อัยการชี้คดี “ผกก.โจ้”ยังไม่จบ กฏหมายเปิดช่องให้ศาลอุทธรณ์ช่วยกลั่นกรอง

โฆษกอสส.ชี้คดีโจ้ถุงดำ กฎหมายเปิดช่องให้ศาลอุทธรณ์ ช่วยกรองอีกชั้น ส่วนอัยการจะยื่นอุทธรณ์โทษเพิ่มหนือไม่ อยู่ในดุลยพินิจของอัยการศาลสูง ชี้จะแก้ต่างในคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกันให้ตำรวจหรือไม่ ยังมีประเด็นต้องพิจารณา

ติดตามความคืบหน้า หลังศาลมีคำพิพากษาคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผกก.โจ้ อดีตผกก. สภ.เมืองนครสวรค์กับพวกรวมกันฆ่าทารุณผู้เสียหาย ด้วยการประหารชีวิต ก่อนลดโทษลง 1 ใน 3 คงจำคุกตลอดชีวิต พ.ต.อ.ธิติสรรค์ กับพวก6 คน ส่วนจำเลยที่ 6 โดนโทษจำคุก 5 ปี4 เดือน สร้างความเคลือบแคลงสงสัยขึ้นในสังคม
ล่าสุด วันนี้ ( 9 มิ.ย.) นายอิทธิพร แก้วทิพย์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้ออกมาให้ความเห็นว่า เกี่ยวกับคดีดังกล่าวพนักงานอัยการจะยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาอีกหรือไม่ อธิบดีอัยการคดีศาลสูงจะเป็นผู้พิจารณา เพราะถึงแม้ศาลจะจำคุกตลอดชีวิต เเต่อัยการจะอุทธรณ์หรือไม่อุทธรณ์ก็สามารถทำได้ ยกตัวอย่างเช่น หากศาลลดโทษลงแล้ว โทษน้อยเกินไป อัยการก็อุทธรณ์ให้ลงโทษหนักขึ้นได้ ส่วนคดีนี้เข้าใจเบื้องต้นว่า ศาลลงโทษทุกข้อหา และประหารชีวิตเต็มตามฟ้องของอัยการแล้ว ส่วนสาเหตุที่ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิตเพราะจำเลยได้บรรเทาผลร้ายแล้ว จึงถือเป็นเหตุบรรเทาโทษ อันนี้ก็เป็นดุลยพินิจของศาล

ข่าวที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา245วรรคสอง บัญญัติว่า คดีที่ศาลชั้นต้นลงโทษประหาร หรือจำคุกตลอดชีวิต และจำเลยไม่มีการอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นต้องส่งสำนวนต่อให้ศาลอุทธรณ์ และถือว่าคดียังไม่ถึงที่สุด เว้นแต่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน หมายความว่า ในคดีที่ศาลระวางโทษสูงถึงประหารจำคุกตลอดชีวิต และจำเลยไม่ยื่นอุทธรณ์ กฎหมายจึงต้องการให้มีการกรองอีกครั้งโดยศาลสูง ถ้าศาลอุทธรณ์ยังเห็นด้วยกับศาลชั้นต้น คดีก็ถึงที่สุด

นายอิทธิพร กล่าวต่อไปว่า ในคดีส่วนแพ่งที่เกี่ยวเนื่องด้วยคดีอาญา ซึ่งพ่อแม่ของนายมาวิน ผู้เสียหายเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการ ฟ้องเรียกร้องค่าเสียหาย 1.5 ล้านบาท แต่ศาลยกฟ้องและให้ไปใช้สิทธิฟ้องร้องหน่วยงานต้นสังกัด เพราะเป็นกรณีตำรวจทำละเมิดในการปฏิบัติหน้าที่ จึงต้องใช้ช่องทางตามพรบ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ มาตรา5 นั้น อัยการมีหน้าที่ต้องแก้ต่าง ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วยหรือไม่ แม้เป็นหน้าที่ของพนักงานอัยการจะต้องแก้ต่างให้หน่วยงานของรัฐ แต่มีประเด็นต้องพิจารณาว่า
1.ที่อ้างว่า เจ้าหน้าที่ ทำไปตามหน้าที่นั้น มันจริงหรือไม่ ไม่ใช่ว่าอัยการจะรับให้ทุกเรื่อง ฉะนั้น อัยการอาจจะไม่รับแก้ต่างให้ก็ได้เป็นดุลยพินิจอัยการ
2.หากเป็นการทำละเมิดเนื่องในการปฏิบัติหน้าที่จริง แต่ฝ่ายผู้เสียหายตั้งฟ้องทุนทรัพย์สูงจนเกินไปเช่นบางคดี50ล้านก็มีทั้งที่ความจริงเสียหายไม่ถึง5แสนบาท อัยการก็ต้องพิสูจน์ในศาลว่าค่าเสียหายไม่ถูกต้อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น