เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่30 มิ.ย. 2564 พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ป. พร้อมหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจค้นอาคารทาวน์โฮม 3 หลัง หลัง ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านไพลินปาร์ค ถนนรัตนาธิเบศร์ 28 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี หลังสืบทราบว่ามีการลักลอบเปิดใช้เป็นสำนักของเครือข่ายเงินกู้ออนไลน์ แอพพลิเคชั่น “ช้างเผือก,ช้างมืออาชีพ เงินกู้ดีที่สุด”
จากการตรวจค้นอาคารทั้ง 3 หลัง พบเป็นอาคารพานิชย์ขนาด 4 ชั้น ภายในมีการดัดแปลงเป็นสำนักงาน มีกลุ่มพนักงานชาย-หญิง จำนวนกว่า 50 คน กำลังนั่งทำงานอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ไปถึงกลุ่มพนักงานดังกล่าวพยายามวิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามจับกุมมาได้บางส่วน จำนวน 30 คน ก่อนเข้าตรวจยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ที่กระจายอยู่ตามห้องต่างภายในอาคารทั้ง 3 หลัง ได้จำนวน 130 เครื่อง พร้อมกับเอกสารบัญชีรายชื่อลูกค้าที่กู้ยืมเงินอีกจำนวนมาก
พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับการตรวจค้นจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากได้รับร้องเรียนมีแก๊งเงินกู้ออนไลน์แอพพลิเคชั่นดังกล่าว เข้ามาเช่าอาคารพานิชย์ ลักลอบเปิดใช้เป็นสำนักงาน จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแสประมาณ 1 เดือน กระทั่งแน่ขัดแล้วว่ามีการกระทำดังกล่าวจริง จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญาออกหมายค้น เข้าตรวจค้นจับกุมผู้กระทำผิดดังกล่าว
พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับพฤติการณ์ของขบวนการดังกล่าว จะเปิดแอพพลิเคชั่นขึ้นมาเพื่อเป็นช่องทางในการติดต่อกับลูกค้า เข้ามาติดต่อกู้เงิน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่มีความเดือดร้อนทางการเงิน นอกจากนี้ยังพบว่าขบวนการดังกล่าวมีการเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด รวมถึงมีการติดตามทวงหนี้โดยลักษณะก่อกวนและข่มขู่ หากใครไม่ชำระหนี้ครบตามเวลาก็จะส่งข้อความไปให้กับบุคคลใกล้ชิด เพื่อประจานให้เกิดความอับอาย
พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวต่ออีกว่า จากแนวนี้ทางสืบสวนยังพบอีกว่าขบวนการดังกล่าวมีนายทุนเป็นชาวจีน ทำมานานหลายปี ที่ผ่านมามีการย้ายสถานที่สำนักงานมาแล้วหลายแห่งเพื่อให้ยากต่อการตรวจสอบ อาทิ จ.เชียงราย จ.เพชรบุรี จ.ชลบุรี ก่อนจะย้ายมาตั้งออฟฟิศที่ จ.นนทบุรี ได้ประมาณ 2 เดือน โดยพนักงานส่วนใหญ่ที่จับกุมได้ในวันนี้ จะเป็นพนักงานที่ทำหน้าที่โทรติดตามเร่งรัดหนี้สินจากลูกค้า ซึ่งเบื้องต้นพบเฉพาะเพียงพนักงาน 1 คน มีบัญชีรายชื่อลูกหนี้ในมือที่ต้องตามทวงกว่า 2 พันคน
เบื้องต้นกลุ่มพนักงานที่ถูกจับกุมในวันนี้จะถูกดำเนินคดีในความผิด พรบ.เรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ปี2560 และ พรบ.การประกอบธุรกิจสถาบันการเงิน ปี2551. ส่วนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตรวจยึดได้นั้น หลังจากนี้จะประสาน บก.ปอท. เข้าตรวจสอบข้อมูล เพื่อนำขยายผลเอาผิดกลุ่มนายทุนที่แท้จริง และ ผู้ร่วมขบวนการคนอื่นๆต่อไป
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับผู้ที่มาติดต่อกู้เงินผ่านแอพดังกล่าว เบื้องต้นจะถูกหักเงินเป็นค่าดอกเบี้ยก่อนล่วงหน้าประมาณ ร้อยละ 40 ของจำนวนเงินที่ยื่นกู้