เรื่องของการปลดล็อค “กัญชา-กัญชง” ออกจากการเป็นยาเสพติดประเภทที่ ๕ ต้องถือว่าเป็นผลงานโบว์แดงชิ้นสำคัญของพรรคภูมิใจไทย ภายใต้การนำของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล ที่ประกาศนโยบายเรื่องนี้เป็น “ธง” ของพรรคมาตั้งแต่ต้น ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งคราวที่แล้วเมื่อปี ๒๕๖๒ ก่อนที่ล่าสุดเรื่องของการผลักดันให้กัญชากัญชงพ้นจากบัญชียาเสพติดก็สำเร็จมรรคผลตามตั้งใจ นับตั้งแต่ ๙ มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ยังยกเว้นช่อดอก ใบติดช่อดอก และเมล็ดกัญชา รวมถึงสารสกัดที่มี THC มากกว่าร้อยละ ๐.๒ ส่วนพืชกัญชาและสารสกัดที่มี THC ไม่เกินร้อยละ ๐.๒ ไม่ถือเป็นยาเสพติด สามารถใช้ได้โดยไม่ผิดกฎหมายยาเสพติด พรรคภูมิใจไทยตีฆ้องร้องป่าวประกาศว่ากัญชากัญชง คือ พืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่จะทำรายได้อย่างงดงามให้กับชาวบ้าน และตัวยาในกัญชาก็มีสรรพคุณรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้กับคนได้สารพัด ด้วยเหตุนี้การส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกกัญชาอย่างถูกต้องและนำไปใช้อย่างรู้เท่าทันจึงน่าจะมีประโยชน์มากกว่าโทษ อย่างน้อยประโยชน์ของกัญชาที่เห็นชัดเจนก็มีอยู่หลายด้าน อาทิ ๑.เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ พัฒนาภูมิปัญญาทางการแพทย์แผนไทย ๒.ให้ประชาชนมีทางเลือกในการดูแลสุขภาพของตนเอง๓.ให้เกิดเป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ประชาชนจากการปลูก การผลิต และการขายผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา กัญชง รวมทั้งสารสกัด๔.ส่งเสริมให้มีการวิจัย และพัฒนานวัตกรรมทั้งพืช และผลิตภัณฑ์จากกัญชา กัญชง ๕.คุ้มครองประชาชน ซึ่งอาจจะได้รับอันตรายจากการบริโภคกัญชา กัญชง และป้องกันการใช้กัญชา กัญชง ในทางที่ผิด
ต้องบอกว่าพรรคภูมิใจไทยผ่านร้อนผ่านหนาว ฝ่ามรสุมดงตีนต่อสู้เรื่องนี้มานานหลายปีลงทุนลงแรงทำการบ้านมามากกับเรื่องนี้ กว่าจะประสบผลสำเร็จมาถึงทุกวันนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะแสวงหาแนวร่วมจากภาคส่วนสังคมต่างๆ หมอ นักวิชาการ สื่อสารมวลชน เอ็นจีโอ ภาคประชาชน ฯลฯ ที่สำคัญคือคนส่วนใหญ่ในบ้านเมือง หากไม่ตกผลึกไม่เห็นร่วมกันจริงๆคงยากที่กัญชาจะปลดล็อคจากบัญชียาเสพติดประเภท ๕ และสามารถปลูกใช้กันได้สำเร็จเหมือนอย่างเช่นทุกวันนี้ วัดจากกระแสของคนที่ลงทะเบียนในแอพ “ปลูกกัญ” และความตื่นตัวอยากได้ต้นกัญชาไปปลูกจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงหน่วยงานต่างๆของรัฐต้องบอกว่ามีอย่างล้นหลาม ร้านค้า ร้านอาหาร เค้ก ขนม เครื่องดื่ม ฯลฯ ยังต้องออกผลิตภัณฑ์ใหม่ผสมใบกัญชามาเป็นตัวชูโรงตามกระแสยอดฮิตของคนในตอนนี้ แม้กระแสเห็นด้วยชื่นชมกับการปลดล็อคกัญชาจะล้นหลามจากหลายภาคส่วน
แต่ในอีกฝากฝั่งก็มีความเป็นห่วงสารพัดประเด็นกัญชาอยู่มากในหลายเรื่อง ทั้งจากบุคคลากรทางการแพทย์ นักวิชาการ สื่อ ครูบาอาจารย์ แม้กระทั่งส.ส.และส.ว. ที่เป็นคนกันเอง ก็ยังห่วงเรื่ององค์ความรู้ การรู้เท่าทันของเด็กๆและเยาวชน การควบคุมดูแลการนำไปใช้ กฎหมายและบทลงโทษสำหรับคนที่นำกัญชาไปใช้ในทางที่ผิดหรือเป็นโทษกับผู้อื่นและสังคม เหล่านี้ยังเป็นเรื่องนี้พรรคภูมิใจไทยต้องแสดงความจริงใจหาทางออก อุดช่องโหว่ปะรู้รั่ว อย่าไฟเขียวกัญชาให้เสรีแบบสุกเอาเผากินแบบลวกๆ ต้องทำทุกอย่างให้รอบครอบให้โปร่งใส อย่าให้เด็กๆเยาวชนต้องหลงผิด “ดูด พี้ ปุ๊น” กันให้เอิกเกริก อย่าให้กัญชากลายเป็นยาเสพติดที่ปล่อยออกมามอมเมาสังคม จะส่งเสริมให้เสรีปลูกขายกันอย่างไรไม่มีใครว่า แต่ต้องวางกฎเกณฑ์กันให้ชัด ต้องมีกฎหมายเอาผิดลงโทษพวกเอาไปใช้ในทางที่ผิดต้องระบุบทลงโทษให้หนักต้องหาทางป้องกันให้รัดกุม ไม่อย่างนั้นแนวคิดดีๆก็จะกลายเป็นของอุบาทว์แบบประโยคที่เขาว่า “ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา” เรื่องพวกนี้ต้องฝากพรรคภูมิใจไทยฝากเสี่ยหนูฝากพี่เนท่านไว้ ต้องทำให้รอบครอบรัดกุมเพราะคนเขาจ้องเขาติฉินนินทากันอยู่
ล่าสุดก็มีเสียงสะท้อนมาจากปาก “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร นายใหญ่คนแดนไกลนักโทษหนีคดี ที่ออกมาพูดผ่านคลับเฮ้าส์ ของกลุ่มแคร์คิด เคลื่อนไทย ในชื่อตอน “เศรษฐกิจพังยับ ประยุทธ์รับมือไม่ไหว” แสดงความเป็นห่วงการเปิดเสรีกัญชาปลดล็อคจากยาเสพติดของรัฐบาลไทย พร้อมแนะนำให้รัฐบาลเร่งให้ความรู้เรื่องคุณและโทษของกัญชากับเด็กและเยาวชน ไม่ใช่ปลูกเสรีอย่างเดียว ชาวบ้านจะปลูกกี่ต้นก็อย่าไปเก็บเงินเขาเข้าหลวง เพราะเขาปลูกในที่ของเขา ต้องมีการคุมว่าปลูกเพื่ออุตสาหกรรม ปลูกเพื่อการส่งออก หรือปลูกเพื่อการบริโภค “ ทุกอย่างมันต้องครบวงจร ไม่ใช่ว่าอยู่ๆอยากจะหาเสียง แล้วพูดว่าเห้ย….ปลูกกัญชาเสรีแล้ว ชนะแล้ว แต่ฉิบหายหมด ตอนนี้ประกอบอาหารใส่แม้กระทั่งในไข่เจียว แล้วมีใบอย.ด้วย ผมว่ามันเพี้ยนกันใหญ่ ผมมีเพื่อนคนนึงตอนเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ ตอนนั้นปี ๔ แล้วไม่มีใครคุม มันเอากัญชามาสูบช่วงอ่านหนังสือสอบ มันเสพแล้วโอเวอร์โด๊ส ตะโกนลั่นว่าโลกมันจะล่มสลายแล้วเว้ย เราก็กลัวมันโดดตึก อันนี้ผมเห็นกับตา เพราะฉะนั้นอย่าทำเป็นเล่นไป เพราะมันมีสารเสพติดในตัว มันมีทั้งโทษ และประโยชน์ วันนี้ที่ช่วยเศรษฐกิจอย่างนึงก็คือเศรษฐกิจยาเสพติดไง เยอะฉิบโพงเลย เม็ดนึงไม่กี่สิบตังค์ ๓๐-๔๐ บาทเท่านั้นเองเห็นว่า เพราะมันหาง่ายซื้อง่ายมาก ” นายห้างดูไบวิจารณ์นโยบายกัญชาในกลุ่มก๊วนตัวเองทางโซเชี่ยลมีเดียส์
ถามว่าสิ่งที่ทักษิณพูดน่าคิดไหมก็น่าคิดและน่าเป็นห่วง แต่ทำไมทักษิณถึงต้องออกมาขย่มผสมโรงเรื่องนี้ ไม่ต้องคิดมากเพราะเรื่องปลดล็อคกัญชามันติดลมบนติดใจชาวบ้าน วันนี้นโยบายปลดล็อคกัญชาของพรรคภูมิใจไทยถูกอกถูกใจชาวบ้านเป็นอย่างมาก ทั่วทุกทิศชื่นชมอย่างน้อยก็ทำให้ชาวบ้านมีช่องทางในการทำมาหากิน ผิดหรือถูกอย่างไรไม่ดีตรงไหนก็ออกกฎหมายมาคุมมาปิดช่องโหว่ อย่าได้แปลกใจที่เรื่องนี้จะทำให้คะแนนนิยมของพรรคภูมิใจไทยกระโดดขึ้นมาอีกมาโข “พูดแล้วทำ” คือสิ่งที่ภูมิใจไทยทำให้เห็นจริง โดยเฉพาะในภาคอีสานที่ชาวบ้านชื่นชมชื่นชอบเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ประเด็นกัญชาอาจเป็น “โบว์แดง” ของพรรคเสี่ยหนู แต่ก็กลายเป็น “ยาขม” ของพรรคเพื่อไทยฝ่ายทักษิณ เพราะคิดไม่ได้เอาไม่ทัน แม้ทักษิณจะแก้เกี้ยวว่าในอดีต “ปรมาจารย์หูกระต่าย” อย่าง พันศักดิ์ วิญญรัตน์ อดีตโคตรกุนซือด้านเศรษฐกิจของทักษิณจะเคยเสนอให้ปลดล็อคกัญชงในอดีตเพื่อเอาเส้นใยมาใช้ทอผ้า แต่เรื่องดีแบบนี้ก็ไม่เกิดในยุคทักษิณก่อนจะมาสำเร็จเป็นรูปธรรมในสมัยพล.อ.ประยุทธ์ผลักดันโดยอนุทิน
เจอกัญชาพาเพลินรอบนี้อีสานพรรคภูมิใจไทยคงได้คะแนนนิยมไปอีกมากโกยเสียงไปอีกโข ขณะที่พรรคเพื่อไทยของทักษิณคงลดฮวบ เพราะดูจากการหาเสียงคาราวานเพื่อไทยไปหลายจังหวัด ขอนแก่น อุดรธานี สุรินทร์ ศรีสะเกษ ฯลฯ พูดแต่เรื่องเก่าเม้าท์แต่เรื่องเดิม ไม่ด่าประยุทธ์ก็ด่าพรรคภูมิใจไทย พูดจาน้ำไหลไฟดับเคลมว่าจะทำนู้นนี้นั้นแต่ตอนอยู่เป็นรัฐบาลก็ไม่เคยคิดอ่านทำการอะไร ล่าสุด “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยยกขบวน ไป อ.อุทุมพรพิสัย อ.ราศีไศล อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เปิดตัวผู้สมัครของพรรค ขึ้นเวทีโม้ว่าถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลไม่ถูกปฏิวัติไปก่อน ป่านนี้คงมีรถไฟความเร็วสูงรับส่งทุเรียนภูเขาไฟไปขายให้ชาวบ้าน เรื่องพวกนี้อวยเก่งหยอดเก่งแต่ของจริงยุค “นายกฯอาปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่าว่าแต่สร้างจริงเลย ขนาดเขียนแผนไฮสปีดเทรนยังไม่มีผ่านแผ่นดินศรีสะเกษสักตารางเมตรเดียว
ทักษิณ อุ๊งอิ๊ง เพื่อไทย อย่าคิดว่าคนอีสานเป็นของตายภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะเอาตอนไหนก็ได้เลือกตั้งทั่วไปทุกครั้งก็เป็นแชมป์ตลอดกวาดแทบยกภาค อดีตแต่เก่าก่อนมันเป็นแบบนั้นจริงๆ แต่ถ้าไปไล่เรียงดูดีๆ เลือกตั้งคราวที่แล้ว ๒๔ มี.ค.๒๕๖๒ พรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้กวาดยกแผงเหมาเข่งแต่อย่างใด รอบก่อนอีสานมีส.ส.เขตได้ ๑๑๖ คน พรรคเพื่อไทยกวาดมา ๘๔ คน ๔,๐๐๗,๒๗๖ คะแนน , พรรคภูมิใจไทย ๑๖ คน ๑,๗๒๗,๗๕๒ คะแนน , พรรคพลังประชารัฐ ๑๑ คน ๒,๓๗๖,๔๑๑ คะแนน พรรคอนาคตใหม่ ๑ คน ๑,๕๘๘,๖๓๔ คะแนน พรรคประชาธิปัตย์ ๒ คน ๒๙๖,๓๐๘ คะแนน พรรคชาติพัฒนา ๑ คน ๑๔๕,๔๓๓ คะแนน พรรคชาติไทยพัฒนา ๑ คน ๑๓๖,๒๓๖ คะแนน จะเห็นได้ชัดว่าแม้พรรคเพื่อไทยจะได้แชมป์ภาคอีสานก็จริงแต่ก็ถูกแย่งไปถึง ๓๒ ตัว ไม่ได้กวาดเรียบวุธเท่าเก่า หนำซ้ำรอบที่แล้วคู่แข่งก็น้อยไม่ได้มากเหมือนเลือกตั้งรอบใหม่ที่กำลังจะมาถึง อย่าลืมว่าเที่ยวนี้การเลือกตั้งจะแบ่งเขตใหม่ จาก ๓๕๐ เขตเป็น ๔๐๐ เขต เบื้องต้นอีสาน ๒๐ จังหวัดจะได้ส.ส.เพิ่มจาก ๑๑๖ คนเป็น ๑๓๒ คน เพิ่มจากเดิม ๑๖ คน นายใหญ่เพื่อไทยอย่าดูแคลนพรรคภูมิใจไทย ไฟเขียนใบกระท่อมปลดล็อคกัญชากัญชงจนติดลมบน ล่าสุดตัวเลขส.ส.ของพรรคเสี่ยหนูก็พุ่งไม่หยุดเผลอๆตอนนี้อาจเกิน ๗๐ คน เพราะงูเห่า งูฝาก ปลาไหล อยากลงรูเสี่ยหนูเพียบ ล่าสุด “เสี่ยโอ๋” ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ราชรถ ๑ ในฐานะเลขาธิการพรรคออกมายืนยันเที่ยวหน้า ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ จะพาพรรคพวกเข้ามาซบภูมิใจไทย ขยายบารมีเติมทุนเข้าไปอีกแถมอนาคตยังมีรอเปิดตัวอีกเพียบ
สนามเลือกตั้งอีสานรอบหน้าอย่าคิดว่ามีแค่เพื่อไทยกับภูมิใจไทยเท่านั้น อย่ามองข้ามพรรคแกนนำรัฐบาลอย่างพรรคพลังประชารัฐ ถ้า ๓ ป.กลับมาตั้งลำได้เมื่อไหร่ รีโนเวทพรรคใหม่ให้ไฉไล เอานายกฯมาเป็นหัวพรรค จับคนปรับระเบียบกันให้ดี เลือกตั้งคราวหน้าก็ยังมีลุ้น เพราะมี “ปืน เงิน อำนาจ” อยู่ในมือ ถ้าทุ่มเทกันหนักๆลงแรงกันจริงๆ ทักษิณเหนื่อยแน่ นอกจากนี้ยังมีพรรคก้าวไกลที่กำลังขึ้นหม้อหลังผลักดันพ.ร.บ.สุราก้าวหน้าได้สำเร็จ จ่อปลดล็อค “เหล้าพื้นบ้าน-คราฟเบียร์” แม้แค่ผ่านวาระ ๑ แต่ก็เห็นความพยายามในการสร้างสิ่งใหม่ๆเพื่อปากท้องชาวบ้าน ก็กำลังรุกหนักในอีสานเช่นกัน รวมถึงพรรคน้องใหม่มาแรงอย่างพรรคไทยสร้างไทยของ “เจ๊หน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่สะสมขุนพลทางการเมืองไว้เพียบ อาทิ โภคิน พลกุล อดีตประธานสภาฯ , พงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองนายกฯ , วัฒนา เมืองสุข อดีตรมว.พาณิชย์ , พงศกร อรรณนพพร อดีตรมช.ศึกษาธิการ ,อุดมเดช รัตนเสถียร อดีตรมว.พัฒนาสังคมฯ , ต่อพงษ์ ไชยสาส์น อดีตรมช.สาธารณสุข , สุธา ชันแสง อดีตรมว.พัฒนาสังคมฯ ,ประวัฒน์ อุตโมท อดีตรมช.เกษตรฯ ฯลฯ
หรือพรรคสร้างอนาคตไทยของ ๒ กุมาร อุตตม สาวนายน และ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ที่เดินหน้าชูจุดขายฟื้นเศรษฐกิจประเทศหลังโควิด-๑๙ เดินหน้าแก้ไขปัญหาปากท้องด้วยแคนดิเดตนายกฯเศรษฐกิจมืออาชีพอย่าง “เฮียกวง” สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่รอบนี้จะออกจากเบื้องหลังมาอยู่ฉากหน้าขอลุ้นเก้าอี้สร.๑ เต็มตัว นอกจากนี้อย่ามองข้ามพรรคเศรษฐกิจไทยของ “ผู้กอง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แม้จะมีแค่ ๑๘ เสียงในมือ แต่ก็มีพลังภายในและใต้ดิน พร้อมเปิดศึกสู้ตายถวายหัวกับพรรคเพื่อไทยเช่นกัน ถึงเวลาตอนนั้นอย่าคิดว่าจะมีการซูเอี๋ยยอมกันง่ายๆ เพราะเลือกตั้งเกิดขึ้นก็ตัวใครตัวมัน ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย พรรคชาติไทยพัฒนา ฯลฯ ก็พร้อมสอดแทรก กวาดสายตาดูสนามเลือกตั้งอีสานแบเบอร์เพื่อไทยแลนสไลด์ไม่ใช่จะเกิดขึ้นง่ายๆ ยุคสมัยทักษิณมันจบแล้ว ชนะเลือกตั้งถล่มทลายคงไม่เกิดได้ง่ายๆ ตัวแปรตอนนี้ต้องรอดูกฎหมายลูกจะเอาไง โดยเฉพาะประเด็นคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ จะ ๕๐๐ หาร หรือ ๑๐๐ หาร ถ้า ๑๐๐ หารเข้าทางทักษิณ แต่ถ้ากลับลำมา ๕๐๐ หารเป็นทางของประยุทธ์เป็นโอกาสของพรรคเล็ก ถ้ามาสูตรหารครึ่งพันบอกเลยพรรคเพื่อไทยแตกแน่ เพราะมีพวกรอจ่อย้ายอีกหลายสิบ เตรียมสวมวิญญาณงูเห่าปลาไหลอีกหลายคน ๑๐ ถึง ๒๐ คนมีแน่ เพราะฉะนั้นที่นายห้างดูไบออกมาโม้ๆพรรคตัวเองจะแลนด์สไลด์ลูกสาวคนเล็กจะได้เป็นนายกฯ ถึงเวลาเรื่องกลับบ้านอาจเป็นหมัน เผื่อใจล้มเหลวเอาไว้บ้างนะพี่โทนี่
////////////////////////////