หากย้อนไปปี 2562 ร้านซีฟู้ดชื่อดังอย่าง “แหลมเกต” เปิดโปรขายเวาเชอร์ Voucher เพียงหลักร้อย เสิร์ฟอาหารทะเล โปรโมชั่นตอนนั้นเริ่มตั้งแต่ 100 บาท จากราคาปกติ 888 บาท แต่เมื่อนำบัตรไปใช้ ปรากฏว่าบางเมนูอาจต้องจ่ายเพิ่ม หรือต้องจองคิวโต๊ะล่วงหน้านาน ทำให้หลายคนใช้ไม่ทันเวลา
ข่าวที่น่าสนใจ
ต่อมา 22 มี.ค.62 ร้านออกมาประกาศ “ยกเลิกและงดให้บริการทุกโปรโมชั่น” ให้ลูกค้าที่ซื้อบัตรนำมาขอเงินคืน เพราะได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม เกินความคาดหมาย ทำให้วัตถุดิบจากแหล่งผลิตไม่เพียงพอ จากนั้นต้นเดือนมิ.ย.62 โลกออนไลน์แชร์ภาพ “ร้านขออนุญาตปิดกิจการชั่วคราว เนื่องจากลูกค้าน้อยลง ทำให้ขนาดพื้นที่และการให้บริการไม่สอดคล้องกัน สำหรับเรื่องการ Refund Voucher ร้านจะดำเนินการตรวจสอบและประสานงานในขั้นตอนปกติ”
ก่อนตามมาด้วยกระแสข่าวร้านปิดถาวรทุกสาขา และขนของออกไปจนหมด ทำให้บรรดาลูกค้าที่ซื้อเวาเชอร์ไปต่างเป็นห่วง จึงรวมตัวเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดี จากการสืบสวนของตำรวจพบแหลมเกตมีพฤติการณ์จ้างคอลเซ็นเตอร์ ให้โฆษณาขายเวาเชอร์ ตรวจสอบสอบเส้นทางการเงินพบว่า เจ้าของนำเงินไปผ่อนรถยนต์ คอนโดมิเนียม และค่าบ้าน จนเหลือเพียง 90 บาท
กระทั่ง 10 มิ.ย.63 ศาลอาญา อ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่อ.2808/2562 ที่พนักงานอัยการยื่นฟ้อง บริษัท แหลมเกตอินฟินิท จำกัด , นายอพิชาต บวรบัญชารักษ์ หรือโจม พารุณจุลกะ ,น.ส.ประภัสสร บวรบัญชา เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิด ร่วมกันก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด คุณภาพ ปริมาณ ในสินค้าหรือบริการด้วยการโฆษณาข้อความอันเป็นเท็จ ตามพ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 343 เเละ พรบ.คอมฯ
ลงโทษฐานหลอกหลวงผู้อื่น ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนเพียงบทเดียว ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343 วรรคแรกประกอบมาตรา 341, 83 จำเลยทั้งสามร่วมกันกระทำความผิดรวม 723 กระทงให้จำคุกจำเลยที่ 2,3 ทุกกระทง กระทงละ 2ปี รวมจำคุกคนละ 1,446 ปี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-