วันนี้ นายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยถึงการติดตามผลกระทบหลังปลดล็อกกัญชา เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า จากการติดตามใน 3 โรงพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลราชวิถี, โรงพยาบาลเลิดสิน และโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี สังกัดกรมการแพทย์ พบผู้ได้รับผลกระทบรวม 9 คน
กรมการแพทย์ เผย ผ่านมา 11 วัน หลังปลดล็อกกัญชา มีคนรับประทานอาหารผสมกัญชา หรือสูบกัญชา เข้ารักษาในรพ. 3 แห่ง รวม 9 คน มีทั้งกินส้มตำหน่อไม้ผสมกัญชา กาแฟผสมกัญชา และคุกกี้ผสมกัญชา
ข่าวที่น่าสนใจ
โดยพบผู้ป่วยมากสุดในวันที่ 16 มิถุนายน ถึง 4 คน จาก โรงพยาบาลราชวิถี และนพรัตนราชธานี แห่งละ 2 คน ซึ่งมีทั้งคนที่สูบกัญชาเพื่อสันทนาการ และอีกส่วนหนึ่งมาจากการรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชา ทั้งการกินคุกกี้ผสมกัญชา, ส้มตำหน่อไม้, กาแฟในกัญชา อย่างไรก็ตามได้มีการกำชับให้ห้องฉุกเฉิน ของทุกโรงพยาบาลในสังกัด ให้มีการคัดกรองประวัติผู้ป่วยที่มาถึงห้องฉุกเฉินให้ละเอียด เพราะบางรายเป็นการเดินทางมาด้วยตัวเอง บางคนก็ญาตินำส่ง และในคนที่สูบกัญชากังวลหากมีการให้ข้อมูลว่าใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ กลัวจะถูกดำเนินคดี ทั้งนี้ยืนยันว่า ทางสถานพยาบาลไม่ได้มีการดำเนินคดี แต่ต้องการช่วยเหลือทางการแพทย์ เช่นเดียวกับกรณีพบผู้ป่วยต่างด้าวเข้าเมือง ที่หากเจ็บป่วยก็รักษาโดยไม่ได้มีการแจ้งความดำเนินคดี
นพ.มานัส กล่าวว่า สำหรับคนที่ไม่ควรใช้กัญชา ได้แก่ คนที่มีประวัติหัวใจและหลอดเลือด คนที่มีโรคประจำตัว เด็ก สตรีมีครรภ์ หรือหญิงให้นมบุตร คนที่เตรียมตัวจะตั้งครรภ์ เชื่อว่าจากนี้สถานการณ์ผู้ได้รับผลกระทบจากกัญชาที่มาจากการรับประทานอาหารจะลดลง เนื่องจากคนจะค่อยๆ มีความเข้าใจมากขึ้น ในอนาคตจะมีแอปพลิเคชั่นห่วงใย ให้สามารถประเมินผลกระทบเบื้องต้นจากัญชา และเข้าข่ายเสพติดกัญชาหรือไม่ พร้อมีสารด่วนยาเสพติด 1165 ให้คำปรึกษา โดยก่อนหน้านั้นทางโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้เคยเปิดเผยว่า มีผู้ที่เข้ามารับการรักษาใน รพ. จากบริโภคอาหารผสมกัญชา รวม 3 คน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-