“หุ้นไทย” ครึ่งหลัง 65 หลักทรัพย์บัวหลวง แนะกลยุทธ์รับมือ

หุ้นไทย ภาวะ ตลาดหุ้น ไทย วัน นี้

ตลาด "หุ้นไทย" ครึ่งหลังปี 2565 หลักทรัพย์บัวหลวง แนะจัดพอร์ตลงทุนรับมือความผันผวนและเงินเฟ้อพุ่งต่อเนื่อง ชูกลยุทธ์กระจายความเสี่ยง

“หุ้นไทย” ภาวะ ตลาดหุ้น ไทย วัน นี้ แนวโน้ม ตลาดหุ้นไทย 2565 หลักทรัพย์บัวหลวง ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยครึ่งหลังปี 2565 แกว่งตัวขึ้นแตะ 1,700 จุด หนุนด้วยปัจจัยเศรษฐกิจฟื้นตัวจากการเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยว พร้อมแนะจัดพอร์ตลงทุนรับมือความผันผวนและเงินเฟ้อพุ่งต่อเนื่อง ด้วยการชูกลยุทธ์กระจายความเสี่ยง ติดตามเรื่องราวทั้งหมดที่นี่ TOP News

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การประเมินเป้าหมายดัชนี SET Index ในช่วงครึ่งหลังปี 2565 ที่ระดับ 1,700 จุด ยังคงเป็นไปได้  ส่วนกรอบล่างอาจมี Downside อยู่ที่ 1,550-1,570 จุด แม้อัตราเงินเฟ้อสูงและราคาสินค้าเพิ่มขึ้น แต่เชื่อว่าเศรษฐกิจน่าจะฟื้นตัวและหนุนดัชนีให้ค่อย ๆ ไต่ขึ้นไปสู่เป้าหมาย หลังจากเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว และผ่อนปรนมาตรการให้ร้านอาหารกลับมาเปิดได้ ซึ่งหัวใจสำคัญอยู่ที่มาตรการต้องไม่เปลี่ยนไปมาเพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น อย่างไรก็ตาม ดัชนีอาจไม่ถึงเป้าหมายหากสถานการณ์สงครามรัสเซียและยูเครนขยายวงไปยังภูมิภาคอื่น ๆ  

 

 

ทั้งนี้ปัจจัยที่มีผลต่อการลงทุนในช่วงครึ่งหลัง คือ อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ระดับสูง จากตัวเลขประกาศอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พุ่งทำนิวไฮในรอบ 40 ปี แต่เราคาดว่า อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ จะผ่านจุดสูงสุดและอัตราเร่งจะเริ่มลดลงในกลางปี 2565 ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2566 จากสาเหตุการจับจ่ายใช้สอยในสหรัฐฯ มีสัญญาณอ่อนตัวลงเป็นเดือนที่ 3การขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยลดลงอย่างรุนแรงต่อเนื่อง และจำนวนกองเรือสำหรับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเริ่มทยอยเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าระวางน่าจะอ่อนตัวลงต่อได้  

 

 

หุ้นไทย ภาวะ ตลาดหุ้น ไทย วัน นี้

 

 

ส่วนการเจรจายุติสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนยังดำเนินต่อไป สำหรับอัตราเงินเฟ้อของไทยยังไม่ถึงจุดพีคอาจได้เห็นในช่วงไตรมาส 3-4 ปี 2565 ซึ่งจะช้ากว่าสหรัฐฯ และยุโรป โดยคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คาดการณ์ว่า ในปี 2566 เงินเฟ้อจะต่ำกว่าปีนี้ ชี้ให้เห็นว่า กนง.ประเมินเงินเฟ้อจะแตะระดับสูงสุดในปี 2565 และหลังจากนั้นจะค่อย ๆ ลดลงในปีหน้าเช่นกัน ปัจจัยสำคัญอยู่ที่ระดับราคาน้ำมัน ซึ่งจะมีการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ตามแผนที่วางไว้ ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) น่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นเร็วในการประชุมเดือนกรกฎาคมนี้อีก 0.75% และจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกราว 1% ในการประชุมที่เหลือของปีนี้ และน่าจะจบรอบการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครึ่งแรกปี 2566

 

 

ในส่วนของกำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) มองว่า ปี 2565 เป็นปีแรกที่จะเห็นการฟื้นตัวของกำไร เพราะเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวจากเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยว และการจับจ่ายใช้สอยดีขึ้นจากการผ่อนคลายมาตรการ ส่งผลให้กำไรบจ. ไตรมาส ปี 2565 เติบโตได้ดี และแนวโน้มไตรมาส ปี 2565 คาดการณ์กำไรบจ.จะเติบโต 9% จากไตรมาสแรก ซึ่งหากไม่รวมกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับพลังงานกำไรบจ.จะเติบโต 1% จากไตรมาส ปี 2565 เนื่องจากราคาต้นทุนสินค้าและการขนส่ง อย่างไรก็ตามหากเปรียบเทียบกำไรบจ.ในไตรมาส ปี 2565 กับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาอาจเติบโต 35% แต่หากไม่รวมกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับพลังงานกำไรบจ.จะเติบโต 10%

 

 

หุ้นไทย ภาวะ ตลาดหุ้น ไทย วัน นี้

 

 

 

สำหรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยคาดว่า กนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 1-2 ครั้ง ในปี 2565 ส่งผลให้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจาก 0.5% เป็น 1-1.25%  โดยครั้งแรกอาจเห็นในเดือนกรกฎาคมนี้ และปี 2566 อาจเห็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1-2 ครั้ง หรืออาจไม่ขึ้นก็ได้ขึ้นอยู่กับอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ และทิศทางเงินเฟ้อประเทศไทยที่กนง.คาดการณ์ไว้ ส่วนการท่องเที่ยวของไทยปัจจุบันจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาวันละ 3 หมื่นคน ตกเดือนละเกือบ 1 ล้านคน เรามองว่า อาจเป็นไปตามที่รัฐบาลคาดการณ์ที่จะได้เห็นนักท่องเที่ยว 8 ล้านคน ในปี 2565 และปี 2566 ที่ระดับ 12-15 ล้านคน โดยทิศทางตัวเลขรายเดือนเป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องจับตา เพราะเป็นตัวขับเคลื่อนและมีอิทธิพลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

 

 

ตลาดหุ้น ไทย น่าจะดีกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคอื่น ๆ แม้ในแง่ของค่า P/E ตลาดหุ้น ไทย จะมีพรีเมี่ยมสูงกว่าค่าเฉลี่ยในภูมิภาคอยู่บ้าง โดยเฉพาะตลาดหุ้นเวียดนามที่โดดเด่นในปีนี้ แต่เวียดนามเป็นตลาดหุ้นชายขอบ (Frontier Marketที่เพิ่งเริ่มต้นและเม็ดเงินลงทุนของต่างชาติเข้าได้จำกัด แม้ตลาดหุ้น ไทย ไม่ได้ให้ผลตอบแทนแรง 30-40% เหมือนหุ้นเวียดนาม แต่คาดหวังผลตอบแทน 6-10% ต่อปีนั้นยังเป็นไปได้ และภาพรวมตลาดหุ้นไทยไม่น่าจะผันผวนมากเหมือนต่างประเทศ อาจเป็นเพราะข้อดีของตลาดหุ้นไทยที่มีหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์มากซึ่งมีผลต่อดัชนี’ นายชัยพร กล่าว

 

 

หุ้นไทย ภาวะ ตลาดหุ้น ไทย วัน นี้

 

 

นายชัยพร กล่าวต่อว่า กลยุทธ์การลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้ เรายังคงแนะนำให้จัดพอร์ตแบบเน้นกระจายการลงทุน เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวน โดยให้น้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นสัดส่วน 60%, กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์, กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานสัดส่วน 20% เนื่องจากมองว่าอสังหาริมทรัพย์จะฟื้นตัวและมีการจ่ายเงินปันผลที่น่าสนใจ นอกจากนี้ควรมีการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ ทองคำ และน้ำมันสัดส่วน 10% ที่เหลือแนะนำให้ถือเป็นเงินสดและตราสารหนี้ระยะสั้นสัดส่วน 10%

 

 

สำหรับกลุ่มหุ้นแนะนำเป็นกลุ่มที่ดีอยู่แล้วและคาดว่าจะดีต่อเนื่อง คือ กลุ่มโภคภัณฑ์, น้ำมัน, ถ่านหิน และกองเรือ คาดการณ์กำไรยังเติบโตต่อเนื่อง นอกจากนั้นยังแนะกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ย เช่น กลุ่มสถาบันการเงิน รวมถึงหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่อาจมีกำไรเติบโตโดดเด่นกว่าโรงพยาบาลขนาดกลางและเล็ก เพราะได้รับผลกระทบไม่มากนักจากภาวะอัตราเงินเฟ้อและดอกเบี้ยขึ้น สำหรับกลุ่มอาหารส่งออกไก่ หมู น่าจะดีต่อเนื่องจนถึงสิ้นปีนี้จากภาวะขาดแคลนอาหาร และค่าเงินบาทอ่อนเทียบค่าเงินสหรัฐ (USD) ส่วนหุ้นโรงไฟฟ้า, คอนซูเมอร์ไฟแนนซ์, อิเล็กทรอนิกส์ และอสังหาริมทรัพย์ ยังไม่แนะนำในช่วงนี้จนกว่าจะเห็นภาพราคาก๊าซ และอัตราผลตอบแทนหุ้นกู้เริ่มลดลง

 

 

หุ้นไทย ภาวะ ตลาดหุ้น ไทย วัน นี้

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น