทันสมัย ของพรรคประชาธิปัตย์มาคิด ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์มาประมวลผล สกัดออกมาได้ ว่างบประมาณปี2566 จำนวน 2 ลังใหญ่ 39 เล่ม พุ่งความสนใจไปที่ทางหลวง สะพาน สนามบิน การพัฒนากองทัพ ความมั่นคง ปฏิรูปตำรวจ
"อิสระ" เตือนฝ่ายค้านคว่ำงบฯ66 เท่ากับถอดท่อออกซิเจนประชาชน แนะตัดงบรายจ่ายเกินตัว-งบซ่อนแอบ-เลิกบรรจุคนเพิ่ม แก้สงครามหนี้ 1.4 ล้านล้านบาท ด้าน“ทวี” ซัด “ประยุทธ์” จัดงบอยุติธรรม ไม่มีปชช.ในหัวใจ
ข่าวที่น่าสนใจ
นายอิสระ กล่าวต่อว่า งบประมาณฉบับนี้ แทบไม่ได้พูดถึงโครงการอะไรที่จะแก้ปัญหาหนี้ ลองเอางบฯ ทั้งหมดที่เกี่ยวกับการแก้ปัญหาหนี้ มารวมกัน แล้วหารด้วยจำนวนหนี้ครัวเรือน 14 ล้านล้านบาท ได้ออกมาแค่ 0.03% พูดง่ายๆให้เห็นภาพคือ ถ้าเราบอกว่า นาย ก. มีหนี้ 100 บาท งบฯ ฉบับนี้ไปแก้หนี้ให้ 3 สตางค์ มีข้อมูลที่น่าตกใจอีกอันนึง ในขณะที่เราจัดสรรเงินไปช่วยแก้หนี้แค่ 3 สตางค์ เรามีรายจ่ายบุคลากรภาครัฐถึง 1.3 ล้านล้านบาท จากพิษของเพลิงเศรษฐกิจ ขอร้องกมธ.ที่จะตั้งขึ้น ช่วยหยุดการราดน้ำมัน 3 ถัง คือ งบรายจ่ายที่เกินตัว ไม่จำเป็น เช่น ค่าเช่ารถประจำตำแหน่ง 900 กว่าล้าน + ค่าเดินทางไปต่างประเทศ 2-3 พันล้าน + ค่าจ้างสารพัดที่ปรึกษาอีกเป็นหมื่นล้าน 2.งบหลังกำแพง งบซ่อนแอบ และ3.เลิกซักทีการบรรจุคนเพิ่ม เราต้องหยุดเอาน้ำมันไปราดกองไฟ คือ อุดช่องคอรัปชั่นหั่นรายจ่ายเกินตัว ถัวเฉลี่ยกำลังคน
” ผมได้ยินข่าวว่าหลายฝ่ายออกมาพูดในลักษณะจะคว่ำร่างพ.ร.บ.งบปี 66 แต่ผมไม่เห็นด้วย เพราะไม่ว่าจะเห็นด้วยกับรัฐบาลหรือไม่ แต่ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ ไม่ต่างอะไรกับถังออกซิเจนที่จะมาพยุงชีวิต ช่วยต่อลมหายใจประชาชน การคว่ำงบก็ไม่ต่างอะไรกับการถอดท่อหายใจที่จะช่วยประชาชน ถ้านึกถึงประชาชนมากกว่าเกมการเมือง ผมขอร้องเถอะครับว่า เปลี่ยนจากจะคว่ำงบ มาเป็นแนะนำว่าจะปรับงบอย่างไรในชั้นกมธ. ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่าซ้ำเติมเพลิงเศรษฐกิจด้วยพิษการเมืองเราเลยครับ” นายอิสระ กล่าว
จากนั้นเวลา 14.00 น. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ อภิปรายว่า ขอเตือนความจำ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ว่าท่านจัดงบมาเป็นครั้งที่ 10 ตั้งแต่ท่านยึดอำนาจเมื่อปี 57 ซึ่งตอนนั้นงบปี 56 ก็ยังได้ใช้ เท่ากับท่านใช้งบมาแล้ว 11 ปี เป็นเงิน 31 ล้านล้านบาท การจัดงบของรัฐบาลไม่มีส่วนร่วมของประชาชน ไม่ได้อยู่บนฐานความต้องการของประชาชน ไม่ให้ความสำคัญสวัสดิการของประชาชน ไม่กระจายงบประมาณ จัดงบไม่คุ้มค่า ซ้ำซ้อน ไม่เกิดผลสัมฤทธิ์ ท่านจัดงบที่เป็นความอยุติธรรมกับประชาชน บำนาญข้าราชการตอนที่นายกฯ ยึดอำนาจใช้งบเพียง 1 แสนกว่าล้าน ผ่านมาวันนี้นายกฯ จัดงบมา 3.2 แสนล้านบาท แต่บำนาญของประชาชน 12 ล้านคน นายกฯให้ 7.1 หมื่นล้านบาท คน 12 ล้านคน กับคนไม่ถึง 1 ล้านคน มีความเหลื่อมล้ำมากขนาดนี้ ซึ่งความเหลื่อมล้ำนี้เกิดจากนายกฯ ที่ชิงออกพ.ร.บ.วินัยการเงิน การคลัง โดยระบุว่า บุคลากรของรัฐต้องมีงบประมาณ และสวัสดิการอย่างเพียงพอ ท่านไม่มีประชาชนอยู่ในหัวใจเลย ท่านจึงใช้ข้าราชการหรือคนรอบข้างไปกดทับประชาชน ส่วนงบผูกพันข้ามปีเป็นการฮั้วการประมูลในอนาคต ปีนี้ก็มีมากกว่า 8 หมื่นล้านบาท ถ้าปล่อยไปจะเหมือน 10 ปีที่ผ่านมา ประชาชนไม่ได้ประโยชน์จากร่างงบประมาณฉบับนี้ ถ้าจัดใหม่จะมีประโยชน์มากกว่า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
