น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.จอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า รัฐบาลได้อนุมัติโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG(U2T for BCG and Regional Development)” หรือโครงการ “มหาวิทยาลัยสู่ตำบล U2T for BCG” วงเงิน 3,566.28 ล้านบาท ในพื้นที่ 7,435 ตำบล ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดการจ้างงานประชาชนและบัณฑิตจบใหม่ จำนวนไม่น้อยกว่า 68,350 คน เข้ามาร่วมทำงานกับกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม หรือ อว. เพื่อขับเคลื่อนโครงการ U2T for BCG ในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากเป็นรายตำบลทั่วประเทศ เป็นระยะเวลา 3 เดือนตั้งแต่เดือน กรกฎาคม– กันยายนนี้
“ทิพานัน” เตือนเริ่มแล้ววันนี้ บัณฑิตจบใหม่-ปชช.ทั่วไปที่ตกงาน รีบลงทะเบียนเข้าโครงการ “มหาวิทยาลัยสู่ตำบล U2T for BCG” เพื่อร่วมงานกับ อว. ในพื้นที่ 7.4 พันตำบล ย้ำนายกฯมุ่งพลิกวิกฤติเป็นโอกาส สร้างงาน สร้างรายได้ แก้ปัญหาตรงเป้า พัฒนาคนสู่พัฒนาเมือง
ข่าวที่น่าสนใจ
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า โครงการนี้โดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดขึ้นสำหรับบัณฑิตจบใหม่ไม่เกิน 5 ปี ผู้ที่ถูกเลิกจ้างย้ายกลับไปอยู่บ้านเนื่องมาผลกระทบจากสถานการณ์โควิดและประชาชนในพื้นที่สถาบันอุดมศึกษาภาคประชาชนภาคสังคมและภาคส่วนต่างๆ เปิดให้ลงทะเบียนในวันที่ 17 มิถุนายน2565 ผ่านทางเว็บไซต์ http://u2t.ac.th หรือต้องการดูรายละเอียดการสมัครก่อนคลิกที่นี่ https://youtu.be/2sztfdy54oI
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความมุ่งมั่นในการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในทุกกลุ่ม ทั้งในระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว การผลักดันงบประมาณในโครงการนี้เพื่อพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสในการ ให้กลุ่มนักศึกษาจบใหม่ ยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการโดยมหาวิทยาลัยจะเป็น System Integrator (ผู้เชี่ยวชาญ ผลักดันและบูรณาการโครงการ) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ การจัดทำข้อมูลขนาดใหญ่ของชุมชน (Community Big Data) ส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานประชาชนทั่วไป บัณทิตใหม่ และ นักศึกษา ให้มีงานทำและฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชนในทุกตำบล และมุ่งให้เกิดการพัฒนาตามปัญหาและความต้องการของแต่ละชุมชน รวมไปถึงการนำข้อมูลมาสร้างและพัฒนาเป็น Creative Economy (การยกระดับเป็นเศรษฐกิจสร้างสรรค์) การนำองค์ความรู้ไปช่วยบริการชุมชน และการส่งเสริมด้านสิ่งแวดล้อม/Circular Economy (การเพิ่มรายได้หมุนเวียนให้แก่ชุมชน) ที่ส่งผลต่อการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมในระดับตำบลเป้าหมายได้ชัดเจน
“โมเดลนี้จะเป็นโมเดลที่ต่อยอดไปสู่การแก้ไขปัญหาความยากจน แก้ไขปัญหาการย้ายถิ่นฐาน พัฒนาคน นำไปสู่การพัฒนาเมือง สะท้อนคำพูดที่ว่ารัฐบาล ของพล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังนั้น เป็นคำพูดจริง และเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม”น.ส.ทิพานัน กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-