เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565 ที่จ.สงขลา นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงถึงกรณีเรื่องข้อพิพาทสัญญาซื้อขายรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา หลังศาลปกครองสูงสุดอ่านคำพิพากษาว่า
1. การประมูลจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทาง ของ อบจ.สงขลานั้นมีทั้งหมด 3 ครั้ง
-ครั้งที่ 1 ประมุลจัดซื้อ 1 คัน เมื่อเดือน กรกฎาคม 2555 (สมัยนายอุทิศ ชูช่วย อดีตนายก อบจ.สงขลา)
-ครั้งที่ 2 ประมูลจัดซื้อ 1 คัน เมื่อเดือน กันยายน 2555 (สมัยนายอุทิศ ชูช่วย อดีตนายก อบจ.สงขลา)
-ครั้งที่ 3 ประมูลจัดซื้อ 2 คัน เมื่อเดือน พฤษภาคม 2556 (สมัยนายอุทิศ ชูช่วย อดีตนายก อบจ.สงขลา)
2. นายนิพนธ์ บุญญามณี เข้ารับตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา เมื่อเดือนตุลาคม 2556 เป็นช่วงเดียวกับที่มีการส่งมอบรถซ่อมบำรุงทาง ของการจัดซื้อครั้งที่ 3 จำนวน 2 คัน ที่จัดซื้อตั้งแต่สมัยนายอุทิศ ชูช่วย เป็นนายกอบจ.
3. มีการร้องเรียนไปยัง ผวจ.สงขลา และ นายกอบจ. สงขลาว่าการจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางในครั้ง 3 นั้น มีการปลอมเอกสาร และ มีการฮั้วประมูล ทางผวจ.สงขลา จึงแจ้งมายังองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในข้อร้องเรียนดังกล่าว และนายนิพนธ์ บุญญามณี ที่รับตำแหน่งนายกอบจ.สงขลาช่วงนั้นจึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้ชะลอการจ่ายเงินให้แก่ผู้ชนะการประมูล
4. ในระหว่างคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ดำเนินการตรวจสอบอยู่นั้น บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด (ผู้ชนะการประมูล) ได้ร้องต่อศาลปกครองสงขลา ให้ อบจ.สงขลาชำระเงินค่ารถซ่อมบำรุงทาง
5. ศาลปกครองสงขลา ได้ตัดสินให้ อบจ.สงขลา ชำระเงินค่ารถซ่อมบำรุงทางให้แก่บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด พร้อมดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม อบจ.สงขลา ได้ยื่นอุทธรณ์ ต่อศาลปกครองสูงสุด ซึ่งศาลปกครองสูงสุดได้นัดอ่านคำพิพากษาวันนี้คือ 9 มิถุนายน 2565 ให้ อบจ.สงขลา ชำระค่ารถซ่อมบำรุงทางให้แก่ผู้ชนะการประมูลพร้อมดอกเบี้ย
6. ผลการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงพบว่า มีการฮั้วประมูลจริง ในการจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางครั้งที่ 3 และนายนิพนธ์ บุญญามณี ก็ได้ให้ อบจ.สงขลา แจ้งความดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง ณ สถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลาแล้ว
7. เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2564 สถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลา ได้สรุปสำนวนการสอบสวนเสร็จสิ้น มีความเห็นควรสั่งฟ้องบริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด โดยนายอิทธิพล ดวงเดือน (ผู้ชนะการประมูล) และนางสาวศศิธร ตั้งตรงคิด กรรมการบริษัท เอส พี เค ออโต้ เทค จำกัด (บริษัทคู่เทียบประมูล ในความผิดฐาน ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอมตกลงร่วมกันในการเสนอราคาเพื่อวัตถุประสงค์จะให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานรัฐ โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมหรือโดยกีดกันมิให้มีการเสนอสินค้าหรือบริการอื่นต่อหน่วยงานรัฐหรือโดยเอาเปรียบหน่วยงานรัฐอันมิใช่เป็นไปในทางการประกอบธุรกิจปกติ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 264 และ 268 และตาม พ.ร.บ ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4, 14 (2) และมาตรา 14 วรรคสาม และอยู่ระหว่างส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมสำนวนการสอบสวนให้พนักงานอัยการดำเนินคดีต่อไป