เป็นอีกดราม่าในโลกออนไลน์ เมื่อเฟซบุ๊กกลุ่มคนรักบุฟเฟต์ Buffet Lovers เกิดประเด็นที่คนรักบุฟเฟต์ตั้งข้อสังเกต เกี่ยวกับร้านบุฟเฟต์แซลม่อนชื่อดัง จู่ๆ ค้นหาเพจไม่เจอ โดยลูกค้าบางรายจองไว้แล้ว แต่มาทราบภายหลังว่าร้านปิด โดยไม่ทราบว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ที่สำคัญลูกค้าบางคนซื้อคูปองหรือเวาเชอร์ในราคา 199 บาทไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้นำไปใช้ ทำให้เกิดความกังวลว่าคูปองหรือเวาเชอร์จะนำมาใช้ได้หรือไม่ ขณะเดียวกันพบว่า ก่อนหน้านี้ร้านได้ขายเวาเชอร์ในราคา 199 บาท ผ่านแอพพลิเคชันของทางร้าน โดยก่อนหน้านี้ต้องซื้อ 5 ใบถึงจะได้ในราคาใบละ 199 บาท แต่ตอนนี้พบว่าบางคนซื้อน้อยกว่า 5 ใบ ก็ได้ในราคานี้แล้ว
กลายเป็นประเด็นดราม่าในเพจกลุ่มคนรักบุฟเฟต์ เมื่อร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง เปิดขายเวาเชอร์ให้ลูกค้าราคาถูกเพียง 199 บาท แต่ต่อมาร้านได้ปิดโดยไม่บอกล่วงหน้า ทำให้บรรดาลูกค้าจำนวนมากที่หลงเชื่อโอนเงินจอง หวั่นซ้ำรอยร้านซีฟู้ดชื่อดังอย่างแหลมเกตุ ที่เคยเป็นคดีดังเมื่อปี 2562
ข่าวที่น่าสนใจ
นอกจากนี้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งระบุเป็นนักลงทุนของร้านซูชิชื่อดัง โพสต์ระบุว่าขออนุญาตชี้แจงเรื่องร้านที่ได้ซื้อแฟรนไชส์มาทั้งหมด 6 สาขา ซึ่งในขณะนี้ตัวเองและเจ้าของสาขาต่างๆ อีก 10 กว่าสาขา ซึ่งเป็นผู้เสียหายได้รวมตัวกันรวบรวมหลักฐานทั้งหมด เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทและผู้บริหาร โดยตนและผู้เสียหายที่ลงทุนซื้อแฟรนไชส์ได้ทำการลงเงินเพื่อเปิดสาขา มีบริษัทเป็นผู้บริหารจัดการและเป็นคนดูแลบัญชีรายรับรายจ่ายทั้งหมดเเต่เพียงผู้เดียว และจะปันผลเป็นรายเดือนให้กับผู้ลงทุน การจัดโปรโมชั่นต่างๆ เป็นการดำเนินการโดยผู้บริหารบริษัท ซึ่งผู้ลงทุนไม่มีส่วนในการบริหารจัดการ ณ เวลานี้ทางกลุ่มผู้ลงทุนพยายามติดต่อผู้บริหารบริษัท เพื่อรอฟังคำชี้แจง ทั้งนี้ตลอดทั้งวันมีผู้เข้ามาอัพเดทข้อมูลร้านสาขาที่ปิดและแสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการตั้งไลน์กลุ่มเพื่อรวบรวมลูกค้าผู้เสียหายที่ซื้อเวาเชอร์เพื่อติดตามความคืบหน้า และคาดว่าจะมีการรวมตัวไปแจ้งสคบ. ต่อไป
หากย้อนไปปี 2562 ร้านซีฟู้ดชื่อดังอย่าง “แหลมเกต” เปิดโปรขายเวาเชอร์ Voucher เพียงหลักร้อย เสิร์ฟอาหารทะเล โปรโมชั่นตอนนั้นเริ่มตั้งแต่ 100 บาท จากราคาปกติ 888 บาท แต่เมื่อนำบัตรไปใช้ ปรากฏว่าบางเมนูอาจต้องจ่ายเพิ่ม หรือต้องจองคิวโต๊ะล่วงหน้านาน ทำให้หลายคนใช้ไม่ทันเวลา
ต่อมา 22 มี.ค.62 ร้านออกมาประกาศ “ยกเลิกและงดให้บริการทุกโปรโมชั่น” ให้ลูกค้าที่ซื้อบัตรนำมาขอเงินคืน เพราะได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม เกินความคาดหมาย ทำให้วัตถุดิบจากแหล่งผลิตไม่เพียงพอ จากนั้นต้นเดือนมิ.ย.62 โลกออนไลน์แชร์ภาพ “ร้านขออนุญาตปิดกิจการชั่วคราว เนื่องจากลูกค้าน้อยลง ทำให้ขนาดพื้นที่และการให้บริการไม่สอดคล้องกัน สำหรับเรื่องการ Refund Voucher ร้านจะดำเนินการตรวจสอบและประสานงานในขั้นตอนปกติ”
ก่อนตามมาด้วยกระแสข่าวร้านปิดถาวรทุกสาขา และขนของออกไปจนหมด ทำให้บรรดาลูกค้าที่ซื้อเวาเชอร์ไปต่างเป็นห่วง จึงรวมตัวเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดี จากการสืบสวนของตำรวจพบแหลมเกตมีพฤติการณ์จ้างคอลเซ็นเตอร์ ให้โฆษณาขายเวาเชอร์ ตรวจสอบสอบเส้นทางการเงินพบว่า เจ้าของนำเงินไปผ่อนรถยนต์ คอนโดมิเนียม และค่าบ้าน จนเหลือเพียง 90 บาท
กระทั่ง 10 มิ.ย.63 ศาลอาญา อ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่อ.2808/2562 ที่พนักงานอัยการยื่นฟ้อง บริษัท แหลมเกตอินฟินิท จำกัด , นายอพิชาต บวรบัญชารักษ์ หรือโจม พารุณจุลกะ ,น.ส.ประภัสสร บวรบัญชา เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิด ร่วมกันก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด คุณภาพ ปริมาณ ในสินค้าหรือบริการด้วยการโฆษณาข้อความอันเป็นเท็จ ตามพ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 343 เเละ พรบ.คอมฯ
ลงโทษฐานหลอกหลวงผู้อื่น ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนเพียงบทเดียว ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343 วรรคแรกประกอบมาตรา 341, 83 จำเลยทั้งสามร่วมกันกระทำความผิดรวม 723 กระทงให้จำคุกจำเลยที่ 2,3 ทุกกระทง กระทงละ 2ปี รวมจำคุกคนละ 1,446 ปี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-