วันที่ 5 มิถุนายน นางสาวนพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) กล่าวว่า ผลการมอนิเตอร์ระหว่างวันที่ 27 พ.ค.-2 มิ.ย. 65 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม พบข้อความที่เข้ามา 11,712,505 ข้อความ จากการคัดกรองมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) จำนวน 222 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ 116 เรื่อง โดยสัดส่วนหลักอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพฯ จำนวน 67 เรื่อง
ดีอีเอส สรุปสถานการณ์ข่าวปลอมรอบสัปดาห์ พบเรื่องที่เข้าเกณฑ์ต้องตรวจสอบกว่า 50% เป็นหมวดข่าวสุขภาพ ขณะที่กระแสความสนใจเกาะกลุ่มที่เฟคนิวส์ 2 แบงก์ใหญ่ปล่อยกู้ผ่านเอทีเอ็ม เอสเอ็มเอส ไลน์ และเฟซบุ๊ก
ข่าวที่น่าสนใจ
อย่างไรก็ตาม เมื่อวัดจากกระแสความสนใจของประชาชน ยังเกาะกลุ่มที่ข่าวเกี่ยวกับปากท้อง ส่งผลให้ข่าวปลอมที่มีการอ้างชื่อ 2 แบงก์ใหญ่ปล่อยกู้ผ่าน ATM เฟซบุ๊ก ไลน์ และเอสเอ็มเอส ได้รับความสนใจเป็นลำดับต้น ๆ จากผู้ที่ได้รับข่าวสารจากการแชร์ข่าวปลอมในโซเชียล
โดยข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจมากสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ 1. ธ.กรุงไทย ให้ขอสินเชื่อผ่านบัตร ATM ได้ทุกอาชีพ 2. ธ.กรุงไทย ส่ง sms มอบสิทธิ์เงินกู้ผ่านไลน์โดยให้ลงทะเบียนผ่านลิงก์ 3. ธนาคารออมสินเปิดเพจเฟซบุ๊ก สินเชื่อกู้เงินฉุกเฉิน 4.พบเจ้าหน้าที่อุทยานเกาะช้าง และเจ้าหน้าที่เกาะล้าน เป็นโรคฝีดาษลิง จำนวน 9 คน พาหะคือยุงก้นปล่องที่ไปกัดลิง 5. ไทยมีหลุมขุดเจาะน้ำมันและปิโตรเลียมจำนวนมาก แต่ราคายังแพงกว่าส่งออก รากฟันเทียมยุโรป ราคาคนไทย Digital Implant แผลเล็กเจ็บน้อยกว่า BIDH Dental Hospital
6.ผู้ที่มีอารมณ์ทางด้านลบบ่อย เศร้าหมอง ดื่มน้ำน้อย ความถี่ต่ำ ติดเชื้อโควิด 19 ได้ง่าย 7.อยู่ใกล้บริเวณเสาส่งสัญญาณ 5G ทำให้ป่วย คล้ายการติดเชื้อไวรัส 8. ไปรษณีย์ ประกาศรับสมัครพนักงานผ่านเฟซบุ๊ก 9. หน้ากากอนามัยที่ไม่ระบุ VFE จะไม่สามารถป้องกันไวรัสได้ และ 10. ธนาคารออมสินเปิดสินเชื่อภัยโควิด 19 วงเงิน 5,000-300,000 บาท ผ่านไลน์ @549puzfr
“อยากขอย้ำเตือนประชาชน ที่ยุคนี้ส่วนใหญ่ติดตามข่าวสารประจำวันผ่านช่องทางออนไลน์และโซเชียล เมื่อได้รับข่าวใดๆ แม้จะมีชื่อหน่วยงาน องค์กร ที่ดูน่าเชื่อถือ แต่ควรเข้าไปติดตามหาข้อมูลเพิ่มเติมจากช่องทางอย่างเป็นทางการ ได้แก่ เว็บไซต์ เพจเฟซบุ๊ก ของหน่วยงานที่ถูกอ้างชื่อ และที่สำคัญ อย่าคลิกลิงก์ หรือดาวน์โหลดลิงก์ หรือเข้าไป add ไลน์ไอดีที่ไม่รู้จัก ซึ่งถูกใส่ไว้ในข่าวปลอม ข่าวบิดเบือนที่มีการส่งต่อกันผ่านโซเชียล” นางสาวนพวรรณ กล่าว
นอกจากนี้ ยังต้องขอความร่วมมือประชาชน เมื่อได้รับข้อมูลผ่านโซเชียล อย่าเพิ่งหลงเชื่อในทันที ขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูล โดยสามารถแจ้งข้อมูลมายังศูนย์ฯ เพื่อช่วยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบ และยืนยันข้อเท็จจริงต่อไป และสามารถติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม ได้ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้ ไลน์ @antifakenewscenter เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com/ ทวิตเตอร์ https://twitter.com/AFNCThailand และช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-