เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยถึงกรณีที่ อัยการนัดส่งตัวฟ้องนายสุนทร วิลาวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (นายก อบจ.ปราจีนบุรี ) บิดาของนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ ผู้ถูกกล่าวหาคดีการมีส่วนร่วมบุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติเขาใหญ่ จ.ปราจีนบุรี ช่วงปี 2545 ซึ่งคดีจะหมดอายุความวันที่ 13 มิ.ย.ว่า คดีนี้ข้อเท็จจริงเกิดขึ้นเมื่อระหว่างวันที่ 14 ก.พ.-12 ก.ค.2545 โดยมีผู้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันแลปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ปปช.) เเละมีผู้รับเรื่องไว้ 27 ม.ค.2563 ต่อมา ปปช.มีมติชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 31พ.ค.65 โดยในส่วนนายสุนทรถูกกล่าวหา 3 ข้อหาประกอบด้วย 1.เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ทำ ซื้อรักษาทรัพยากรโดยใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริตอันเป็นการเสียหายเเก่รัฐ มาตรา 151 ข้อ2.สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตอบมาตรา 157 ประกอบ86 เเละ3.ข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานผู้ทีหน้าที่ทำเอกสาร รับรองเอกสาร ซึ่งมุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นเท็จตามมาตรา162 ประกอบ 86
รองโฆษก อสส. เเจงไทม์ไลน์คดี “สุนทร” พ่อ รมช. ศึกษาฯรุกป่าเขาใหญ่ เผยหมดอายุความในชั้น ปปช.ไปเเล้ว 2 ข้อหา เหลืออีก 1 ข้อหาหมดอายุความวันนี้ ยันสำนวนมาถึงอัยการวันที่ 2 มิ.ย.บ่ายก่อนสั่งฟ้องคดีในวันที่ 7 มิ.ย.
ข่าวที่น่าสนใจ
นายประยุทธ กล่าวว่าเมื่อ ปปช.มีมติชี้มูลเเล้วได้ส่งสำนวนมายังสำนักงานอัยการปราบปรามคดีทุจริตฯภาค 2 วันที่ 2 มิ.ย.65 เวลา 15.12 นาที ซึ่งวันที่ 3-5 มิ.ย.เป็นวันหยุดราชการ สำนักงานอัยการปราบปรามคดีทุจริตฯภาค2 เปิดทำการวันที่ 6 มิ.ย.จึงได้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดในฐานะผู้มีอำนาจพิจารณาสั่งฟ้องคดีวันที่ 7 มิ.ย.65 เเละได้ส่งเรื่องกลับไปยังอัยการสำนักงานปราบปรามทุจริตฯ 2 เพื่อประสานกับ ปปช.นำตัวผู้ถูกกล่าวหามาฟ้อง โดยมีการฟ้องผู้กล่าวหาวันเเรกไป 4 คนเเละวันต่อมาอีก 1 คนคือนางกนกวรรณ วิลาวัลย์รมช.ศึกษาธิการ
นายประยุทธ กล่าวว่า ในส่วนของนายสุนทรผู้ถูกกล่าวหาที่ 8 รวม 3 ข้อหาในข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตอบมาตรา 157 ประกอบ 86 เเละข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ทำเอกสาร รับรองเอกสาร ซึ่งมุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นเท็จตามมาตรา162 ประกอบ 86 ทั้ง 2 ข้อหานี้ขาดอายุความในชั้นพิจารณาของ ปปช.เเล้ว คงเหลือข้อหาเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ทำ ซื้อรักษาทรัพยากรโดยใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริตอันเป็นการเสียหายเเก่รัฐ ตามมาตรา151 ซึ่งคดีจะขาดอายุความวันนี้ (13 มิ.ย.) “ตรงนี้เป็นข้อเท็จจริงที่อัยการปราบปรามทุจริตฯภาค2 เพิ่งได้รับสำนวนมาวันที่ 2 มิ.ย.ก็ดำเนินการในเวลาราชการใช้เวลาเพียง 3 – 4 วัน”
เมื่อถามถึง มาตรา 7 พรป.ว่าด้วยการป้องกันเเละปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ซึ่งมีการเเก้ไขใหม่มีสาระสำคัญว่า ถ้าผู้ถูกกล่าวหาหรือจำเลยหลบหนีไปในระหว่างถูกดำเนินคดี หรือระหว่างการพิจารณาของศาลระหว่างหลบหนีอายุความต้องสะดุดลงนั้น นายประยุทธ กล่าวว่า ความเห็นตรงนี้ต้องถามปปช.เพราะในส่วนของอัยการคือ เราได้ตรวจสำนวน เเล้วมีความเห็นโดยเเจ้งให้รีบนำตัวมาฟ้องถ้ายังไม่ได้มาให้ศาลออกหมายจับ ส่วนกระบวนการที่ถามมาเป็นเรื่องของ ปปช.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับ พรป.ว่าด้วยการป้องกันเเละปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ซึ่งมีการเเก้ไขใหม่ มาตรา 7 บัญญัติไว้ว่า ในการดำเนินคดีอาญาตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช.ฉบับนี้ ถ้าผู้ถูกกล่าวหาหรือจำเลยหลบหนีไปในระหว่างถูกดำเนินคดี หรือระหว่างการพิจารณาของศาล มิให้นับระยะเวลาที่ผู้ถูกกล่าวหาหรือจำเลยหลบหนีรวมเป็นส่วนหนึ่งของอายุความ และเมื่อได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำเลย ถ้าจำเลยหลบหนีไประหว่างต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษ มิให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 98 มาใช้บังคับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง