เปิดบ้านพัก “ชัชชาติ” ที่สหรัฐฯ มูลค่ากว่า 70 ล้าน

ล่าสุดมีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับบ้านพักของนายชัชชาติ ในเมืองซีแอตเทิล โดยบ้านพักของนายชัชชาติ ตั้งอยู่เลขที่ 201 South Jackson Street, Room 708 Seattle สหรัฐฯ ก่อสร้างเมื่อปี 2004 หรือ ปี พ.ศ 2547 บ้านหลังใหญ่ขนาด 2 ชั้น พื้นที่ 3250 ฟุต 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ด้านหน้าและบริเวณโดยรอบมีสนามหญ้าและต้นไม้

ซึ่งเว็ปไซต์ Kingcounty.com ได้ระบุข้อมูลว่า นางปรมินทร์ทิยา สิทธิพันธุ์ ภรรยานายชัชชาติ ได้ซื้อบ้านหลังนี้เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2561 ในราคา 1,440,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 47 ล้านบาท แต่ปรากฏว่า นางปรมินทร์ทิยา ได้โอนมาเป็นชื่อนายแสนปิติ สิทธิพันธุ์ บุตรชาย เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนวันเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. โดยโอนในรูปแบบ Gift without consideration หรือเป็นการโอนในรูปแบบของขวัญ ให้คนในครอบครัว ญาติ พี่น้อง

สำหรับราคาบ้านหลังดังกล่าว เว็ปไซต์ Kingcounty.com ระบุว่า ราคาประเมินกลางที่ต้องเสียภาษีของปีนี้อยู่ที่ 1,764,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 58 ล้านบาท ขณะที่ราคาซื้อขายทั่วไปอยู่ที่ 2,200,00 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ ราว 72 ล้านบาท

ทั้งนี้นายชัชชาติต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินของตนเอง คู่สมรส และบุตรยังไม่บรรลุนิติภาวะ ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. ภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันเข้ารับตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 และประกาศของป.ป.ช.

อย่างไรก็ตามมีการตั้งข้อสังเกตว่า การที่บ้านพักหลังดังกล่าวได้มีการโอนชื่อจากนางปรมินทร์ทิยา มาเป็นชื่อบุตรชายคือนายแสนปิติ เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม มีนัยยะอะไรหรือไม่ เนื่องจากประกาศป.ป.ช.ได้กำหนดว่า ทรัพย์สินและหนี้สินที่จะต้องนำมาแสดงต่อ ป.ป.ช. คือ ทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทรัพย์สินและหนี้สินของคู่สมรส และของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ โดยทรัพย์สินและหนี้สินดังกล่าวต้องเป็นทรัพย์สินที่มีอยู่จริงทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงทรัพย์สินที่มอบหมายให้อยู่ในความครอบครอง หรือดูแลของบุคคลอื่นไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ดังนั้นกรณีนี้การโอนบ้านให้เป็นชื่อนายแสนปิติ ที่ปัจจุบันอายุ 22 ปี ถือว่าบรรลุนิติภาวะแล้ว ทำให้นายชัชชาติไม่ต้องแจ้งการครอบครองบ้านหลังดังกล่าวในบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นต่อป.ป.ช.หรือไม่