เบน วอลเลซ รัฐมนตรีกลาโหมแห่งสหราชอาณาจักร ประกาศจะส่งมอบจรวดหลายลำกล้อง M270 ที่ผลิตในสหรัฐฯ ให้ยูเครน ซึ่งเป็นระบบขีปนาวุธพิสัยไกล ที่สามารถโจมตีเป้าหมายในรัศมี 80 กิโลเมตร สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า การจัดส่งครั้งนี้ เบื้องต้นจะส่งไปทั้งหมด 3 ลำ
วอลเลซ อธิบายในแถลงการณ์ว่า ระบบจรวดหลายลำกล้องประสิทธิภาพสูงเหล่านี้ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้ยูเครน สามารถป้องกันตนเองจากการโจมตีด้วยอาวุธพิสัยไกลของรัสเซีย ซึ่งขณะนี้ รัสเซียได้ใช้อย่างไม่เลือกหน้าจนพังเมืองราบทั้งเมือง ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรต้องสนับสนุนอาวุธใหม่ให้ยูเครน เพื่อให้มีความสามารถต้านทานยุทธวิธีรบของรัสเซียที่เปลี่ยนไป โดยทหารยูเครนจะได้รับการฝึกใช้ M270 ในสหราชอาณาจักร ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า วอลเลซยังเน้นย้ำว่า สหราชอาณาจักรคือ “ผู้นำ” ในการจัดหา “อาวุธสำคัญ” ให้กับกองทัพยูเครน
ทั้งนี้ การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ หลังจากที่สหรัฐฯประกาศจะส่ง จรวดหลายลำกล้อง M142 (HIMARS) ซึ่งเป็นรุ่นน้องของ M270 ให้ยูเครน โดยนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า ทำเนียบขาวได้รับคำมั่นจากผู้นำยูเครนว่าระบบอาวุธพิสัยไกลเหล่านี้จะไม่ถูกนำไปใช้เพื่อโจมตีเป้าหมายในรัสเซีย อย่างไรก็ตาม ไม่กี่วันต่อมา คำพูดจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงยูเครนและเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ คนใหม่ประจำกรุงเคียฟ ดูเหมือนจะขัดแย้งกับคำพูดของบลิงเคน พวกเขากล่าวว่ากองกำลังยูเครนมีอิสระในการเลือกเป้าหมายโจมตี ซึ่งรวมถึงไครเมีย
ทั้งสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ เป็นผู้สนับสนุนหลัก ในการให้อาวุธยูเครน แต่เพิ่งจะเริ่มส่งระบบขีปนาวุธพิสัยไกลให้ หลังมีการเรียกร้องจากยูเครนมานาน ซึ่งการส่งอาวุธ ต้องทำด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากไม่ต้องการ ยกระดับสงคราม กับรัสเซีย หรือทำให้สถานการณ์บานปลาย
ด้านนายวลาดิมีร์ ปูติน ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของรัสเซีย โดยแสดงความเห็นว่าอาวุธเหล่านี้ไม่มีอะไรใหม่ และเขาประกาศชัดว่า รัสเซียจะตอบสนองการจัดส่งขีปนาวุธพิสัยไกลไปยังยูเครนด้วยการโจมตี “วัตถุที่เรายังไม่ได้โจมตี” พร้อมกันนี้เขายังย้ำว่า การส่งมอบอาวุธจากตะวันตกไปยังยูเครนยิ่งจะรังให้ความขัดแย้งอยู่ยาวนานขึ้น