วันที่ 2 มิ.ย.65.-ที่รัฐสภา นายเดชา กิตติวิทยานันท์ อดีตทนายความของนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของแตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ อดีตาดาราสาว เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบความผิดจริยธรรมร้ายแรงของ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กรณีได้มีการโทรศัพท์มาข่มขู่ตนว่า “ ถ้าไม่หยุดพูดจะโดนกระทืบ” และยังระบุว่าไม่ถนัดใช้วิธีตามกฎหมาย ทั้งที่เป็นส.ส.ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมกับข่มขู่ด้วยว่าถ้ายังไม่หยุดพูดอีกจะส่งไปสามจังหวัดใช้แดนภาคใต้ไม่ให้กลับมา เหมือนต้องตายอย่างเดียว ดังนั้นตนจึงมาเข้าพบพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ก่อนตาย นอกจากนี้ยังมีการโพสต์เฟซบุ๊ก เพื่อให้เลขาธิการพรรคฯไปแจ้งความฟ้องตนในพื้นที่ห่างไกลตามจุดต่างๆ อาทิ ภูเก็ต นราธิวาส มหาสารคาม ทั้งๆที่เหตุเกิดในกรุงเทพฯ เพราะนายมงคลกิตติ์มีความรู้ทางกฏหมายเป็นอย่างดี แต่ต้องการให้ตนลำบากในการไปรับทราบคดี ซึ่งเป็นการใช้สิทธิ์โดยไม่สุจริตรกลั่นแกล้งไปเรื่อยๆ ทั้งที่ส.ส.มีหน้าที่ประชุมสภาแต่กลับไปงมหามีด เห็นท่อนไม้ก็บอกเป็นแตงโมนิดา แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมทางที่ตำรวจสอบสวนเสร็จแล้วถึง และถึงขั้นตอนอัยการเตรียมสั่งฟ้อง และก็มีการตั้งสมัครพรรคพวกเป็นทนายความอ้างว่ามีจำนวน 30-40 คน มีอดีตผู้พิพากษามาร่วมทำคดีตรวจสอบการทำงานของตำรวจ อัยการ ซึ่งเป็นการแทรกแซงทำลายกระบวนการยุติธรรม
ทนายเดชา ร้อง กมธ.ป.ป.ช.สภา จ่อเอาผิด “เต้ มงคลกิตติ์” พ้นส.ส.ผิดจริยธรรมร้ายแรง ชี้ เป็น “ส.ส.มาเฟีย” ด้าน"เสรีพิสุทธิ์" ชี้ พ่วงความผิดอาญา ฐานข่มขู่-อั๊งยี่ซ่องโจร-ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ
ข่าวที่น่าสนใจ
” คนแบบนี้เรียกว่าส.ส.มาเฟีย ใครขัดหูก็จะกระทืบ ซึ่งคนแบบนี้ไม่ควรเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต่อไป และผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้พ้นจากการเป็นส.ส. พร้อมเชื่อว่าคนที่จะสามารถจัดการกับนายมงคลกิตติ์ได้ เท่าที่เสิร์ช Google คือพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เชื่อว่าเป็นมือสังหารส.ส.หลายศพมาแล้ว ศพต่อไปคือนายมงคลกิตติ์ เตรียมฌาปนกิจได้เลย และผมจะไม่มีการมวยล้มต้มคนดู ต้องหลุดจากส.ส.อย่างเดียว ส.ส.มาเฟียผมขอไม่เอาไว้”
ด้านพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ขอบคุณนายเดชาให้ความไว้วางใจนำเรื่องดังกล่าวมาร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการ โดยระบุว่าเรื่องที่เกิดขึ้นสื่อมวลชนก็ได้เห็นได้ฟังว่านายมงคลกิตติ์มีการใช้วาจาข่มขู่นายเดชาซึ่งถือเป็นประชาชนคนหนึ่ง ยืนยันว่ากรรมาธิการจะให้ความเป็นธรรมในเรื่องนี้ และเชื่อว่าไม่ใช่กรณีผิดจริยธรรมเพียงอย่างเดีย วแต่ยังเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 กรณีข่มขู่ต้องจำคุกถึงสามปี และมาตรา 209 กรณีอั๊งยี่ซ่องโจร โทษจำคุกเจ็ดปี ยังไม่นับรวมความผิดลหุโทษ รวมถึงความผิดมาตรา 157 กรณีปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ยืนยันว่ากรรมาธิการมีอำนาจตรวจสอบอาศัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 234(1) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. มีอำนาจไต่สวนคดีนักการเมืองที่กระทำการขัดต่อบทบัญญัติของกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญและประพฤติตนผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งพฤติกรรมต่างๆของนายมงคลกิตติ์ก็เข้าข่ายกรณีดังกล่าว ทั้งนี้กรรมาธิการฯจะส่งเรื่องไปยังป.ป.ช.เพื่อส่งต่อศาลฎีกาเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนทั้งอาญาและจริยธรรม
“วันนี้ในฐานะที่ตนเป็นส.ส.ด้วยต้องขอโทษทนายเดชาแทนเพื่อนส.ส.ของเราที่ประพฤติตนไม่เหมาะสม แต่ขอให้เชื่อว่าส.ส.ทุกคนไม่ได้เป็นเช่นนี้ มีไม่กี่คนในสภา… เชื่อว่าส.ส.ที่ดีในสภายังมีมาก ประพฤติตนเป็นผู้แทนปวงชนที่ดียังมี แล้วเราจะช่วยกันเพื่อให้ภาพพจน์สภาแห่งนี้เป็นที่ยอมรับนับถือของประชาชน”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง