ยื่นจดหมายเปิดผนึก ถึงไบเดน “ทนายนกเขา-จตุพร” ไม่โอเค USA. ส่อกดขี่ครอบงำไทย

ยื่นจดหมายเปิดผนึก ถึงไบเดน "ทนายนกเขา-จตุพร" ไม่โอเค USA. ส่อกดขี่ครอบงำไทย

วันที่ 10 มิ.ย. 65 นายนิติธร ล้ำเหลือ กลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) พร้อมด้วย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และภาคประชาชน ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อเรียกร้อง ประท้วงการอ้างถึงประเทศไทยในการร่วมปกป้องไต้หวัน เพื่อต่อต้านภัยคุกคามจากจีน หยุดการกระทำ กรณีกดดันให้กองทัพไทยเข้าร่วมซ้อมรบทางทะเล RIMPAC 2022 ขอให้สหรัฐอเมริกา แสดงความรับผิดต่อการกระทำขององค์กร CIA ที่ปฏิบัติการจัดทำข้อมูล แพร่กระจายข่าวเท็จ กรณีมีสายลับอิหร่านจะปฏิบัติการต่ออิสราเอลและการปฏิบัติอื่นๆในพื้นที่ประเทศไทย ต้องยกเลิกแผนปฏิบัติการในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเป็นพื้นที่ติดตั้งปฏิบัติการทางอาวุธทางระบบไซเบอร์ รวมทั้งการใช้ประเทศไทยในการสร้างความขัดแย้งกับมิตรประเทศของไทย โดยเนื้อหาในจดหมายเปิดผนึกระบุรายละเอียดว่า

กราบเรียน ฯพณฯ นายโจเซฟ อาร์.ไบเดน จูเนียร์ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ผ่านสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำราชอาณาจักรไทย ตามเรื่องที่กล่าวข้างต้น รวมตลอดถึงการกระทำ การปฏิบัติการด้านต่างๆ ที่ผ่านมาของสหรัฐอเมริกาต่อประเทศไทย เป็นการแสดงเจตนาที่ชัดเจนถึงความมุ่งหมาย ในการกดขี่ ครอบงำประเทศไทย โดยต้องการประเทศไทยเป็นตัวแทนการต่อต้าน การเผชิญหน้า การสร้างความขัดแย้ง กับนานาประเทศ โดยไม่สนใจ ให้ความเคารพในเอกราช ความมีอิสระของประเทศไทย ประการสำคัญการกระทำดังกล่าวทำให้ประชาชนไทยประจักษ์ชัดถึงเจตนาอันแฝงเร้นด้วย เล่ห์กลต่างๆ อันอาจเรียกได้ว่าเป็นการกระทำที่ชั่วร้าย ที่ต้องการให้ประเทศไทยเป็นพื้นที่ปฏิบัติการในลักษณะสงครามตัวแทนของสหรัฐ เพื่อต่อสู้กับประเทศต่างๆ ที่สหรัฐได้รุกรานและสร้างศัตรูไว้

กลุ่มรวมประชาชนขอให้ท่านและสหรัฐอเมริกายึดมั่น ดังนี้
1.สหรัฐอเมริกาต้องเคารพ ความมีเอกราช ความอิสระ อำนาจอธิปไตยของประเทศไทย เฉกเช่นที่สหรัฐอเมริกาต้องการจากประเทศต่างๆ
2.สหรัฐอเมริกาต้องเคารพด้วยความจริงใจ ต่อประเทศไทยในฐานะมิตรประเทศ ที่มิได้เป็นภัยต่อสหรัฐอเมริกา
3.สหรัฐอเมริกาต้องต้องไม่แทรกแซง กิจการด้านความมั่นคง ด้านการทูต ยุติการมุ่งทำลาย สถาบันกษัตริย์ ศาสนา หยุดเอาเปรียบด้านเศรษฐกิจกอบโกยทรัพยากรต่างๆของ ประเทศไทย

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

จากกรณีที่สหรัฐอเมริกาประกาศว่า มอบหมายให้พันธมิตรอินโด-แปซิฟิก คือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไทย และฟิลิปปินส์ รับภาระในการปกป้องไต้หวัน ถ้าหากจีนบุกยึดไต้หวัน และแถลงว่าจะร่วมมือพันธมิตรในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก จัดการซ้อมรบทางทะเล RIMPAC 2022 ซึ่งถือเป็นการซ้อมรบทางทะเลขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีกำลังพลเข้าร่วมซ้อมรบมากที่สุดถึง 25,000 นาย โดยมีประเทศไทยเข้าร่วมด้วยในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ โดยระบุชัดเจนว่า เพื่อต่อต้านภัยคุกคามจากจีนนั้น

รวมทั้งการที่พลเรือเอก จอห์น ซี. อากีลีโน ผู้บัญชาการกองบัญชาการภาคพื้นอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐอเมริกา (USINDOPACOM) เข้าร่วมการหารือระหว่างผู้นำระดับสูงของสหรัฐฯ กับไทย (U.S.-Thai Senior Leader Dialogue หรือ SLD) ประจำปี 2565 เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา และมีการลงนามในกรอบแผนงานสนับสนุนแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วมระหว่างสหรัฐอเมริกาและไทย ค.ศ. 2020 (Thailand-United States Joint Vision Statement 2020 Support Framework) ซึ่งสหรัฐฯ จะขยายขอบเขตและยกระดับความซับซ้อนของการฝึกร่วมกัน ซึ่งรวมถึงปฏิบัติการทางไซเบอร์นั้น

กลุ่มรวมประชาชน ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวด้วยความห่วงกังวลว่า จะเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนจากนานามิตรประเทศว่า ประเทศไทยจะไม่รักษาดุลยภาพของเป็นกลาง หากเกิดความขัดแย้งด้วยกำลังอาวุธขึ้นภายในภูมิภาคนี้ จึงขอเรียกร้องมายังท่านและรัฐบาลสหรัฐอเมริกาว่า

1.กลุ่มรวมประชาชน ขอประท้วงต่อการอ้างสนธิสัญญา ข้อตกลง แถลงการณ์ร่วม ที่นำไปประกาศแต่เพียงฝ่ายเดียวว่า ประเทศไทยจะเป็นพันธมิตรร่วมรบ หรือเลือกอยู่ข้างสหรัฐฯ ในการต่อต้าน “ศัตรู” โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่สหรัฐอเมริกาประกาศว่า มอบหมายให้ประเทศไทยรับภาระในการปกป้องไต้หวัน ถ้าหากจีนบุกยึดไต้หวัน ซึ่งนับเป็นการขาดมารยาททางการทูตที่ดีต่อมิตรประเทศ เนื่องจากเป็นการประกาศยุทธศาสตร์การรบของสหรัฐฯ แต่เพียงฝ่ายเดียว และสหรัฐฯ ไม่ควรกระทำการดังกล่าวซ้ำอีก

2.กลุ่มรวมประชาชน ขอคัดค้าน และคัดค้านความพยายามกดดันให้กองทัพไทยเข้าร่วมซ้อมรบการทางทะเล RIMPAC 2022 ดังกล่าว

3.กลุ่มรวมประชาชน ไม่ยอมรับสนธิสัญญา ข้อตกลง แถลงการณ์ร่วม โดยเฉพาะพันธกรณีที่มีผลสืบเนื่องมาจาก“ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ของสหรัฐอเมริกา” ที่ก่อปัญหานำประเทศไทยไปขัดแย้งกับมิตรประเทศ

 

 

4.กลุ่มรวมประชาชน ขอยืนยันว่า ประชาชนคนไทยไม่ต้องการให้ประเทศไทยเป็นสนามรบหรือเป็นกองทัพหน้าของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด รวมทั้งไม่ต้องการให้ไทยเป็นฐานปฏิบัติการในการทำสงครามไซเบอร์ หรือการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อโจมตีประเทศอื่น

5.กลุ่มรวมประชาชน ห่วงกังวลต่อพฤติกรรมของสหรัฐฯ ที่พยายามสร้างสถานการณ์จากการเตรียมการรบและการซ้อมรบ รวมถึงการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร เพื่อก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การเผชิญหน้ากันในรูปแบบสงครามตัวแทน บนพื้นฐานที่ประเทศไทยกลายเป็นผู้แบกรับต้นทุนและความเสียหายแทนสหรัฐฯ ซึ่งสร้างผลกระทบในทางลบต่อมิตรภาพ ความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและมิตรประเทศอื่น

6.กลุ่มรวมประชาชนขอแจ้งต่อสหรัฐอเมริกาว่าจะไม่อดทนต่อการกระทำซ้ำของท่าน ในทุกกรณีและพร้อมแสดงเจตนา ตัวตน หน้าสถานทูตอเมริกาอย่างต่อเนื่อง

กลุ่มรวมประชาชน จึงขอเรียนมาเพื่อสื่อสารข้อเท็จจริงมายังรัฐบาลและประชาชนของสหรัฐอเมริกาว่า ขณะนี้ความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทย-สหรัฐ กำลังเสื่อมทรามลง อีกทั้งยังขัดหลักพื้นฐานความร่วมมือและความเคารพอธิปไตยซึ่งกันและกัน และไทยถูกกระทำให้เกิดความตึงเครียดทางการทหารในพื้นที่โดยรอบประเทศไทยมากขึ้นโดยลำดับ ซึ่งกระทบต่อความมั่นคง เศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับมิตรประเทศ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทั้งสองประเทศจะกลับมายึดมั่นในเส้นทางของการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยสันติ เพื่อความก้าวหน้าของมนุษยชาติต่อไป

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น