นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สายปฏิบัติการ 1 บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน (ทอท.) เปิดเผยถึงกรณีเกิดเหตุระเบิดและไฟไหม้ขึ้นที่ บริษัท หมิงตี่ เคมีคอล จำกัด เลขที่ 87 ม.15 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บหลายสิบราย ว่า ขณะนี้สนามบินสุวรรณภูมิ ได้ร่วมกับบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทยจำกัด (บวท.) ซึ่งเป็นหน่วยให้บริการจราจรทางอากาศ ทำการเฝ้าระวังและประเมินสถานการณ์
นายกิตติพงศ์ เปิดเผยอีกว่า จากแรงระเบิดกลุ่มควันยังไม่ส่งผลกระทบต่อทัศนวิสัยต่อการบิน โดย บวท. ยังสามารถให้บริการจรจาทางอากาศได้ตามปกติ และสายการบินยังสามารถทำการบินได้ตามปกติเช่นกัน แต่ยอมรับว่า มีพื้นที่บางส่วนที่อยู่ในรัศมีอพยพ คือพื้นที่ส่วนที่เป็นออฟฟิศสำนักโครงการ จึงได้สั่งการให้พนักงานทำงานที่บ้านแล้ว
ขณะที่ นายทินกร ชูวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ปฏิบัติการ บวท. เปิดเผยกรณีดังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเนื่องจากยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ และยังต้องเฝ้าระวังการระเบิดระรอก 2 สำหรับถังเคมี 2 หมื่นลิตร เพราะอยู่ห่างจากกึ่งกลางทางวิ่งด้านตะวันตกไม่ไกลมาก ราว 2-3 กิโลเมตร หากมีการระเบิดเกิดขึ้นจริง จะต้องเร่งประเมินความเสียหายว่า รุนแรงมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะบริเวณรันเวย์มีการแตกร้าวหรือไม่ และมีกลุ่มควันเข้ามารบกวนภายในสนามบินแนวร่อน แท็กซี่เวย์ รันเวย์ มากน้อยแค่ไหน
อย่างไรก็ตาม แรงสั่นสะเทือนของการระเบิดในช่วงเวลา 03.00 น.ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบทำให้อาคารผู้โดยสารหรือ Main Terminal Building (MTB) มีความเสียหาย ดังนี้
1.ประตูบานเลื่อนเข้าอาคารผู้โดยสารชั้น 1 ทุกประตูหลุดจากรางเลื่อนทำให้ปิดไม่สนิท
2.ประตูบานเลื่อนประตูทางออกขึ้นเครื่องที่ต้องนั่งรถต่อไปขึ้นเครื่อง (Bus Gate) ชั้น 1 ฝั่งตะวันตก และ ตะวันออก หลุดออกจากรางเลื่อน
3.เกิดสัญญาณเตือนภัย ดับเพลิงบริเวณ Concourse E, F, G ขณะนี้ศูนย์ฯ ประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าตรวจอุปกรณ์เพื่อดำเนินการแก้ไขให้ใช้งานได้ตามปกติแล้ว