จากกรณี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผู้กำกับโจ้ อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ พร้อมพวกรวม 7 คน ก่อเหตุใช้ถุงพลาสติกสีดำคลุมศีรษะ นายจิระพงษ์ หรือมาวิน ธนะพัฒน์ ผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิตคาโรงพัก เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564 โดยมีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิด จับภาพช่วงเวลาก่อเหตุไว้ได้ จนกลายเป็นข่าวโด่งดังในช่วงเวลานั้น ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 8 มิถุนายนนี้ เวลา 09.30 น. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.เลียบทางรถไฟ ย่านตลิ่งชัน ได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีดังกล่าว
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดฟังคำพิพากษาคดี "อดีตผู้กำกับโจ้" กับพวก ก่อเหตุใช้ถุงดำคลุมศีรษะผู้ต้องหาจนเสียชีวิต คาโรงพัก สภ.เมืองนครสวรรค์
ข่าวที่น่าสนใจ
หากย้อนกลับไปคดีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้ออกมาแฉพฤติกรรมของผู้กำกับ สภ.เมืองนครสวรรค์ ในขณะนั้น โดยเปิดคลิปวิดีโอความยาว 10 นาที เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างชัดเจน จนสังคมให้ความสนใจกับคดีที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก โดยจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์เริ่มตั้งแต่
วันที่ 5 สิงหาคม 2564
(หัวข้อ) ย้อนคดี อดีต ผกก.โจ้ คลุมถุงดำโหด
– ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด 2 ราย เป็น ชาย 1 หญิง 1 ยึดของกลาง ยาบ้า 1 ล้านเม็ด
– มีการเรียกเงินจากผู้ต้องหา 2 ล้านบาท แต่ผู้ต้องหายอมจ่าย 1 ล้านบาท แต่ผู้กำกับโจ้ ไม่ยอม จึงใช้ถุมดำคลุมศีรษะผู้ต้องหาผู้ชายจนเสียชีวิต
– นำศพผู้ต้องหาชายส่งโรงพยาบาล และบังคับลูกน้องให้บอกกับหมอ ว่า เสพยาเกินขนาดตาย
– ปล่อยตัวผู้ต้องหาหญิง โดยไม่ดำเนินคดีใดๆ แลกกับการห้ามเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
6 สิงหาคม 2564
– ผลชันสูตรจากแพทย์นิติเวช ออกมาว่า ผู้ต้องหาเสียชีวิตจากการเสพสารแอมเฟตามีนเกิดขนาด
22 สิงหาคม 2564
– ตำรวจชั้นผู้น้อยทนเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ ร้องเรียนมายัง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ
– ตำรวจชั้นผู้น้อยออกมาแฉอีก ว่า ผู้กำกับโจ้ ได้เรียกพ่อผู้เสียชีวิต เพื่อเคลียร์คดีให้จบ
– ผบ.ตร. สั่งการให้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง มีคำสั่งให้ ผู้กำกับโจ้ ย้ายไปปฏิบัติราชการที่ศูนปฏิบัติการ กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 6
23 สิงหาคม 2564
– ผู้กำกับโจ้ ออกมาปฏิเสธ ไม่ได้ใช้ถุงดำคลุมศีรษะผู้ต้องหาจนเสียชีวิต และไม่มีการเรียกเงิน 2 ล้านบาท
– พ่อผู้เสียชีวิต ระบุว่า ลูกชายเกิดอาการน็อก เนื่องจากเสพยาเสพติดเกิดขนาด และไม่ติดใจเอาความกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
24 สิงหาคม 2564
– นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เปิดคลิปกล้องวงจรปิดช่วงที่ ผู้กำกับโจ้ ใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาและทำร้ายร่างกาย จนเสียชีวิต
– คลิปวิดีโอ ปรากฎมีผู้ร่วมลงมือกระทำมากกว่า 4 คน
– นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตั้งคณะกรรมตรวจสอบข้อเท็จจริง
– ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งปลด ผู้กำกับโจ้ ออกจากราชการ
25 สิงหาคม 2564
– ศาลจังหวัดนครสวรรค์อนุมัติออกหมายจับ ผู้กำกับโจ้ กับพวกรวม 7 คน ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
8 มิถุนายน 2566
– ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีคลุมถุงดำผู้ต้องหาจนเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม สำหรับอดีตผู้กำกับโจ้ กับพวกรวม 7 คน ถูกแจ้งข้อหาหนัก 4 ข้อหาด้วยกัน ประกอบด้วย
1.เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
2.เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่ง หรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่ง หรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
3.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
4.ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-