“ชัชชาติ” แจงยิบบ้านหรูอเมริกา ยันเป็นของลูก-มีหลักฐานชัด

“ชัชชาติ”แจงยิบบ้านหรูอเมริกายันเป็นของลูกยันชี้แจงได้ ลั่นมีหลักฐานทั้งในปปช. ในศาล และหลักฐานการซื้อขาย ส่วนที่ใส่ชื่อเมียก่อนเพราะลูกชายยังไม่บรรลุนิติภาวะ

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ชี้แจงกรณีโลกออนไลน์มีการแพร่ภาพบ้านบ้านเดี่ยวหรู สองชั้น 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และมีสวนหย่อมหน้าบ้าน ราคา 72 ล้านบาท ที่เมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ว่า โดยยืนยันว่าบ้านหลังนี้นายแสนปิติ สิทธิพันธุ์ บุตรชาย ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านตัวจริง โดยสืบเนื่องจาก เมื่อ 7 ปีที่แล้วคุณแม่ของตนมีที่ดินมรดกเก่าแก่สมัยของหมั้นตรงพระราม 4 ต่อมาได้ยกให้ตนและพี่ชาย โดยแบ่งกันครึ่งแล้ว ซึ่งส่วนที่โอนมาเป็นชื่อตน ได้แจ้งในบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นต่อปปช.ชี้แจงชัดเจน จากนั้นอยากให้ลูกมีทรัพย์สินในอนาคตจึงโอนให้ลูกชายเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ดังนั้นที่ดินดังกล่าวจึงเป็นของลูกชายตน ต่อมามีคนมีคนมาขอซื้อก็ขายที่ดินให้ แต่ตอนนั้นแสนดียังเป็นผู้เยาว์อยู่ ศาลจึงให้ตนเป็นผู้จัดการทรัพย์สิน โดยได้ขายที่ดินไปพร้อมกับพี่ชายเพราะที่ดินแปลงติดกันได้เงินก้อนหนึ่งมากพอสมควร ซึ่งเป็นช่วงที่ลูกชายมาเรียนอเมริกาพอดี เราจึงวิเคราะห์ว่าอสังหาที่อเมริกายังไม่ได้แพงมาก ก็น่าจะเอาเงินก้อนนี้ไปลงทุนให้เขา เและพอดีที่ช่วงนั้นดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งเงินที่ขายบ้านได้กับที่มาซื้อบ้านก็เหลือเฝือ จึงตัดสินใจซื้อบ้านที่อเมริกาในราคา 1.4 ล้านเหรียญ ซึ่งไม่ได้ถือว่าราคาแพงมากเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยขณะนั้น โดยใส่ชื่อนางปรมินทร์ทิยา สิทธิพันธุ์ มารดา แม่แสนดีเพราะเขายังไม่บรรลุนิติภาวะ

ข่าวที่น่าสนใจ

นายชัชชาติ กล่าวว่า ตนอยากให้เขาอยู่เมืองนอกอย่างมีความสุข คุณแม่เขาก็ไปดูแลให้เรียบร้อย เพราะเขาไปลองอยู่หอแล้วอยู่ไม่ได้ เขาไม่ชอบ พอเรียนจะจบเราก็คิดว่าอยากจะขาย จึงไปเช็คกฏหมายภาษีของซีแอตเติล คนจะขายก็แนะนำว่าให้โอนเป็นชื่อของลูกชายจะดีกว่า เพราะมีเรื่องระยะเวลาการอยู่ในบ้าน ซึ่งจะเสียภาษีถูกกว่า เราจึงโอนตามปรกติโดยสามารถดูหลักฐานได้ทางออนไลน์ไม่ได้มีอะไร มันชัดเจน แสนดีเป็นเจ้าของตัวจริงเพราะเราใช้เงินเขามาซื้อตรงไปตรงมา และถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมาก เพราะบ้านจากราคา 1.4 ล้านเหรียญก็ขึ้นมาเป็น 2.2 ล้าน ถือว่าบริหารจัดการได้ดี

“เรื่องนี้มีหลักฐานตั้งแต่ที่ยื่นปปช. เรื่องที่ดิน มีหลักฐานว่าโอนที่ดินให้ลูก มีหลักฐานว่าศาลให้ดูแลเงินก้อนนี้ให้เขา เพราะยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีชื่อผู้ซื้อปรากฏมีการโอนเงินมา ระบบของอเมริกาก็ดีมีบันทึกเปิดโอเพ่นว่าซื้อเท่าไหร่ ขายเท่าไหร่ เราไม่ได้ซื้อ 70 ล้านบาท ความจริงซื้อ 40 กว่าล้านเอง เทียบกับเงินของเขาที่เป็นเจ้าของที่ขายที่ดินได้มันเหลือเยอะกว่านี้อีก ไม่ได้มีปัญหาอะไร บังเอิญเราไม่ได้ชี้แจง เพราะช่วง 8 ปีที่ผ่านมาเราไม่ได้อยู่ในการเมือง เวลาไปทำธุรกิจอะไรจึงไม่ได้มีเรคคอร์ดตรงนี้อยู่ ” นายชัชชาติ กล่าว

ผู้ดำเนินรายการถามว่าที่ดินดังกล่าวขายได้ราคาดีเลยหรืออยู่จุดไหนของพระราม 4 นายชัชชาติ กล่าวว่า บังเอิญที่ดินดังกล่าวขายพ่วงกับที่ดินอีกแปลงซึ่งติดถนนใหญ่ เพราะที่ดินที่คุณแม่ให้อยู่ในซอยเล็ก ถ้าขายปรกติเราก็ไม่คิดจะขาย แต่บังเอิญว่าบริษัทอสังหาแห่งหนึ่งไปรวมที่ดินแปลงหน้าได้ซึ่งติดถนนใหญ่เพื่อให้ได้ราคาจึงตัดสินใจขาย เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นราคาที่ดินในซอยแค่นั้นเอง ซึ่งในช่วงนั้นก็โอนให้ลูกไปแล้ว เพราะเราไม่อยากถืออะไรมาก และเราไม่ต้องการทรัพย์สินอะไร

เมื่อถามว่าที่ดินจำนวนกี่ตารางวาที่มารดาให้ นายชัชชาติ กล่าวว่า ได้คนละ 1 ไร่กับพี่ชาย ตนชี้แจงได้ไม่มีอะไรน่ากังวล ถามย้ำอีกว่าราคาที่ดิน1 ไร่ ย่านพระราม 4 เมื่อช่วง 7 ปีที่แล้วน่าจะขายได้ไม่ต่ำกว่า 700-800 ล้าน นายชัชชาติ กล่าวว่า ตัวเลขอย่าไปพูดเลย แต่พอที่ตนจะเอาเงินไปลงทุนให้ลูก ตนขายไปเมื่อ 4 ปีที่แล้วเป็นช่วงที่ลูกชายกำลังจะไปเรียนเมืองนอกพอดี ดังนั้นเงินที่ไปซื้อบ้านก็เป็นของลูกแต่ใส่ชื่อแม่ของแสนดี เราอยากให้เขามีหลักฐานมั่นคง ถือว่าคิดถูกมาก เพราะเพียง 4 ปี ราคาบ้านที่ซีแอตเติลขึ้นแรงมาก ซึ่งลูกชายอยู่อย่างมีคุณภาพและมีความสุข คุณแม่เขาบินไปดูแลเป็นระยะ ตนก็บินไปแวะอยู่ด้วยบ้าง อย่างไรก็ตามตนเห็นส่งภาพบ้านกันไนไลน์ ขอว่าอย่าใส่ที่อยู่ไปด้วย เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยเพราะเรื่องที่อยู่เป็นเรื่องส่วนตัว และที่โน่นเราก็ไม่รู้ใครเป็นใคร ถ้าจะส่งต่อขอให้ช่วยลบแอดเดรส ทั้งนี้ยืนยันว่าเนื้อหาชี้แจงได้หมด เรามีหลักฐานทุกอย่างทั้งการโอนซื้อขายเพราะผ่านธนาคาร ส่วนเรื่องชื่อแม่แสนดีเขาเปลี่ยนชื่อเท่านั้นเองไม่มีอะไร คนเดิม

ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมเลือกโอนก่อนเลือกตั้งผู้ว่ากทม.เพียงไม่กี่วัน นายชัชชาติ กล่าวว่า ไม่ใช่ ตอนลูกเรียนจบก็ไม่ได้คิดจะขายบ้าน แต่พอคิดจะขายบ้านก็คิดว่าจะทำอย่างไร เพราะไม่แน่ใจว่าจะเรียนต่อโทหรือไม่ พอคิดจะขายปรากฏว่าแม่แสนดีไม่ได้อยู่เนื่อง 2 ปี ทำให้ต้องเสียภาษีแพงขึ้น นายหน้าซื้อขายบ้านก็แนะนำว่าให้โอนให้ลูก เพราะถ้าแสนดีเรียนต่อโทจะครบ 2 ปีสามารถลดภาษีได้ 10-20 เปอร์เซนต์ ซึ่งความจริงแสนดีคือเจ้าของที่แท้จริงไม่ได้ปกปิดอะไร

เมื่อถามว่าไม่ต้องชี้แจงต่อปปช.เพราะเป็นของลูกชาย ใช่หรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวย้ำว่า ที่ดินแปลงนี้ตนเคยแจ้งปปช.ไปแล้วหลังออกจากตำแหน่งครบ 1 ปีหลังการรัฐประหาร แต่ ก็ต้องชี้แจงรายละเอียดที่ดินต่อปปช. ว่าเคยมีที่ดินแล้วยกให้ลูก และขายไปแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น