นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า จากสถานการณ์โควิด 19 ที่ยังคงแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง ข้อมูลของกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลพบผู้ติดเชื้อจากการสัมผัสในครอบครัว ชุมชน หรือออฟฟิศ ร้อยละ 74 ส่วนที่เหลือในรูปแบบคลัสเตอร์ โรงงาน แคมป์คนงานก่อสร้าง ทั้งนี้หลายจังหวัดยังพบการติดเชื้อในโรงงาน สถานประกอบการ อย่างต่อเนื่อง จึงขอความร่วมมือผู้ที่ออกไปทำงานนอกบ้านหรือมีกิจกรรมอื่น ๆ เมื่อกลับถึงบ้านต้องรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและอาบน้ำทันที และให้ทุกคนในครอบครัวสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เว้นระยะห่าง แยกสำรับอาหาร งดการกินอาหารร่วมกันไปอีกระยะหนึ่ง หากมีความจำเป็นต้องไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ ขอให้เว้นระยะห่างและสวมหน้ากากอนามัย ไม่สัมผัสใกล้ชิด สำหรับพนักงานในออฟฟิศให้งดรับประทานอาหารร่วมกัน ไม่พูดคุยกันโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย ไม่ไปในที่แออัด พลุกพล่าน ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ เพื่อป้องกันการแพร่-รับเชื้อโควิด 19
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้เร่งฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้กับกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค โดยเลื่อนนัดฉีดวัคซีนจากเดือนสิงหาคมเป็นเดือนกรกฎาคม ส่วนศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง ให้ประสานกับโรงพยาบาล เพื่อขอรับการฉีดวัคซีน โดยตั้งเป้าจะฉีดให้ครอบคลุมกลุ่มนี้ให้ได้ร้อยละ 50 ในสิ้นเดือนกรกฎาคม และได้เตรียมเพิ่มเป้าหมายฉีดในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ในลำดับต่อไป เพื่อลดการป่วยหนักและเสียชีวิต
ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขขอรับสมัครจิตอาสา ในสาขาวิชาชีพ แพทย์ / ทันตแพทย์ / พยาบาล เพื่อให้บริการฉีดวัคซีนให้กับพี่น้องประชาชน ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ โดยสามารถเลือกช่วงปฏิบัติงาน ได้ตั้งแต่ เวลา 9.00 – 20.00 น. และเลือกวันปฏิบัติงานได้วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป โดยสมัครได้ที่ไลน์ของกระทรวงสาธารณสุขหรือลิงก์ของจิตอาสา