นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง และประธานคณะกรรมการประมวลสถานการณ์โรคโควิด 19 กระทรวงสาธารณสุข (MIU) เปิดเผยว่า หนึ่งในมาตรการคัดกรองโรคโควิด 19 ช่วงที่ผ่านมา คือ การวัดอุณหภูมิก่อนเข้าประเทศและตามสถานที่ต่าง ๆ เนื่องจากช่วงที่โรคโควิด 19 ยังมีความรุนแรง ผู้ป่วยมักมีไข้เป็นอาการนำ และเป็นการสร้างความตระหนัก แต่เนื่องจากปัจจุบันทั้งสถานการณ์และเชื้อโควิด 19 มีความรุนแรงลดลงมาก อีกทั้งประชาชนได้รับวัคซีนเป็นจำนวนมากผู้ติดเชื้อมากกว่าครึ่งไม่แสดงอาการหรือมีอาการเล็กน้อย จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อประโยชน์และประสิทธิผลของเครื่องวัดอุณหภูมิ นอกจากนี้ ผู้ป่วยสามารถปิดบังอาการไข้ได้ด้วยการรับประทานยาลดไข้ ใส่เสื้อผ้าหนาปกคลุมร่างกาย การล้างหน้า และการใช้เครื่องสำอาง เป็นต้น คณะกรรมการ MIU จึงดำเนินการทบทวนมาตรการคัดกรองอุณหภูมิ หลังผ่านพ้นการแพร่ระบาดใหญ่ของโรคโควิด 19
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความคิดเห็นประชาชน หลังจากกระทรวงสาธารณสุข เผยว่าอยู่ระหว่างพิจารณายกเลิกเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ โดยประชาชนบางส่วนระบุว่าสมควรยกเลิกเครื่องวัดอุณหภูมิ เนื่องจากยังไม่มีความแม่นยำเรื่องข้อมูล
ข่าวที่น่าสนใจ
จากการศึกษาพบว่า เครื่องวัดอุณหภูมิมีประสิทธิผลในการตรวจคัดกรองผู้ป่วยโควิด 19 ต่ำ โดยมีค่าความไวต่ำตั้งแต่ 0-39% ทำให้ค่าพยากรณ์ผลทั้งบวกและลบต่ำมาก ให้ผลบวกและลบปลอม ทั้งการใช้ที่สนามบินหรือสถานที่ต่าง ๆ ยังไม่พบหลักฐานทางวิชาการที่สนับสนุนถึงประโยชน์ในการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 ดังนั้น จึงมีข้อเสนอเชิงนโยบายและมาตรการว่า ในปัจจุบันและหลังผ่านพ้นการแพร่ระบาดใหญ่ของโรคโควิด 19 อาจไม่จำเป็นต้องให้สนามบิน ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศ และสถานประกอบการต่าง ๆ คัดกรองผู้ติดเชื้อด้วยการวัดอุณหภูมิ ซึ่งในต่างประเทศก็มีคำแนะนำคล้ายกัน
สำหรับเครื่องวัดอุณหภูมิแบบสแกนร่างกายในสนามบินนั้น ไม่มีหลักฐานด้านประสิทธิผลในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 เช่นกัน และยังต้องพัฒนานวัตกรรมที่มีประสิทธิผลในการคัดกรองโรคติดเชื้อที่ดีกว่านี้ในอนาคตสำหรับในกลุ่มนักเดินทาง นอกจากนี้พบว่ามาตรการคัดกรองอุณหภูมิที่สนามบินอาจทำให้เกิดความมั่นใจในความปลอดภัยมากเกินไปจนส่งผลให้ละเลยมาตรการอื่น ๆ และทำให้เกิดความไม่สะดวก ทั้งนี้ ข้อเสนอดังกล่าว จะนำเสนอ ศบค. เพื่อพิจารณาต่อไป แต่ยังคงเน้นย้ำ มาตรการเรื่องวัคซีนเข็มกระตุ้น การสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่เสี่ยง กลุ่มเสี่ยงและผู้ที่มีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้ ไอ มีน้ำมูก และให้มีการธำรงรักษาพฤติกรรมสุขภาพที่ดี เช่น การล้างมือ การเว้นระยะห่าง ลดความแออัด รวมถึงการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดี
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามความคิดเห็นจากประชาชนต่อกรณีดังกล่าว ระบุว่า สมควรที่จะยกเลิกเครื่องวัดอุณหภูมิ มองว่าไม่มีความเชื่อมั่นกับเครื่องวัดอุณหภูมิที่ใช้อยู่ปัจจุบัน ประสิทธิภาพของเครื่องไม่แม่นยำเท่าเครื่องอินฟาเรตในโรงพยาบาล ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่การปฎิบัติตัวของแต่ละคนมากกว่า เช่นการล้างมือ ดูแลความสะอาด ดูแลความสะอาดของตัวเอง และครอบครัว ไปที่สาธารณะมั่นล้างมือใส่แมส หากอยู่ในพื้นที่ชุมชน หรือผู้คนเยอะๆ สมควรใส่หน้ากากอนามัย เพราะเราไม่รู้ว่าใครเป็น อีกอย่างหนึ่งต้องประชาสัมพันธ์ด้วยว่าถ้ายกเลิกแล้วต้องปฎิบัติตนอย่างไรอันนี้สำคัญ และสถาบันการศึกษาต้องประกาศให้เด็กรู้ด้วยว่าต้องทำอย่างไร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง