สำนักข่าวต่างประเทศทั้ง CNN, BBC, AFP รอยเตอร์และสื่อท้องถิ่นสหรัฐรายงานว่าคนร้ายเป็นชายวัยประมาณ 35-40 ปี ได้ควงอาวุธปืน 2 กระบอกเป็นปืนยาวหรือปืนไรเฟิลและปืนพกสั้น บุกเข้าไปในโรงพยาบาลเซนต์ฟรานซิส เมืองทัลซ่า รัฐโอกลาโฮมา ก่อนเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง ของตึกนาตาลี ซึ่งเป็นแผนกรักษาโรคกระดูก จากนั้นก็ได้กราดยิงผู้คนรอบข้าง รวมทั้งบุคลากรการแพทย์ ส่งผลให้มีผุ้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน และบาดเจ็บอีกหลายคน ก่อนที่มือปืนจะยิงตัวตาย
หลังได้รับแจ้งเหตุ ตำรวจรีบเดินทางไปถึงโรงพยาบาลอย่างรวดเร็วภายใน 3 นาที ก่อนอพยพประชาชนออกจากอาคารก่อนเพื่อความปลอดภัย แต่เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุ ก็พบมือปืนเสียชีวิตแล้ว ล่าสุดกำลังเร่งสอบสวนหาเหตุจุงใจ แต่เบื้องต้นมีรายงานว่าคนร้ายได้ถามหาแพทย์คนหนึ่งที่ชั้นสอง ก่อนที่จะลงมือก่อเหตุ
ขณะนี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้รับรายงานเหตุกราดยิงครั้งล่าสุดแล้ว ซึ่งโศกนาฎกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเหตุกราดยิงที่โรงเรียนประถม รัฐเท็กซัสเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมหรือเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ที่มีผุ้เสียชีวิต 21 คน รวมทั้งเด็กวัยประถม 19 คน และเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมก็เพิ่งเกิดเหตุกราดยิงที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตเมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก มีผุ้เสียชีวิต 10 คน โดยผู้ก่อเหตุเป็นเพียงวัยรุ่นชายวัย 18 ปี โดยเหตุกราดยิงครั้งล่าสุดเมื่อวานนี้เป็นครั้งที่ 233 ของสหรัฐในปีนี้
ไบเดนได้ประกาศจะใช้ความพยายามในการผลักดันร่างกฎหมายเพื่อควบคุมอาวุธปืนต่อไป ขณะที่วุฒิสภาสหรัฐกำลังหาช่องทางเพื่อเพิ่มมาตรการควบคุมการซื้ออาวุธปืนมากขึ้น โดยการปรับแก้กม.เกี่ยวกับอายุของผู้ที่สามารถซื้ออาวุธปืนให้สูงขึ้น รวมทั้งให้ตำรวจมีสิทธิยึดปืนจากผู้ที่อาจเป็นภัยคุกคามต่อตนเองหรือคนอื่น แต่การออกกม.ควบคุมและห้ามเป็นเจ้าของปืนที่มีอานุภาพร้ายแรงเป็นไปได้ยากมากในสหรัฐ