ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2565 เวลา 09.00 น. น.ส.อรพินทร์ เพชรทัต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ /ประธานกำกับ ดูแล การสื่อสารประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารของกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมคณะ เดินทางตรวจเยี่ยมและติดตามผลการดำเนินงานโครงการ “ห้องเรียนอาชีพ” ณ โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี โดยมี น.ส.นันนกรฐ์ ทิพย์สูงเนิน รอง ผอ.สพม.กรุงเทพมหานคร เขต 2 พร้อมด้วย นางอาลัย พรหมชนะ ผู้อำนวยการโรงเรียนสุรศักดิ์ และคณะกรรมการสถานศึกษา ครู ผู้ปกครอง ให้การต้อนรับ
สำหรับโครงการ “ห้องเรียนอาชีพ” โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี เป็นโครงการที่มุ่งเน้นการปรับการเรียนสู่อาชีพในอนาคต ให้แก่เด็ก และเยาวชนไทย ทั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการเสริมสร้างการเรียนรู้แก่เด็ก และเยาวชน ยังเป็นการช่วยเสริมสร้างอาชีพให้แก่พ่อ แม่ ผู้ปกครองและครอบครัว ด้วยอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ มุ่งเน้นการเรียนการสอนด้วยความเข้าใจ นำสู่การปฏิบัติได้อย่างแท้จริง ตามความถนัดและความสนใจของผู้ศึกษา ทั้งนี้ ได้บูรณาการความร่วมมือกับวิทยาลัยสารพัดช่างพระนคร โดยนางเบญจวรรณ ปกป้อง ผอ.วิทยาลัยฯ ที่นำหลักสูตรอาชีพระยะสั้นตามเทรนสมัยใหม่ และเทรนโลก จำนวนหลักสูตร 12 อาชีพระยะสั้น ประกอบด้วย
• วิชากาแฟ ที่จะได้ฝึกเป็นบาริสต้า ในราคาเพียง 999 ด้วยการเรียนจำนวน 10 ครั้ง (ราคาสอนทั่วไป 4-5 หมื่นบาท)
• วิชาขนมอบ โดยมีนายกสมาคมเชฟแห่งประเทศไทย เป็นผู้สอน
• วิชาช่างยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ตลาดแรงงานมีความต้องการกำลังคนถึง 40,000 คน
แต่สถานศึกษายังผลิตได้ไม่เพียงพอ
• วิชาตัดต่อวิดีโอคลิปด้วยมือถือยุค 5G
• วิชาช่างล้างระบบปรับอากาศรถยนต์ส่องกล้องแบบไม่ถอดตู้
• วิชาระบบสมาร์ทโฮม •วิชาช่างงานเครื่องเลเซอร์ CO2
• วิชาเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
• วิชาตัดผมชาย
• วิชาจัดดอกไม้สด
• วิชาประดิษฐ์ของใช้จากผ้า
• วิชาเสริมสวย เป็นต้น
พร้อมมีการสาธิต และจัดให้มีการลงมือปฏิบัติจริง (Workshop) เพื่อสร้างแรงบันดาลใจแก่เด็กนักเรียน พร้อมเป็นการ เสริมสร้างทักษะ (Up-skill Re-skill) ให้แก่ผู้ปกครองของนักเรียนอีกด้วย
ทั้งนี้ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “เนื่องจากที่ผ่านมาการจัดการศึกษาในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โรงเรียน สถานศึกษา และครู ต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อปรับการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์ หรืออีก 4 On ให้สอดคล้องกับบริบทและโรงเรียนในแต่ละพื้นที่ เพื่อดูแลลูก ๆ นักเรียนให้ได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่อง กระทรวงศึกษาธิการ
จึงขอขอบคุณโรงเรียนและพ่อแม่ผู้ปกครอง ที่ประสานความร่วมมือกันในการปรับบ้านให้เป็นโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง และทำให้การเรียนรู้ของนักเรียนไม่สะดุด ซึ่งกระทรวงศึกษาการตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัยในสถานศึกษา โดย น.ส. ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรงศึกษาธิการ ได้กำชับให้ทุกโรงเรียนดำเนินการประชาสัมพันธ์ช่องทางการแจ้งเหตุผ่านแอปพลิเคชัน “MOE Safety Center” เพื่อดูแลความปลอดภัยแก่นักเรียนในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น การบูลลี่ อุบัติเหตุ การคุกคามทางเพศ และผลกระทบสภาวะร่างกายและจิตใจทุกรูปแบบ โดยขอให้ทุกโรงเรียนประชาสัมพันธ์และใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อการดูแลสวัสดิภาพ เพื่อสร้างความมั่นใจและทำให้นักเรียนมีความปลอดภัย และมีความสุขเหมือนอยู่บ้าน เพราะโรงเรียนเป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของลูกหลานเรา”
เรียบเรียง / ชูชัย ดำรงสันติสุข ผู้สื่อข่าว TOP NEWS