“สธ.” เผยไทยมีวัคซีนฝีดาษกว่า 5 แสนโดส ออกฤทธิ์ดี

อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยไทยมีวัคซีนฝีดาษประมาณ 5 แสนโดส เก็บรักษาแช่แข็งไว้กว่า 40 ปีแล้ว นำมาทดสอบแล้วออกฤทธิ์แรงดี ยันแนวโน้มฝีดาษวานรไม่มีปัญหาร้ายแรงติดเชื้อค่อนข้างยากต้องผ่านการสัมผัสใกล้ชิด

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบวัคซีนฝีดาษที่องค์การเภสัชกรรม (อภ.) เก็บแช่แข็งรักษาไว้ ว่า หลังปี 2523 ที่ยุติการระบาดฝีดาษหรือไข้ทรพิษก็ยกเลิกการฉีดวัคซีนฝีดาษหรือการปลูกฝี จึงมีวัคซีนซึ่งขณะนั้นประเทศไทยผลิตได้เองเหลือเก็บไว้จนถึงตอนนี้กว่า 40 ปี เป็นวัคซีนลักษณะผง (Dry freeze) มี 10,000ไวอัลในจำนวน 13 ล็อต ใน 1 ไวอัลฉีดได้ 50 โดส เมื่อคำนวณจะเท่ากับมีประมาณ 5 แสนโดส เบื้องต้นที่กรมวิทย์ฯ นำมาทดสอบประสิทธิภาพผลปรากฎสามารถฟื้นตัวได้ดี และออกฤทธิ์ได้แรงดี วัคซีนฝีดาษชนิดผงนี้ทำมาจากวัคซีนฝีดาษวัวซึ่งเป็นเชื้อเป็นที่ทำให้อ่อนแรง เป็นวัคซีนรุ่นแรก ที่รูปแบบการนำมาใช้จะสะกิดให้ผิวหนังเป็นแผลและนำผงวัคซีนแตะแปะไว้ ก็จะเกิดเป็นฝีแล้วกลายเป็นสะเก็ดแห้งจากนั้นก็จะไปสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย ในขณะที่วัคซีนฝีดาษปัจจุบันเป็นรุ่นที่สามที่ใช้ฉีดเข้าผิวหนัง

ข่าวที่น่าสนใจ

นพ.ศุภกิจ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง มีตนเป็นประธาน มีศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมถึงผู้แทนจากองค์การเภสัชกรรม (อภ.) มาช่วยกันตรวจทดสอบวัคซีนดังกล่าวเพิ่มเติมว่า ใน 1 ไวอัลที่มี 50 โดสนั้นทั้ง 50 โดสยังมีประสิทธิภาพความแรงอยู่หรือไม่ ดูแนวโน้มว่าน่าจะให้ผลได้ดี ส่วนที่สองจะต้องตรวจเรื่องสารปนเปื้อน มีเชื้อหรือราต่างๆ หรือไม่ เนื่องจากเก็บไว้นานกว่า 40 ปี แต่คาดว่าจะไม่มีปัญหาเนื่องจากเป็นผงแห้งที่บรรจุในขวดแก้วปิดสนิท รวมถึงคงต้องตรวจทั้ง 13 ล็อตที่จัดเก็บไว้ทั้งหมด คาดว่าจะใช้เวลาตรวจอีก 2 สัปดาห์จะทราบผล ส่วนวัคซีนรุ่นหนึ่งนี้จะสามารถพัฒนารูปแบบการใช้เป็นรุ่นสามได้หรือไม่ ก็กำลังศึกษาเช่นกัน
นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามด้วยสถานการณ์โรคฝีดาษลิงขณะนี้ดูแนวโน้มว่าจะไม่มีปัญหาร้ายแรง เพราะการติดเชื้อค่อนข้างยากต้องผ่านการสัมผัสอย่างใกล้ชิดถึงลูกถึงคน แต่เราก็ไม่ประมาทอย่างน้อยเราก็มีอยู่ในมือ 5 แสนโดสหากมีความเสี่ยงคงไม่ได้ฉีดทั่วไป คงพิจารณาเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสติดเชื้อ ส่วนผลข้างเคียงของวัคซีนตัวนี้ เนื่องจากเป็นการใช้เมื่อ 40 ปีที่แล้วซึ่งเทคโนโลยียังไม่ได้ก้าวหน้าเช่นปัจจุบัน เท่าที่มีรายงานก็มีผลทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เยื่อหุบสมองอักเสบแต่น้อยมาก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"นายกเบี้ยว-พีช" มารพ. หวังเข้าเยี่ยม "ลุง-ป้า" คู่กรณี แต่ถูกปฏิเสธ เขียนจดหมายฝากขอโทษอีกครั้ง
ผู้ค้า "ตลาดนัดจตุจักร" โวย "กทม." จัดพื้นที่ค้าไม่เป็นธรรม ให้เอกชนประมูล กระทบค่าที่โหด เดือดร้อนกว่า 500 แผง
"ก.อุตสาหกรรม" แก้เกม "ซินเคอหยวน" นัดแถลง 21 เม.ย.นี้ ประกาศตรวจเหล็กเส้นตึกสตง.เพิ่มอีก ในวันเดียวกัน ย้ำยึดข้อกม. เดินหน้าเอาผิด
ชัดเจน เปิดปมเหตุ "กัน จอมพลัง" อาสาช่วย "ลุง-ป้า" โดนเก๋ง BMW ปาดบนทางด่วน หวั่นซ้ำรอยคดีเก่า
หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ร่วมวิ่งฮาล์ฟมาราธอนจีน
ชาวอเมริกันลุกฮือประท้วงทรัมป์เป็นครั้งที่สอง
รัสเซียประกาศหยุดยิง 30 ชั่วโมงเนื่องในเทศกาลอีสเตอร์
“รมว.สุดาวรรณ” ร่วมเปิดประวัติศาสตร์ระดมช่างฟ้อนเกือบหมื่นคน บันทึกสถิติโลก ฟ้อนเล็บคุ้มเจ้าหลวงอัตลักษณ์เชียงใหม่ ฉลองสมโภชเชียงใหม่ 729 ปี
ชาวธัญบุรี เปิดใจเล่านิสัย "พีช" เชื่อเหตุการณ์ขับรถหรู ปาดหน้ากระบะ อาจเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบ
"ทีมนายกเบี้ยว" เดือด ขู่ใส่ "กัน จอมพลัง" ลั่นใครแน่พวกอิทธิพล เจอสวนลูกพี่สั่งหรือเปล่า ทำแบบนี้?

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น