วันที่ 11 มิ.ย.65.-พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความเป็นห่วงประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ 10 จังหวัด ที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังสูง อาทิ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี อุบลราชธานี สมุทรปราการ พร้อมให้คุมเข้มมาตรการป้องกัน/คัดกรอง รณรงค์ฉีดวัคซีน และดูแลกลุ่มเสี่ยง 608 เป็นกรณีพิเศษ ขระเดียวกัน ขอความร่วมมือเข้ารับการฉีดวัคซีนให้ครบตามเกณฑ์และรับวัคซีนเข้มกระตุ้นหลังพบผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ยังคงเป็นคนกลุ่มนี้
นายกฯเตรียมประชุม ศบค.ชุดใหญ่ 17 มิ.ย.นี้พิจารณาปรับพื้นที่สีทั่วประเทศ ผ่อนคลายมาตรการเปิด ผับ บาร์ คาราโอเกะ พร้อมแนวทางสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ พร้อมสั่งการเข้มมาตรการป้องกัน คัดกรองโควิด-19 ใน10 จังหวัด ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ยังสูง
ข่าวที่น่าสนใจ
ด้าน พลเอกสุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 หรือ ผอ.ศปก.ศบค. เปิดเผยว่า มาตการเดิมในการป้องกัน ควบคุมโควิด 19 ของไทย กำลังเดินหน้าไปด้วยดี ซึ่งการจะปรับเปลี่ยนมาตรการ ก็จะมีการประชุม ศปก.ศบค. หารือกันอย่างรอบคอบ โดยสัปดาห์หน้า มีการประชุม ศปก.ศบค.ชุดเล็ก พร้อมจะสรุปมาตการต่างๆ นำเสนอที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ในวันศุกร์ ที่ 17 มิถุนายนนี้ให้พิจารณาเห็นชอบต่อไป โดยเฉพาะ การปรับพื้นที่สีทั่วประเทศ มาตรการการเข้าออกประเทศ มาตรการป้องกันควบคุมโรค ที่จะต้องครอบคลุมในเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ โล่งแจ้ง การเปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่จะประเมิน หารือกัน ก่อนที่ทุกหน่วยงานรับข้อสังเกตุ ข้อคิดเห็นจากที่ประชุมไปแล้วนำมาพิจารณาหารือกันอีกครั้งในที่ประชุมใหญ่ ศบค. และเปิดเผยว่า ในการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ก็จะมีการพิจารณามาตรการ 2 ส่วน คือ มาตรการในภาพรวม ที่พบว่าสถานการณ์โควิดค่อนข้างดี ไม่มีปัญหา แต่ยังมีข้อกังวล ติดขัด ก็จะแก้ไขเพิ่มเติม และการผ่อนคลายมากขึ้น เช่นสถานการณ์บันเทิง พร้อมเสริมมาตรการเข้าไปดูแล โดยนำกลไกลพื้นที่เข้าไปช่วย สำหรับภาพรวมการเปิดประเทศ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นมา ในส่วนของ ศปก. ศบค.ประเมินแล้วอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจและดี แต่ยังมีข้อเสนอทุกมิติต่างๆ อีก ที่จะต้องหารือในที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่
ขณะที่การถอดหน้ากากอนามัย พลเอกสุพจน์ ระบุว่า รัฐบาลโดย ศปก.ยังมีข้อกังวล เนื่องจากที่ผ่านมา มีความปลอดภัย เดินหน้าเรื่องเศรษฐกิจไปได้ เพราะหน้ากากอนามัย ฉะนั้นการจะผ่อนคลายอย่างไร ก็ต้อง มีการพิจารณาค่อนข้างละเอียดรอบคอบ ทั้งนี้ยังไม่มีการประกาศนำร่องพื้นที่ใดให้โควิด 19เป็นโรคประจำถิ่น เพราะต้องพิจารณาในภาพรวม ซึ่งขึ้นอยู่กับกระทรวงสาธารณสุขและผ่านความเห็นชอบ ของ ศบค.ก่อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-