นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊กข้อความว่า โครงการจำนำข้าว เป็นความโชคดีของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ แต่เป็นความโชคร้ายของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ขอฟันธงล่วงหน้า พรบ.งบประมาณฯ ผ่าน100% ผมได้ติดตามการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 มาเป็นเวลา 2วันเต็มๆ ก็พอที่จะเห็นบรรยากาศ และประเมินผลการประชุมในครั้งนี้ได้ระดับหนึ่ง เพราะดูจากการอภิปรายทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีประเด็นอะไรที่น่าตื่นเต้น เพราะเมื่อส.ส.พรรคฝ่ายค้านได้อภิปรายโจมตีการจัดทำงบประมาณของรัฐบาล ในประเด็นเงินกู้ที่มียอดเงินกู้สูง การก่อสร้างหนี้สาธารณะสูงถึง 4.4 ล้านล้านบาท
เทพไท ฟันธงพรบ.งบฯผ่าน100 เปอร์เซนต์ พรรคเล็กไม่พร้อมโหวตคว่ำอยากให้สภาฯอยู่ต่อไป ขณะให้คะแนนอภิปรายทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลเท่ากัน 5 เต็ม10
ข่าวที่น่าสนใจ
ก็ถูกพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตอบโต้โดยอ้างเยอดเงินหนี้โครงการจำนำข้าวในยุครัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาอ้างอิงทุกครั้ง หรือเมื่อถูกส.ส.พรรคฝ่ายค้านอภิปรายถึงโครงการต่างๆที่ไม่ได้รับการบรรจุใน พรบ.งบประมาณปีนี้ พลเอกประยุทธ์ ก็จะตอบโต้ด้วยข้อจำกัดของเงินงบประมาณ ที่รัฐบาลจะต้องนำเงินไปชำระหนี้โครงการจำนำข้าวยอดเงิน 781,000 ล้านบาท หรือเมื่อถูกส.ส.พรรคเพื่อไทยอภิปรายตัดพ้อต่อว่าการพัฒนาในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ที่ไม่ได้รับการจัดทำแผนงานการพัฒนา ก็ถูกพลเอกประยุทธ์ตอบโต้ว่า ไม่เคยเลือกปฎิบัติว่าจะพัฒนาจังหวัดไหนก่อน ก็เป็นการตอบโต้กันไปมา โดยยกเอาประเด็นเดิมๆที่เคยเกิดขึ้นในยุครัฐบาลทักษิณ และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พูดได้ว่าพลเอกประยุทธ์ ได้ใช้โครงการจำนำข้าวเป็นเกราะป้องกัน การจะทำงบประมาณในครั้งนี้ ได้นำมาเป็นข้ออ้างในการตอบโต้การอภิปรายของส.ส.พรรคเพื่อไทยโดยตรง ซึ่งเป็นบาดแผลใหญ่ในการบริหารประเทศผิดพลาดของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศอย่างมหาศาล
ถ้าจะให้คะแนนการอภิปรายในครั้งนี้ ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน จะได้รับคะแนนพอๆกัน คือ 5 เต็ม 10 และมั่นใจว่าร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 จะผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร 100% ซึ่งตัวแปรที่เป็นส.ส.พรรคเล็ก ก็ไม่พร้อมจะโหวตคว่ำ เพราะยังต้องอยากให้สภามีอายุต่อไป ก็สามารถที่จะเก็บเกี่ยวและหาประโยชน์จากการเป็น ส.ส.ได้ ถ้าโหวตคว่ำร่างพรบ.งบประมาณ ก็จะถูกพลเอกประยุทธ์ใช้สิทธิ์ยุบสภาอย่างแน่นอน จะไม่เลือกแนวทางการลาออก ซึ่งต่างกับญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้ารัฐบาลแพ้โหวต ก็ไม่สามารถยุบสภาได้ ส.ส.พรรคเล็ก ก็ยังคงสถานะความเป็น ส.ส.ต่อไป ถ้าต้องตัดสินใจทางการเมืองโหวตสวนรัฐบาล ก็น่าจะใช้สิทธิ์โหวตคว่ำตอนญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ดีกว่าโหวตคว่ำ พรบ.งบประมาณในครั้งนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-