เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 1 มิ.ย. ที่รัฐสภา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม พร้อมด้วยนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ และนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความชื่อดัง ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร ผ่านนพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาฯ และนายแทนคุณ จิตต์อิสระ คณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาฯ เพื่อขอให้ตรวจสอบจริยธรรมนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์
นายษิทธา กล่าวว่า สาเหตุเกิดจากกรณีที่นายมงคลกิตติ์ แสดงความคิดเห็นด้วยการไลฟ์สดและแถลงข่าวในทำนองข่มขู่ประชาชน รวมถึงก่อนหน้านี้โทรศัพท์ไปหานายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา และพูดในทำนองว่า จะใช้วิธีนอกกฎหมาย ซึ่งเป็นวิธีทางการเมือง ตนอยากถามนักการเมืองว่าปกตินักการเมืองจะใช้วิธีนอกกฎหมายกันอยู่แล้วหรือ และนายมงคลกิตติ์ ยังพูดระหว่างการไลฟ์สดว่าจะไปแจ้งความดำเนินคดีตนพร้อมกับทนายคนอื่นๆ ที่ 3 จังหวัดชายแดนภาาคใต้ ถือว่าเป็นการใช้สิทธิ์ไม่สุจริต และเป็นการกลั่งแกล้ง เราในฐานะทนายความถือเป็นประชาชนคนหนึ่ง สามารถแสดงความคิดเห็นอะไรก็ได้ในทางที่ไม่ละเมิดสิทธิ์ใคร อีกทั้งในการให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโทรทัศน์ นายมงคลกิตติ์ ยังรับสารภาพว่า ได้มีการข่มขู่จริง
“ผมได้ทำหนังสือร้องเรียนถึงประสภาฯ พร้อมกับคลิปจำนวน 3 คลิป ทั้งคลิปข่มขู่นายเดชา คลิปไลฟ์สดของนายมงคลกิตติ์ และคลิปคำรับสารภาพของเขาว่าได้มีการข่มขู่จริง ผมเห็นว่ามาตรฐานจริยธรรมของนักการเมืองควรมีสูงกว่าประชาชนทั่วไป ซึ่งการกระทำของนายมงคลกิตติ์ ทำให้สภาฯดูไม่ดีเท่าไร จึงมายื่นหนังสือถึงนายชวน เพื่อขอให้ตรวจสอบว่าการกระทำของนายมงคลกิตติ์ผิดจริยธรมหรือไม่ หากผิดจริงของให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ยืนยันว่าพวกเราไม่ได้ทำผิด หากนายมงคลกิตติ์แจ้งความ เราก็จะแจ้งความกลับในทุกเรื่อง และอย่าไปใช้ชื่อพรรคการเมืองหรือตำแหน่งการเมืองในพรรคมาแจ้งความดำเนินคดี ถ้าเป็นลูกผู้ชายเขาไม่อ้างคนอื่น ตัวเองเป็นคู่กรณีก็ขอให้กล้าหน่อย” นายษิทธา กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่นายมงคลกิตติ์ ระบุว่า จะมีการกำจัดโดยใช้วิธีการเมืองนั้น มองอย่างไร นายษิทธา กล่าวว่า คำว่ากำจัด คือ การทำให้สูญสิ้นไป พอไปเติมคำว่าการเมือง มันทำให้คนมองว่า การเมืองใช้วิธีการที่สกปรกหรือ จึงจะต้องมากำจัดกัน อย่าไปบอกว่าเป็นวิธีที่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะนายมงคลกิตติ์บอกเองว่ามันมีอยู่หลายวิธี ทั้งวิธีตามกฎหมาายและนอกกฎหมาย ดังนั้นทุกคำพูดตนเก็บไว้หมดแล้ว ถามว่าทุกวันนี้ที่ทำอยู่นั้นเป็นการทำหน้าที่ ส.ส.หรือไม่ เพราะเวลาให้สัมภาษณ์ก็จะอ้างตำแหน่งเลขาธิการพรรคบ้าง หรือสมาชิกพรรคบ้าง ทำให้คิดว่าพรรคไทยศรีวิไลย์ ต้องการจะมีเรื่องส่วนตัวกับใครคนใดคนหนึ่ง เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพรรค มันน่าจะเกี่ยวกับบุคคลมากกว่า