ยังคงต้องติดตาม สำหรับประเด็นเกี่ยวเนื่องกับปัญหาภายใน บริษัทอีสท์ วอเตอร์ โดยเฉพาะกรณีที่ตัวแทนกลุ่มผู้ถือหุ้นฯ อีสท์ วอเตอร์ ไปยื่นข้อมูล คำร้องให้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต. ) พิจารณาตรวจสอบใน 3 เรื่องสำคัญ อาจเข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ 2535 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2565 ประกอบด้วย
1. ประเด็นความเคลือบแคลงสงสัยเกี่ยวกับการดำเนินการต่างๆ ของประธานคณะกรรมการบริษัทฯ และในกระบวนการสรรหาแต่งตั้งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของบริษัทฯ
2. ประเด็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน และ ธุรกรรมระหว่างกันของกลุ่มบริษัท ที่อาจจะเข้าข่ายการฝ่าฝืนกฎหมาย กฎระเบียบที่ออกโดยหน่วยงานรัฐ จรรยาบรรณทางธุรกิจ ข้อบังคับของบริษัท
3. ประเด็นการพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน เพื่อสรรหาผู้มาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ แทนผู้ที่ดำรงตำแหน่งอยู่เดิมที่กำลังจะหมดวาระนั้นมีการฝ่าฝืนกฎบัตรคณะกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทนของบริษัท”
ปรากฏว่า ทางอีสท์ วอเตอร์ ได้ส่งเอกสารยืนยันว่า กระบวนการสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่ รอบที่ผ่านมา โปร่งใส เป็นธรรม และ เป็นไปตามขั้นตอนปกติ ตั้งแต่หลักเกณฑ์การสรรหา , คุณสมบัติผู้สมัคร , ขั้นตอนการสรรหา ซึ่งกำหนดไว้ 4 หัวข้อ ประกอบด้วย ความถนัดด้านภาษาอังกฤษ , ทัศนคติการทำงาน , ความพร้อมต่อการทำงานในตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และ บุคลิภาพ โดยทั้งหมดนี้จะเป็นการทดสอบในระบบออนไลน์ และ แสดงวิสัยทัศน์ต่อคณะกรรมการ ธรรมาภิบาลและสรรหา และ คณะกรรมการสรรหา
รวมถึงยังมีชุดข้อมูลอีกบางส่วนเกี่ยวกับข้อสงสัย เหตุใดผู้สมัครได้คะแนนลำดับที่ 9 ถึงได้รับการคัดเลือกเป็นกรรมการผู้อำนวยใหญ่ ว่า ไม่เกี่ยวข้องความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคณะกรรมการ บมจ.ยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์ (UU) และ บมจ.อีสท์ วอเตอร์ รวมถึงที่ผ่านมา คณะกรรมการจำนวน 12 คน ร่วมกันพิจารณา โดยจากการเข้าสอบสัมภาษณ์และแสดงวิสัยทัศน์ ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อีสท์ วอเตอร์ คือ นายเชิดชาย ปิติวัชรากุล