ป.ป.ช. ชี้มูลผิด”กนกวรรณ” รมช.ศึกษาฯ บุกรุกอุทยานฯเขาใหญ่ ส่งอัยการฟ้องคดีอาญา

ป.ป.ช. ชี้มูลผิด"กนกวรรณ" รมช.ศึกษาฯ บุกรุกอุทยานฯเขาใหญ่ ส่งอัยการฟ้องคดีอาญา

วันที่ 9 มิ.ย. 65 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้แถลงผลการตรวจสอบ น.ส.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดย ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดจากกรณีบุกรุกที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยมีผู้ถูกกล่าวหาทั้งเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ รวมถึง นางกนกวรรณ และ นายสุนทร วิลาวัลย์ บิดา ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นนายก อบจ. ปราจีนบุรี

สำหรับผู้ถูกกล่าวหาดังต่อไปนี้

1.นายจีรศักดิ์ ผลสุข เมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์เดินสำรวจออกโฉนดที่ดินจังหวัดสระบุรี-นครนายก-ปราจีนบุรี-สระแก้ว

2.นางสุรางค์ คัณฑารมย์ เมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่ผู้กำกับการเดินสำรวจ

3.นายสมศักดิ์ หีบเงิน เมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่ผู้กำกับการรังวัด

4.นางพรรณเพ็ญ ภาคาญาติ หรือจำรูญหิน เมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่สอบสวนสิทธิ

5.นายประทาน บานชื่น เมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่เดินสำรวจรังวัด

6.นายทวี หมื่นศรี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 14 ตำบลเนินหอม

7.นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ ผู้นำเดินสำรวจ ขณะออกโฉนดที่ดินมิได้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ปัจจุบันเป็น รมช.ศึกษาธิการ

8.นายสุนทร วิลาวัลย์ ผู้นำเดินสำรวจ ขณะออกโฉนดที่ดินดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ปัจจุบันนายก อบจ.ปราจีนบุรี

9.นางสาวน้อย ตุ้มพันธ์ ผู้นำเดินสำรวจ

10.นายคณิต เพชรประดับ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งช่างรังวัด 6 กรมป่าไม้

ทั้งนี้ จากการไต่สวนปรากฏข้อเท็จจริงว่า โฉนดที่ดินทั้ง 3 แปลง เป็นโฉนดที่ดินที่ออกโดยวิธีการ เดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน ตามมาตรา 58 และ 58 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน โดยโฉนดที่ดินเลขที่ 41158 ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี เป็นการออกให้แก่นางกนกวรรณ ศรีจันทร์งาม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7 ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนนามสกุลเป็นวิลาวัลย์, โฉนดที่ดินเลขที่ 41159 ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี เป็นการออกให้แก่นายสุนทร วิลาวัลย์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8 เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2545 เนื้อที่ประมาณ 27-2-54.5 ไร่ และโฉนดที่ดินเลขที่ 41160 ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี เป็นการออกให้แก่นางสาวน้อย ตุ้มพันธ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 9 เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2545 เนื้อที่ประมาณ 27-1-71.4 ไร่ มีพฤติการณ์ในการออกโฉนดโดยมีการอ้างว่าซื้อต่อมาจากผู้เคย ทำประโยชน์ในที่ดินมาก่อน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงว่าไม่มีการซื้อขายจริง ประกอบกับผลการอ่านแปลภาพถ่ายทางอากาศในช่วงปี พ.ศ.2546 ซี่งเป็นปีที่ใกล้เคียงกับปีที่ทำการเดินสำรวจ สภาพพื้นที่มีสภาพเป็นป่ามาโดยตลอด ไม่มีร่องรอยการทำประโยชน์เช่นกัน

นอกจากนี้ยังปรากฏข้อเท็จจริงว่า แนวเขตป่าไม้ถาวร “ป่าเขาใหญ่” คณะรัฐมนตรี ได้มีมติให้จำแนกป่าเขาใหญ่ไว้เป็นป่าไม้ตามแนวเขตที่มี พ.ร.ฎ.กำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 ก.ย.2513 และเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าแนวเขตป่าไม้ถาวรเป็นแนวเขตเดียวกัน กับแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ การที่โฉนดที่ดินเลขที่ 41158 และ 41160 ออกโดยมีแนวเขตด้านทิศเหนือติดต่อ กับแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทั้งที่ตามระเบียบกรมที่ดินฯ กำหนดห้ามมิให้เดินสำรวจในแปลงที่คาบเกี่ยวหรือติดต่อกับเขตป่าไม้ถาวร จึงเป็นการออกโดยฝ่าฝืนข้อ 9 ของระเบียบกรมที่ดิน

คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาแล้ว มีมติดังนี้

1.การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-5 และที่ 10 เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 83 และการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาที่ 6-9 เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86

2.การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-5 และที่ 10 เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง

3.แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้กรมที่ดินทราบ เพื่อให้กรมที่ดินพิจารณาดำเนินการเพิกถอนโฉนดที่ดินเลขที่ 41158 โฉนดที่ดินเลขที่ 41159 และโฉนดที่ดินเลขที่ 41160 ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรีจังหวัดปราจีนบุรี ตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน

 

 

4.การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาที่ 7 เป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จึงเป็นการฝ่าฝืนฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมซึ่งมีลักษณะร้ายแรงตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ.2561 หมวด 1 มาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นอุดมการณ์ข้อ 8 หมวด 2 มาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นค่านิยมหลัก ข้อ 11 ไม่กระทำการอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวม ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม และข้อ 17 ไม่กระทำการใด ที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง ประกอบข้อ 27

ปัจจุบันอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งดำเนินคดีอาญาฟ้องผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-5 และที่ 10 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 83 และมีคำสั่งดำเนินคดีอาญาฟ้องผู้ถูกกล่าวหาที่ 6-9 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.65 และให้แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 10 ราย ไปรายงานตัวต่อพนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 2 ในวันที่ 9 มิ.ย.65 เวลา 09.30 น.เพื่อยื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ต่อไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมีย-แม่ยาย หอบเงินล้าน บุกติดสินบนตำรวจ ช่วยผัวค้าเฮโรอีน สุดท้ายถูกซ้อนแผนโดนรวบตัว
ไทยตอนบนอากาศยังหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 12 องศา ใต้เจอฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กทม. มีหมอกบางตอนเช้า ร้อนสุด 31 องศา
ฮีโร่โอลิมปิคเหรียญทองน้องอร “ฉายาสู้โวย” ร่วมแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน ในงานกีฬาประจำปีอบต.ไทยสามัคคี พร้อมลงแข่งขันตีกอล์ฟบก สร้างความสนุกสนานเฮฮา
"สธ." ยันพบชาวเมียนมา ป่วยอหิวาฯ รักษาฝั่งไทย 2 ราย อาการไม่รุนแรง
สุดทน "พ่อพิการ" ร้อง "กัน จอมพลัง" หลังถูกลูกทรพี ใช้จอบจามหัว-ทำร้ายร่างกาย จนนอน รพ.นับเดือน
สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น