“ดร.สามารถ” ล้วงไส้ใน คะแนนเทคนิคประมูลรถไฟฟ้าสีส้มตะวันตก ใครได้-ใครเสีย

ดร.สามารถ โพสต์น่าติดตาม รฟม.เพิ่มคะแนนด้านเทคนิค ประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ครั้งที่ 2 ระบุอาจส่งผลมีผู้ยื่นข้อเสนอที่ผ่านเกณฑ์เทคนิคได้น้อยราย การแข่งขันที่จะเสนอผลตอบแทนให้ รฟม. ก็จะลดลง ทำให้ รฟม. ไม่ได้รับผลตอบแทนสูงสุดที่ควรจะได้

วันที่ 9 มิ.ย.65 ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้ชำนาญด้านโครงการและแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนและท่าอากาศยาน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า สุดช็อก ! “ล้วงไส้ใน” คะแนนเทคนิค ประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก น่าติดตามว่าทำไม รฟม. จึงเพิ่มคะแนนด้านเทคนิคในการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ครั้งที่ 2 หลังล้มการประมูลครั้งที่ 1 และเมื่อดูไส้ในของคะแนนด้านเทคนิคแล้ว ยิ่งน่าติดตาม !

1. คะแนนด้านเทคนิคในการประมูลครั้งที่ 1
ในการประมูลหาเอกชนมาร่วมลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ) และเดินรถตลอดสายทั้งช่วงตะวันตกและตะวันออก (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี) เมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กำหนดให้ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องได้คะแนนด้านเทคนิคในแต่ละหัวข้อไม่น้อยกว่า 80% และจะต้องได้คะแนนด้านเทคนิครวมทุกหัวข้อไม่น้อยกว่า 85% จึงจะได้รับการพิจารณาข้อเสนอด้านผลตอบแทน ใครเสนอผลตอบแทนสุทธิ (ผลตอบแทนที่จะให้ รฟม. – เงินสนับสนุนที่ขอรับจาก รฟม.) สูงสุดก็จะชนะการประมูล

รายละเอียดของคะแนนในแต่ละหัวข้อซึ่งมีทั้งหมด 5 หัวข้อ มีดังนี้
(1) โครงสร้างองค์กร บุคลากร และแผนการดำเนินงาน คะแนน 10%
(2) แนวทาง วิธีการดำเนินงาน และความสอดคล้องของเอกสารด้านเทคนิคงานโยธา คะแนน 40%
(3) แนวทาง วิธีการดำเนินงาน และความสอดคล้องของเอกสารด้านเทคนิคงานระบบรถไฟฟ้า คะแนน 15%
(4) แนวทาง วิธีการดำเนินงาน และความสอดคล้องของเอกสารด้านเทคนิคบริการการเดินรถไฟฟ้า และซ่อมบำรุงรักษา คะแนน 30% และ
(5) แนวทาง วิธีการดำเนินงาน และความสอดคล้องของเอกสารด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยีและกิจกรรมการฝึกอบรม คะแนน 5%
แต่ก่อนถึงวันยื่นข้อเสนอ รฟม. ได้เปลี่ยนเกณฑ์ประมูล ทำให้ถูกฟ้อง ในที่สุด รฟม. ได้ล้มประมูลเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 ทำให้ต้องเปิดประมูลครั้งที่ 2

2. คะแนนด้านเทคนิคในการประมูลครั้งที่ 2
ขณะนี้ รฟม. กำลังเปิดประมูลครั้งที่ 2 โดยกำหนดให้ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องได้คะแนนด้านเทคนิคในแต่ละหัวข้อไม่น้อยกว่า 85% (เพิ่มขึ้นจากการประมูลครั้งที่ 1 ที่กำหนดไว้ไม่น้อยกว่า 80%)และจะต้องได้คะแนนด้านเทคนิครวมทุกหัวข้อไม่น้อยกว่า 90% (เพิ่มขึ้นจากการประมูลครั้งที่ 1 ที่กำหนดไว้ไม่น้อยกว่า 85%) จึงจะได้รับการพิจารณาข้อเสนอด้านผลตอบแทน ใครเสนอผลตอบแทนสุทธิ (ผลตอบแทนที่จะให้ รฟม. – เงินสนับสนุนที่ขอรับจาก รฟม.) สูงสุดก็จะชนะการประมูล

รายละเอียดของคะแนนในแต่ละหัวข้อซึ่งมีทั้งหมด 4 หัวข้อ (ลดลงจากการประมูลครั้งแรก 1 หัวข้อ) มีดังนี้
(1) โครงสร้างองค์กร บุคลากร และแผนการดำเนินงาน คะแนน 10% เท่ากับการประมูลครั้งแรก
(2) แนวทาง วิธีการดำเนินงาน และความสอดคล้องของเอกสารด้านเทคนิคงานโยธา คะแนน 50% เพิ่มขึ้นจากการประมูลครั้งแรก 10%
(3) แนวทาง วิธีการดำเนินงาน และความสอดคล้องของเอกสารด้านเทคนิคงานระบบรถไฟฟ้า คะแนน 10% ลดลงจากการประมูลครั้งแรก 5% และ
(4) แนวทาง วิธีการดำเนินงาน และความสอดคล้องของเอกสารด้านเทคนิคบริการการเดินรถไฟฟ้า และซ่อมบำรุงรักษา คะแนน 30% เท่ากับการประมูลครั้งแรก
อนึ่ง เป็นที่น่าสังเกตว่าการประมูลครั้งที่ 2 นี้ รฟม. ได้ตัดหัวข้อแนวทาง วิธีการดำเนินงาน และความสอดคล้องของเอกสารด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยีและกิจกรรมการฝึกอบรมออกไป ไม่มีคะแนนให้เลย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

3. ข้อสังเกตในการเพิ่มคะแนนด้านเทคนิค
3.1 เปรียบเทียบกับการประมูลครั้งที่ 1
(1) รฟม. ได้เพิ่มคะแนนในหัวข้อ แนวทาง วิธีการดำเนินงาน และความสอดคล้องของเอกสารด้านเทคนิคงานโยธา จาก 40% เป็น 50%
การเพิ่มคะแนนในหัวข้อนี้จะทำให้ผู้ยื่นข้อเสนอที่มีผู้เหมารายใหญ่ซึ่งมีผลงานด้านโยธาครบทั้ง 3 ประเภท ตามที่ รฟม. กำหนดร่วมด้วย มีโอกาสได้คะแนนสูงถึง 50% ส่งผลให้มีโอกาสผ่านเกณฑ์เทคนิคสูง ในขณะที่ผู้ยื่นข้อเสนอที่ไม่สามารถหาผู้รับเหมารายใหญ่มาร่วมได้ โอกาสที่จะได้คะแนนในหัวข้อนี้สูงนั้นยาก ทำให้ผ่านเกณฑ์เทคนิคได้ยาก

อันที่จริงคะแนนในหัวข้อนี้ที่เดิม รฟม. กำหนดไว้ 40% ก็ได้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องมาเป็นอย่างดีแล้ว และเป็นคะแนนที่สูงกว่าหัวข้ออื่นอยู่แล้ว ถือว่า รฟม. ให้ความสำคัญต่อการบริหารจัดการก่อสร้างงานโยธามากอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเพิ่มขึ้นอีก

การที่ รฟม. กำหนดให้ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องมีประสบการณ์ในการบริหารจัดการก่อสร้างงานโยธาไว้อย่างยากที่จะหาผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์ครบทั้ง 3 ประเภทตามที่ รฟม. กำหนด เนื่องจากจะต้องเป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับหน่วยงานของรัฐบาลไทย และจะต้องเป็นผลงานที่แล้วเสร็จ ทำให้ผู้สนใจที่จะยื่นข้อเสนอหาผู้รับเหมามาร่วมยื่นประมูลด้วยได้ยาก ถ้าหาได้ก็ต้องใช้ผู้รับเหมา 2-3 ราย โอกาสที่จะได้คะแนนสูงในหัวข้อนี้ก็ยาก

ด้วยเหตุนี้ การเพิ่มคะแนนในหัวข้อนี้ จะทำให้เกิดการได้เปรียบ-เสียเปรียบขึ้นหรือไม่ ?
(2) รฟม. ลดคะแนนในหัวข้อ แนวทาง วิธีการดำเนินงาน และความสอดคล้องของเอกสารด้านเทคนิคงานระบบรถไฟฟ้า จาก 15% เหลือ 10%
การทำเช่นนี้เป็นการลดความสำคัญของงานระบบรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นหัวใจของการให้บริการเดินรถที่ต้องมีความสะดวก สบาย ปลอดภัย และตรงต่อเวลา ทั้งนี้ ระบบรถไฟฟ้าจะต้องคำนึงโครงสร้างของตัวรถ สมรรถนะในการวิ่ง ระบบไฟฟ้ากำลัง ระบบอาณัติสัญญาณและควบคุมการเดินรถ ระบบสื่อสาร ระบบเก็บค่าโดยสาร และอุปกรณ์ซ่อมบำรุงรักษาภายในและภายนอกศูนย์ซ่อมบำรุงรักษา
(3) รฟม. ตัดหัวข้อแนวทาง วิธีการดำเนินงาน และความสอดคล้องของเอกสารด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยีและกิจกรรมการฝึกอบรมออกไป ไม่มีคะแนนให้เลย ทำให้ขาดโอกาสที่จะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี และการพัฒนาบุคลากร ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการโครงการรถไฟฟ้าของ รฟม. ในอนาคต

3.2 เปรียบเทียบกับการประมูลรถไฟฟ้าสายอื่นของ รฟม.
เมื่อเปรียบเทียบคะแนนผ่านเกณฑ์เทคนิคในการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกครั้งที่ 2 กับการประมูลรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (หัวลำโพง-บางแค) และสายสีม่วงใต้ (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) พบว่าคะแนนผ่านเกณฑ์เทคนิคในการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกครั้งที่ 2 สูงกว่าคะแนนผ่านเกณฑ์เทคนิคในการประมูลรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายถึง 20% และสูงกว่าสายสีม่วงใต้ 5% ทั้งๆ ที่ใช้เทคนิคขุดเจาะอุโมงค์ใต้เกาะรัตนโกสินทร์และลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาเหมือนกัน จึงเป็นปริศนาว่าทำไม รฟม. จึงทำเช่นนี้ ?

 

4. ใครเสียประโยชน์ ?
การเพิ่มคะแนนด้านเทคนิค อาจทำให้มีผู้ยื่นข้อเสนอที่สามารถผ่านเกณฑ์เทคนิคได้จำนวนน้อยราย การแข่งขันที่จะเสนอผลตอบแทนให้ รฟม. ก็จะลดลง ทำให้ รฟม. ไม่ได้รับผลตอบแทนสูงสุดที่ควรจะได้
ที่สำคัญ แม้ว่าในขณะนี้การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก (ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี) ใกล้จะแล้วเสร็จแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถเปิดให้บริการเดินรถได้ เนื่องจากยังไม่มีผู้เดินรถ ต้องรอผู้เดินรถจากการประมูลครั้งที่ 2 นี้ ด้วยเหตุนี้ ความล่าช้าในการเปิดให้บริการ จะทำให้พี่น้องประชาชนจำนวนไม่น้อยที่รอใช้รถไฟฟ้าสายสีส้มต้องเดือดร้อนกับการฝ่าฟันวิกฤตจราจรต่อไป

หมายเหตุ : ข้อสงสัยดังกล่าวข้างต้นจึงเป็นข้อกังขาที่ผมและประชาชนทุกคนชอบที่จะต้องขอคำชี้แจงให้สิ้นสงสัยจากหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ทั้งนี้ก็เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ด้วยเจตนาที่จะให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากโครงการนี้อย่างเต็มที่ โดยปราศจากข้อสงสัยใดๆ ทั้งสิ้นเท่านั้นเอง

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เต้ อาชีวะ” เดือด! จัดหนัก UN ปล่อยต่างด้าวล้นรพ.รัฐ แย่งคิวคนไทย
ปัตตานีระทึก คนร้ายชักปืน จี้ "พนง.ร้านสะดวกซื้อ" ชิงเงินสด 1.2 ล้าน หนีลอยนวล
เตรียมพบเทศกาลนานาชาติ พลอยและเครื่องประดับจันทบุรี 2024 "จันทบุรีนครอัญมณี" ปีที่ 5 ชูเอกลักษณ์เมืองจันท์ อัญมณีอันเลื่องชื่อ
“สมศักดิ์” นำร่อง “ตู้ห่วงใย” บริการแพทย์ทางไกลเชิงรุกในชุมชน ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ 
"พงษ์ศักดิ์" ยื่นร้องกกต. ขอระงับรับรองผลเลือกตั้งนายกอบจ.ขอนแก่น ชี้พบเหตุหาเสียงส่อผิดกม.
“กฤษอนงค์” ไร้เงาคนยื่นประกัน นอนคุกคืนแรก ด้าน “บอสพอล” มอบทีมกม.ยื่นค้านประกันตัว
‘ทะเลสาบน้ำเค็ม’ โผล่กลางทะเลทรายในมองโกเลียใน
เปิดศึก "พระ" ปะทะคารม "แม่ชี" ปมไม่จ่ายค่าไฟ
หนุ่มตีนผีขับรถ ชนพนักงานกวาดถนน สาหัส ซิ่งหนี เมืองดี ล้อมจับ เป่าขึ้น 77 มก.
ชุดปฏิบัติการพิเศษปกครองเมืองคอนสนธิกำลังจับผู้ต้องหายาเสพติดเครือข่ายภาคใต้ยาบ้าเกือบ 2 แสนเม็ด มูลค่า 2 ล้านบาท-เผยเริ่มต้นปฏิบัติการจับกุมผู้เสพผู้ค้ารายย่อยของกลางยาบ้าไม่ถึง 10 เม็ด จนขยายผลจับกุมข้ามจังหวัดรวมยาบ้า เกือบ 1.4 แสนเม็ดพร้อมยึดทรัพย์รถ เก๋ง 1 คัน สั่งขยายผลถึงตัวการใหญ่บงการอยู่เบื้องหลัง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น