ตร.เร่งล่าเดือด “แก๊งค้ายา” ขับรถกู้ภัยฯหนีจากสระบุรีเข้ากรุงเทพฯ

ตำรวจเร่งล่าคนร้าย ขับรถกู้ภัยฯ หนีการจับกุมจากสระบุรีเข้ามากรุงเทพมหานคร ก่อนโยนของกลาง 2.4 ล้านเม็ดทิ้งกลางซอยหทัยราษฎร์

(5 มิ.ย.65) จากกรณีศูนย์วิทยุตำรวจทางหลวงสระบุรี ได้รับแจ้งจากตำรวจภูธรสระบุรี เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. ที่ผ่านมา ว่า มีคนร้ายใช้รถตู้ลักษณะคล้ายรถอาสากู้ภัยชื่อดังแห่งหนึ่ง หมายเลขทะเบียน 1นข-4820 กทม. ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลัง เป็นยานพาหนะ ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เฉลิมพระเกียร์ติ กองบังคับการตำรวจภูธร จังหวัดสระบุรี นั้น

ความคืบหน้าล่าสุด พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจากชุดสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจภูธร จังหวัดสระบุรี เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนฯ ได้ทำการจับกุมขบวนการลักลอบค้ายาเสพติดรายใหญ่จากภาคอีสานมาจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดสระบุรี จากนั้นได้ทำการขยายผลจับทราบว่า มีขบวนการรถอาสาสมัครกู้ภัยเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดดังกล่าว จึงได้นำกำลังเข้าติดตามจับกุมขบวนการรถกู้ภัยค้ายาเสพติด กระทั่งพบรถกู้ภัยคันดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม แต่คนร้ายกลับขับรถฝ่าแนวเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาได้ ก่อนจะหลบหนีเข้ามายังพื้นที่กรุงเทพมหานคร จากนั้นคนร้ายได้นำยาเสพติด จำนวนกว่า 2 ล้าน 4 แสนเม็ด มาทิ้งไว้ภายใน ซ.หทัยราษฎร์ 39 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา ส่วนรถกู้ภัยที่ใช้ขับหลนหนี ได้นำไปจอดทิ้งไว้ภายใน ซ.สุวินทวงษ์ 44 แขวงลำผักชี เขตหนองจอก

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่า คนร้ายได้ยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงระหว่างหลบหนีนั้น จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เปิดเผยว่า คนร้ายไม่ได้ยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงแต่อย่างใด แต่เป็นการยิงยางรถกู้ภัยฯ จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อสกัดไม่ให้คนร้ายหลบหนี เนื่องจากขณะคนร้ายกำลังขับรถหลบหนีนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บอกให้หยุดรถ แต่คนร้ายกลับเร่งเครื่องยนต์ขับพุ่งออกไป จนรถเกือบชนตำรวจ ทำให้ต้องยิงยางสกัดไม่ให้หลบหนี แต่ก็ไม่สามารถหยุดคนร้ายได้ ทำให้เพียงจับกุมรถยนต์นำขบวนในการขนยาเสพติด ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย จึงควบคุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนคนร้ายที่ขับรถกู้ภัยฝ่าการจับกุมของตำรวจรวจนั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการติดตามตัว

ขณะที่เส้นทางหลบหนีของคนร้ายนั้น จากการตรวจสอบระบบ GPS พบเส้นทางหลบหนีผ่านถนนบายพาสมุ่งหน้าพหลโยธินขาเข้า-พหลโยธิน-เลียบคลองระพีพัฒน์-ถนนเลียบคลองหก-ทล.305-ขึ้นถนนกาญจนาฯ(หน้าวัดมูลคลองห้า)-ทล.9 กาญจนฯ(ตะวันออก)-ลงด่วนรามอิทรามุ่งหน้ามีนบุรี

อย่างไรก็ตาม รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังเปิดเผยว่า จากการณ์ดังกล่าวทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างทุมเทสุดความสามารถ เพื่อติดตามจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ซึ่งถือเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

‘ทนายไพศาล’ ยืนยันไม่ได้เป็นทนายให้ ‘ซินแสดัง’ขออีกฝ่ายอย่าเอารูปถ่ายคู่กันไปแอบอ้าง
งาน CIIE ครั้งที่ 7 เปิดฉากแล้วที่จีน
ตร.เมืองชล ตั้งด่านป้องปรามอาชญากรรม-ยาเสพติดกลางดึก หนุ่มขนยาบ้า 3 แสนเม็ด ขับผ่านด่านแต่ไม่รอด สารภาพรับจ้างขนยา 3 หมื่น ยังไม่ได้รับค่าจ้าง ถูกจับเสียก่อน
เลือกตั้งสหรัฐเปิดฉากขึ้นแล้ว
ศรชล.ภาค1 ร่วมกิจกรรมดำน้ำเก็บขยะในทะเลและชายหาดกับนักดำน้ำ เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมใต้ทะเล (นพอ.) ณ เกาะยอ สัตหีบ
สว.จร.พัทยา วางแผนจัดทัพรับมืองานพลุนานาชาติ เตรียมที่จอดรถกว่า 30,000 คัน ไว้รองรับนักท่องเที่ยว พร้อมออกมาตรการวินผีฟันค่าโดยสารราคาเกินจริง
ฉาว "ชาวบ้าน" ยันเห็น "หลวงตา" ล็อคห้องอยู่กับสีกา สองต่อสอง อ้างชวนไปนับขวด ก่อนเผ่นหนีไปอยู่อีกวัด
5 วิลล่าที่ดีที่สุด บนเกาะสมุย สำหรับการพักผ่อนสุดหรู
ผุดไอเดีย สุดเจ๋ง ติดตั้งนวัตกรรมประดิษฐ์รั้วไฟฟ้าแรงต่ำ 12 โวลท์ ป้องกันภัยช้างป่า
ปราบปราม เด็กแว้นอันธพาลครองเมือง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น