วันที่ 20 มิ.ย. 65 นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และนายกฤษฎางค์ นุชจรัส ทนายความ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลังรับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน กรณีเป็นผู้ต้องหาในคดี มาตรา 112 จากการที่ นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา เป็นผู้แจ้งความดำเนินคดีพฤติกรรมของนายปิยบุตร กระทำในลักษณะอาจจะเข้าข่ายผิดมาตรา 112 ที่ สน.ดุสิต ไว้เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 64
ข้อความที่โดนกล่าวโทษจากนายเทพมนตรี ตนอ่านแล้วไม่มีข้อความผิดที่เข้าข่าย ม.112 คนที่มีเหตุผล สติสัมปชัญญะ สามารถวิเคราะห์ได้ว่าไม่เข้าข่ายความผิดหมิ่นประมาทสถาบัน แต่เมื่อพนักงานสอบสวนมีความเห็นแบบนี้ก็พร้อมจะสู้ต่อไป
ส่วนการที่โดนดำเนินคดีแบบนี้กระทบกับเสรีภาพหรือไม่นั้น ในปัจจุบัน ทุกฝ่ายสามารถอยู่ร่วมในสังคมอย่างสันติ ต้องมีการพูดคุยกัน ตนพยายามแสดงออกถึงความบริสุทธิ์ใจที่จะพูดถึงสถาบัน ทุกฝ่ายควรมาคุยกัน และมีพื้นที่ในการแสดงความเห็นร่วมกัน แต่ตนกับถูกกล่าวโทษ ความสำคัญเรื่องตนจะโดนคดี หรือจำคุกเป็นเรื่องเล็ก แต่ตนต้องการให้ประชาชนสามารถพูดคุยกันได้แบบสาธารณะ ความปรารถนาดีต่อสถาบันแต่กลับโดนดำเนินคดี ม.112 กฎหมายนี้ห้ามหมิ่นประมาทหรืออาฆาตมาดร้าย ยืนยันตนจะขอพูดต่อไป ส่วนนายเทพมนตรี มาร้องเอาผิดตนนั้น ตนไม่ว่าอะไร แต่เวลาจะร้องหรือแจ้งความเอาผิด ควรศึกษากฎหมายบ้าง อย่าจินตนาการและรู้สึกไปเอง อย่าแจ้งความเพื่อปิดปากผู้อื่น ควรใช้ความคิดและสมองมากกว่านี้ สังคมไทยต้องมีพื้นที่ปลอดภัยในการพูดคุยเรื่องสถาบัน