"ฝีดาษลิง" ประเทศไทยเริ่มปลูกฝีน้อยลงตั้งแต่ปี 2517 จนเลิกเด็ดขาดในปี 2523 ตามประกาศองค์การอนามัยโลก ลองเช็คดูแผลเป็นที่หัวไหล่บอกอะไร
ข่าวที่น่าสนใจ
หมอยง ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ Yong Poovorawan ระบุ ฝีดาษวานร 2022 ความยุ่งยากในการควบคุมโรคฝีดาษวานร “ฝีดาษลิง” ที่ระบาดในปีนี้ คือ
- อาการของโรคไม่ได้รุนแรงแบบ ไข้ทรพิษ ยังไม่มีใครเสียชีวิตเลย เมื่อมีอาการน้อยบางรายก็ไม่ได้รับการวินิจฉัย
- ตุ่มที่ขึ้นก็ไม่ได้มาก 30% เกิดในที่ลับ บริเวณอวัยวะเพศ และถ้าไม่มีอาการมาก หรือตุ่มขึ้นน้อยก็จะไม่ได้พบแพทย์
- โรคนี้ติดต่อ เกี่ยวข้องกับ เพศสัมพันธ์ เพราะมีการสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด
- ไม่มีหลักฐานในการติดต่อจากสัตว์ หรือเดินทางมาจากแอฟริกา เป็นการติดต่อระหว่างคนสู่คน
- ถ้าเชื้อฝีดาษวานร ที่ระบาดอยู่ขณะนี้ เข้าไปติดยังสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสัตว์ฟันแทะ ในตระกูล หนู กระต่าย กระรอก สัตว์เหล่านี้จะมีอาการน้อยมาก และเป็นพาหะที่จะกระจายโรคได้ จะยากต่อการควบคุมขึ้นอีก นำไปสู่การเกิดโรคประจำถิ่น
“ขณะนี้ โรคประจำถิ่นอยู่แอฟริกา มีความกังวลว่า ถ้าติดในสัตว์เลี้ยง ที่กำลังระบาดอยู่นี้ ก็อาจประจำถิ่นอยู่ยุโรปต่อไป”
ลักษณะของผื่น ตุ่มน้ำใส และตุ่มหนอง และที่แบนราบ รวมทั้งที่อยู่ใต้เล็บ ที่พบในคนติดเชื้อเจ็ดรายในประเทศอังกฤษในปี 2018 และ 2019 โดยเดินทางจากประเทศไนจีเรียสี่รายและมีการแพร่ไปยังคนในประเทศอังกฤษต่ออีกสามราย
และน่าจะเป็นช่วงเวลาที่เริ่มเห็นการแพร่จากคนสู่คนได้ชัดเจน ทั้งนี้ รายงานผู้ป่วยเจ็ดราย และรูปภาพทั้งหมดปรากฏในวารสาร Lancet Infectious Disease (24/5/2022) บทความนี้เข้าอ่านแบบ open access
ข้อมูลในประเทศอังกฤษ ฝีดาษลิง ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม จนถึงวันที่ 26 พฤษภาคม พบ 101 ราย รวมกับสกอตแลนด์เวลและไอร์แลนด์เหนือจะเป็น 106 ราย ข้อมูล และ รูป จาก UK health security agency
ฝีดาษวานร วัคซีน 3rd generation
หมอยง ระบุ วัคซีนดังกล่าว ใช้สายพันธุ์ Vaccinia มาดัดแปลงพันธุกรรม (Modified Vaccinia Ankara) ผลิตโดย Bavarian Nordic ใช้ชื่อ MVA-BN เป็นไวรัสมีชีวิต ทำให้อ่อนฤทธิ์ ไม่สามารถแบ่งตัวได้
- ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง สร้างภูมิต้านทาน ไม่เกิดตุ่มหนอง
- ประสิทธิภาพ เท่าเทียมกับวัคซีนในอดีต
- ให้ได้ในผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ
- ไม่เป็นข้อห้ามเด็ดขาดในสตรีตั้งครรภ์ (ไวรัสไม่สามารถแบ่งตัวได้) ให้ได้ในแม่ที่กำลังให้นมบุตร
- ต่างกับวัคซีนใน Generation ที่ 1 และ 2 ที่ใช้ปลูก วัคซีนนี้ใช้ฉีดใต้ผิวหนัง 2 ครั้ง ห่างกัน 4 สัปดาห์
- ผู้ที่ปลูกฝีมาแล้ว ให้ครั้งเดียว
- ผู้สัมผัสโรค ให้ภายใน 4 วัน ป้องกันการติดเชื้อได้ หรือลดอาการโรคลง
- ในยุโรป (Imvanex) ในอเมริกา (Jynneos) ยังไม่ได้มีการขึ้นทะเบียน มาใช้ในประเทศไทย
วัคซีนป้องกันฝีดาษ ประเทศไทยเลิกปลูกฝีเมื่อใด
หมอยง ระบุ ผมเองจบแพทย์ในปี พ.ศ. 2517 และได้เรียนทางเด็กต่อ ในปี พ.ศ. 2518 ก็ไม่ได้มีการปลูกฝีในโรงพยาบาลจุฬาฯ แล้ว หลานผมเกิดในปี 2518 , 2520 และลูกเกิด มกราคม 2523 ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันวัณโรคอย่างเดียว ไม่ได้ปลูกฝีแล้ว ดังแสดงในรูป
“ผมอยู่ในเหตุการณ์ตลอด และยังได้เคยปลูกฝีให้กับเด็กด้วยในช่วงจบใหม่ ๆ ยังจำได้ มาทำคลินิกแถวตรอกจันทร์ ในปี 2521 คนจีนมักจะถามว่า ทำไมเดี๋ยวนี้ไม่ปลูกฝีแล้วหรือ” หมอยง เผยและบอกต่อว่า การปลูกฝีเป็นที่ยอมรับของคนจีนเป็นอย่างมาก อเมริกาและยุโรป เลิกปลูกฝีตั้งแต่ปี ค.ศ. 1970 ต้น หรือประมาณ 2513 ถึง 2514 ประเทศไทยเลิกปลูกฝีในโรงพยาบาลใหญ่ ๆ ประมาณปี 2517 ถึง 2518 แต่ขณะนั้นยังเลิกไม่ได้เด็ดขาด แต่การปลูกลดน้อยลงมาก เพราะไม่มีโรคฝีดาษในประเทศไทยมานานมาก ให้ดูแผลเป็นที่หัวไหล่ ถ้ามีการปลูกฝีและป้องกันวัณโรค จะมี 2 แผลเป็น
ประเทศสุดท้ายที่มีโรคฝีดาษ คือ ประเทศโซมาเลีย ในปี พ.ศ. 2520 และองค์การอนามัยโลกประกาศยกเลิกการปลูกฝี และถือว่าได้กวาดล้างโรคฝีดาษให้หมดไปแล้วในปี 2523 ทั่วโลกจึงได้มีการยกเลิกการปลูกฝีอย่างเป็นทางการ ประชากรในยุโรปและอเมริกาที่อายุเกินกว่า 50 ปี จึงไม่ได้รับการปลูกฝี ส่วนสำหรับประเทศกำลังพัฒนาเลิกปลูกฝี มาประมาณ 40 ปี ประเทศไทยเลิกก่อน โดยเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517 และไปเลิกเด็ดขาดตามองค์การอนามัยโลก ในปี 2523
ข่าวที่เกี่ยวข้อง