ออกหมายจับ “สันติ” มือสังหารโหดสามี-ภรรยาในไต้หวัน

ตำรวจออกหมายจับสันติฆาตกรโหดฆ่า 2 สามีภรรยาชาวไทยยัดศพในรถหรูที่ไต้หวัน คาดผู้ต้องหาหน้ายังหลบหนีอยู่ในประเทศไทย

มีรายงานว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจกองปราบปรามอยู่ในระหว่างขออนุมัติศาลออกหมายจับ นายสันติ ผู้ต้องหาฆ่าสองสามีภรรยาชาวไทย ก่อนนำศพไปยัดในรถที่ไต้หวันแล้ว โดยข้อหาที่ออกหมายจับ คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบได้ลงพื้นที่ปูพรมเร่งติดตามตัวคนร้ายอย่างกระชั้นชิดทั้งที่บ้านเกิดอำเภอไชยปราการจังหวัดเชียงใหม่ ตามตะเข็บชายแดน ติดประเทศเพื่อนบ้าน โดยการขอความร่วมมือกับทางตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. ให้นำหมายจับไปไว้ที่ด่านพรมแดนทั่วประเทศ ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่า คนร้ายน่าจะยังหลบอยู่ในประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม การออกหมายจับดังกล่าว น่าสนใจว่าจะสามารถทำได้หรือไม่เนื่องจากพฤติการณ์กระทำผิดของคนร้ายไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทย แต่คนร้ายหลังก่อเหตุเดินทางหลบหนีมายังประเทศไทย ซึ่งต้องติดตามว่าพลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะดำเนินคดีกับนายสันติผู้ต้องหารายนี้ ตามกฎหมายไทยอย่างไรบ้าง

ล่าสุด พันตำรวจเอกเอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม ตำรวจกำลังเดินทางขออนุมัติศาลเพื่อขอหมายจับนายสันติตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 8 ประกอบกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 20 ที่บัญญัติไว้ว่า

ข่าวที่น่าสนใจ

“มาตรา 8  ผู้ใดกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร และ

(ก) ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนไทย และรัฐบาลแห่งประเทศที่ความผิดได้เกิดขึ้น หรือผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ

(4) ความผิดต่อชีวิต ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 288 ถึงมาตรา 290

ป.วิ.อาญา มาตรา ๒๐ ถ้า ความผิด ซึ่ง มีโทษ ตามกฎหมายไทย ได้กระทำลง นอก ราชอาณาจักรไทย ให้ อัยการสูงสุด หรือ ผู้รักษาการแทน เป็น พนักงานสอบสวน ผู้รับผิดชอบ หรือ จะมอบหมายหน้าที่ นั้น ให้ พนักงานอัยการ หรือ พนักงานสอบสวน คนใด เป็น ผู้รับผิดชอบ ทำการ สอบสวน แทน ก็ได้”

พันตำรวจเอกเอนก บอกว่า ด้วยกฎหมายไทยที่เปิดช่องไว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถดำเนินคดีและนำผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของไทยได้โดยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องส่งตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีที่ประเทศต้นทางที่เกิดเหตุแต่อย่างใด ซึ่งในคดีดังกล่าว ญาติของผู้เสียชีวิตได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษให้เอาผิดผู้ต้องหา ไว้ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ซึ่งตำรวจภูธรภาค 5 ก็จะส่งสำนวนการร้องทุกข์กล่าวโทษมารวมกับสำนวนที่กองปราบปราม

ส่วนข้อกังวลที่ว่าผู้ต้องหาอาจหลบหนีออกนอกประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะฝั่งติดกับจังหวัดเชียงราย ทางการไทยสามารถขอความร่วมมือให้ติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ ซึ่งถ้าจับกุมได้ ทางการของประเทศเพื่อนบ้านก็จะนำตัวมาส่งให้ที่ชายแดนทันที เหมือนกับคดีต่างๆที่ผู้ต้องหาหลบหนีเข้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อจับกุมได้ก็นำตัวมาส่งให้ที่ชายแดนให้ทางการไทยรับตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทยต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เจ้าคณะอำเภอสั่งนิมนต์  “พระอาจารย์ชิน” พ้นสำนักสงฆ์ใน 7 วัน หลังปลุกเสก “หมูเด้ง” ลูกศิษย์เศร้าพระอาจารย์เป็นพระสายปฏิบัติ
ผบ.ทร.ชื่นชมนักรบ 356 นาย เสียสละช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยพื้นที่เชียงราย
"ผบ.ทร" ตรวจเยี่ยม หน่วยปฏิบัติการเกาะกูด ยกระดับกำลังพล-เครื่องมือ ทุกมิติ ย้ำรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างเต็มที่
"เจ้าอาวาสวัดดัง" พิษณุโลก เครียดหนัก เจ้าภาพกฐินเทงาน ซ้ำจ้างลิเกคณะดังมาแสดง กลับไม่จ่ายเงิน
“ชูศักดิ์” เผยเพื่อไทยตั้งวงวาง 3 สถานการณ์เร่งแก้ รธน. ย้ำยังเป็นเรื่องที่อยู่ในเป้าหมาย
"บิ๊กเต่า" เผยกองปราบเร่งสอบปม "ทนายตั้ม" รีดเงินบอสพอล 7.5 ล้าน
Ripley's Believe It or Not! Pattaya เปิดตัวเครื่องเล่นใหม่ตัวที่ 9 THE LOST PYRAMID การผจญภัย ล่าสมบัติในพีระมิดที่สูญหาย
"ทนายเจ๊อ้อย" เผยเหตุสอบปากคำนานเ ชี้ตร.เก็บทุกประเด็น ลั่นไม่มียอมความ
วัดหนองฆ้อ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง พุทธาภิเษกพระผงเหนือดวงเศรษฐี หลวงพ่อทองสุข รุ่นที่ระลึกงานทอดกฐิน เปิดให้บูชาเนื่องในวันทอดกฐินสามัคคีประจำปีของวัด รายได้นำไปทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา
วัดหนองฆ้อ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง พุทธาภิเษกพระผงเหนือดวงเศรษฐี หลวงพ่อทองสุข รุ่นที่ระลึกงานทอดกฐิน เปิดให้บูชาเนื่องในวันทอดกฐินสามัคคีประจำปีของวัด รายได้นำไปทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น