วันที่ 12 มิถุนายน น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.เขต 2 โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า จากภาวะค่าครองชีพของประชาชนที่สูงขึ้น พรรค พปชร.และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ผลักดันและสนับสนุนมาตรการดูแลผลกระทบประชาชนอย่างเร่งด่วน ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2565 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่องอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ (ฉบับที่ 11) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 90 วันนับตั้งแต่วันออกประกาศ และจะเป็นประโยชน์กับกลุ่มแรงงาน โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานมีฝีมือที่ถือเป็นกำลังสำคัญต่อการสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ดังนั้นการปรับขึ้นค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงานรวม 16 สาขา จึงถือเป็นแนวทางในการกระตุ้นและส่งเสริมให้เกิดฝีมือแรงงานในภาคการผลิต และบริการมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับความต้องการตลาด โดยใช้มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นเกณฑ์วัดค่าทักษะฝีมือ ความรู้ ความสามารถ
โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ย้ำจุดยืน พปชร.หนุนกระทรวงแรงงาน ปรับค่าแรงขั้นต่ำ 16 สาขาอาชีพ เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมให้เกิดฝีมือแรงงานในภาคการผลิต และบริการมากยิ่งขึ้น รองรับความต้องการตลาด
ข่าวที่น่าสนใจ
“การปรับเพิ่มขึ้นค่าแรงตามมาตรฐานฝีมือแรงงานดังกล่าว จะมีส่วนสำคัญในการยกระดับรายได้ให้กับกลุ่มอาชีพ 16 สาขา โดยภาครัฐที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพแรงงานที่สอดรับกับองค์กรธุรกิจทั้งการยกระดับทักษะให้ดีกว่าเดิม และการสร้างทักษะใหม่ที่จำเป็นต่อการทำงานที่จะทำให้การดำเนินธุรกิจมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและลูกจ้างมีรายได้ที่สูง” น.ส.พัชรินทร์ กล่าว
น.ส.พัชรินทร์ กล่าวว่า การขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ ต้องยอมรับว่าจำเป็นต้องพิจารณาตามสถานการณ์ ซึ่งที่ผ่านมาไทยประสบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วน ล่าสุดยังมีวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน ที่กระทบต่อราคาพลังงาน การดำเนินมาตรการต่างๆ จึงต้องมองในหลายมิติ และต้องสมดุล เช่นเดียวกับประเด็นของค่าแรง ที่ต้องคำนึงถึง ทั้งต่อลูกจ้างและนายจ้าง ที่ก็ต่างประสบกับปัญหาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นคงไม่สามารถที่จะเอาการเมืองมานำสถานการณ์ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้ ซึ่ง พปชร.ได้คิด และส่งผ่านนโยบายไปยังกระทรวงแรงงาน เพื่อดำเนินมาตรการต่าง ๆ ผ่านคณะกรรมการ และผู้เชี่ยวชาญ อย่างรอบคอบ และคาดว่าจะได้ข้อสรุปในไม่ช้า เนื่องจากไทยเริ่มมีการเปิดประเทศแบบเต็มรูปแบบ จะส่งผลให้การท่องเที่ยวจากต่างประเทศและในประเทศ ทยอยกลับมาฟื้นตัว ทำให้เศรษฐกิจมีทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลบวกต่อภาพรวมตลาดแรงงานด้วย
สำหรับการปรับขึ้นค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงาน 16 สาขาที่ปรับเพิ่ม ประกอบด้วยกลุ่มอาชีพช่างก่อสร้าง 5 สาขา ได้แก่ 1.ช่างติดตั้งยิปซั่ม 450 – 595 บาท/วัน 2.ช่างเขียนแบบก่อสร้างด้วยคอมพิวเตอร์ 645 บาท/วัน 3.ช่างปูกระเบื้องผนังและพื้น 450- 650 บาท/วัน 4.ช่างสีอาคาร 465 -600 บาท/วัน 5.ช่างก่อและติดตั้งคอนกรีตมวลเบา 475 – 575 บาท/วัน
กลุ่มอาชีพช่างอุตสาหกรรมศิลป์ 4 สาขา ได้แก่ 1.ช่างเครื่องประดับ (รูปพรรณ) 450-650 บาท/วัน 2.ช่างประกอบติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ 430- 550 บาท/วัน 3.ช่างฝีมือเครื่องประดับแนวอนุรักษ์ (เทคนิคโบราณ) 525 บาท/วัน 4.ช่างเครื่องถม 625 บาท/วัน
กลุ่มอาชีพภาคบริการ 7 สาขา ได้แก่ 1.นักส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวม ไทยสัปปายะ (หัตถบำบัด) 460-575 บาท/วัน 2.ผู้ประกอบขนมอบ 400 – 505 บาท/วัน 3.พนักงานต้อนรับส่วนหน้า 440 – 565 บาท/วัน 4.พนักงานแผนกบริการอาหารและเครื่องดื่มในธุรกิจโรงแรมและภัตตาคาร 440 บาท/วัน 5.ช่างแต่งผมสตรี 440 – 650 บาท/วัน 6.ช่างแต่งผมบุรุษ 430 – 630 บาท/วัน 7.การดูแลผู้สูงอายุ 500 บาท/วัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง